ลูกไม้หล่นใต้ต้น น้องผักบุ้ง ลูกสาว ทศพล หิมพานต์ เดินรอยตามคุณพ่อ เป็นนักแหล่ตอนนี้ฮอตมากงานเยอะกว่าคุณพ่ออีก?
ทศพล หิมพานต์ ที่วันนี้ควงลูกสาวคนสวย ผักบุ้ง บุญญาพร มาเปิดใจตอนนี้ น้องผักบุ้ง กลายเป็นนักแหล่อายุน้อยสุดฮอต พร้อมเปิดความสนิทพ่อลูก ที่บอกเลยว่าคุณพ่อหวงลูกสาวหนักมาก พร้อมเล่านาทีชีวิตที่น้องผักบุ้งเกือบตายมาแล้วถึง 2 ครั้งผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
น้องผักบุ้งเป็นนักแหล่ที่โด่งดังมากในโลกออนไลน์ งานเยอะกว่าคุณพ่อ ตอนนี้น้องอายุเท่าไหร่?
ผักบุ้ง : 10 ขวบ ย่าง 11 ขวบค่ะ
ทศพล : เมื่อก่อนใครจะติดต่อก็ติดต่อทศพล เดี๋ยวนี้ พอน้องผักบุ้งมีกระแสในโซเชียลก็เอาไปด้วยกันบ้าง แต่ว่าติดต่อเดี่ยวก็เยอะเลย ไม่เอาพ่อ
เวลาติดต่อผักบุ้งคนเดียว พ่อไปด้วยไหม?
ทศพล : จะมีทีมงานไป ถ้าเกิดไม่ติดติดต่อผม ผมจะส่งทีมงานไป
ถ้าเราไม่ผิด คุณพ่อเป็นคนสอนน้อง?
ทศพล : ใช่ครับ เห็นเค้ามีพรสวรรค์ ก็ฝึกให้เค้าตั้งแต่ 3 ขวบกว่าๆ
เห็นแววอะไรในตัวเค้าถึงได้ฝึกให้ลูกแหล่?
ทศพล : คือเป็นลูกเรา เราอยากจะลองเสี่ยง ตอนเด็กๆ เค้ากล้าร้อง ก็เลยฝึกมาเรื่อยๆ
ผักบุ้งรู้ตัวว่าตัวเองชอบร้องเพลงตั้งแต่ตอนไหน?
ผักบุ้ง : ประมาณ 3 ขวบกว่าๆ เห็นคุณพ่อร้องเพลง ก็เลยอยากลองร้องบ้าง
น้องเคยทำไม่ได้แล้วขัดใจพ่อบ้างไหม?
ทศพล : บางครั้งก็มีเหมือนกัน บางครั้งขี้เกียจ อยากเล่นโทรศัพท์บ้าง อยากวิ่งเล่นบ้าง ตามประสาเด็ก วันนี้ไม่ซ้อมนะ ผมก็จะบอกว่า ถ้าลูกไม่ซ้อมก็จะไม่เก่งนะ เสียงก็ต้นทุนพอได้อยู่แล้ว ถ้าเราขยันก็จะทำให้เราเก่งขึ้น
เห็นว่าถ้าไม่ทำจริงๆ พ่อมีจ่ายตังค์ จ่ายค่าตัวให้?
ทศพล : ได้แต่บอกว่าเห็นไหมเวลาไปงาน ไปร้องโชว์สองสามเพลง เราก็จะได้รางวัล พอได้เงินก็มีแรงจูงใจ เห็นไหมลูกได้ค่าขนม หนูไม่ร้องหนูก็จะไม่ได้ตังค์นะ ตั้งแต่เล็กๆเลยเค้าก็ขยันร้อง
ทุกวันนี้ได้เงินจากการร้องเพลง เก็บเงินได้เท่าไหร่แล้ว?
ผักบุ้ง : หลักแสนแล้วค่ะ
เห็นว่าน้องผักบุ้งอยากทำขวัญนาค แต่คุณอาไม่อนุญาตเพราะอะไร?
ทศพล : เราเป็นหมอทำขวัญนาคมาตั้งแต่ไหนแต่ไร คือถ้าทำขวัญนาค เค้ายังเล็กอยู่ ผู้หญิงที่จะไปทำขวัญนาค ให้กับเจ้านาค ที่มีอายุ 20 ขึ้นไป ถ้าความเหมาะสมก็ต้องมีอายุ 20 ขึ้นไปเป็นตัวแทนแม่ของเจ้านาค อันนี้เราไม่ว่ากัน บางคนโอเคไม่เป็นไร แต่สำหรับผม 20 ขึ้นมันน่าจะเหมาะสมกว่า ก็เลยว่า ตอนนี้ไม่รับทำขวัญ แต่ว่าเอาไปร้องโชว์
บางคนอาจจะไม่เข้าใจ ประเพณีการทำขวัญนาค หมอนาคเวลาแห่ จะต้องแห่ตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์?
ทศพล : ใช่จะต้องไล่มาตั้งแต่กำเนิด เป็นผีพุ่งใต้มาเลย เล่าย้อนแบบโบราณ
มันก็มีมีข่าวเม้าท์ว่าคุณอาใช้ตัวเองในการดันผักบุ้งเข้าวงการ คุณอามองเรื่องนี้ยังไง?
ทศพล : ก็ใช่ ยอมรับเลย เราเป็นศิลปิน เป็นนักแหล่ ฝึกวิชาให้ลูกเราเจริญรอยตาม ถามว่าเอาลูกมาหากินไหม ก็ไม่รู้เราเป็นศิลปินก็อยากให้ลูกเป็นศิลปินเหมือนกัน ถ้าเค้ามีพรสวรรค์และมีแนวโน้มที่จะไปได้ ก็พร้อมที่จะฝึกเขาให้ร้องไปกับเรา ให้เป็นตัวแทนเราได้
แต่มันก็มีคนเม้าท์อีก ตอนนี้หมดยุคเราแล้ว ต้องเกาะลูกกิน?
ทศพล : มีคอมเม้นต์มาเยอะ เราก็เข้าใจ เราได้ทราบแต่ไม่ได้ไปตอบโต้ ที่เค้าคอมเม้นต์มา เค้าก็อาจจะคิดของเค้า เค้าอยากจะรู้ก็ถามมา ถามว่าผมโกรธไหม ไม่เคยโกรธ เป็นแรงผลักดัน เป็นแรงกระตุ้นสะอีก ที่ต้องฝึกฝนลูกสาวให้เก่ง ไม่ใช่ว่าลูกเราไม่เป็น แต่พยายามดันอยู่อย่างนั้น เราก็เห็นว่าลูกมีพรสวรรค์ เสียงมันไปได้ เราก็พยายามผลักดัน
ตัวน้องผักบุ้งมีอะไรอยากจะบอกไหม น้องรู้เรื่องไหมคุณพ่อถูกคอมเม้นต์แบบนี้?
ผักบุ้ง : หนูไม่โกรธหรอกค่ะ มันเป็นความคิดของเค้า หนูก็ฝึกไปเรื่อยๆ ให้เก่งกว่านี้ ฝึกไม่ให้เค้าอีก
ผักบุ้งสนิทกับคุณพ่อขนาดไหน คุณพ่อดุไหมเวลาสอนเรา ?
ผักบุ้ง : คุณพ่อเป็นคนใจดีค่ะ
วิธีการดุของคุณพ่อคือยังไง ?
ผักบุ้ง : ใช้เสียงดังค่ะ
เวลาพ่อดุเรากลัวไหม ?
ผักบุ้ง : บางทีก็กลัว บางทีก็งอนพ่อ
แล้วเค้าง้อเราไหม ?
ผักบุ้ง : ไม่ง้อ
เวลาพ่อดุฟ้องแม่ไหม ?
ผักบุ้ง : แม่บอกว่าก็ต้องซ้อมสิ พ่อจะได้ไม่ดุ
มีอะไรผักบุ้งจะไปคุยกับคุณแม่มากกว่า เพราะแม่สปอยล์กว่าพ่อ จริงไหม?
ทศพล : บางทีผมไม่ค่อยตามใจเท่าไหร่ อยากจะได้อะไรต้องมีเหตุผล มันต้องสำคัญ ต้องจำเป็น ถึงจะให้
ผักบุ้ง : คุณแม่เป็นคนดุนะคะ แต่คุณแม่เป็นคนเข้าใจง่าย ก็เลยปรึกษาแม่
คุณพ่อเม้าท์เรา หนูเป็นเด็กเจ้าน้ำตา น้ำตาใหลตลอดเลย?
ผักบุ้ง : ค่ะ พ่อบอกว่า หยุดร้องเลยนะผักบุ้ง อันนี้พ่อต้องสอน มันไม่ถูก
ทศพล : เค้าเป็นคนพูดน้อยหน่อย ถ้าเกิดไม่พอใจน้ำตาใหลแล้ว แต่ไม่ได้บ่อยมาก
การร้องเพลงถือเป็นอาชีพของน้องเลยได้ไหม ?
ทศพล : ถ้าอาชีพคงยัง หลักๆ คือให้เรียนก่อน ถ้าเสาร์-อาทิตย์ ผมมีงาน ก็จะเอาน้องไปโชว์ เอาน้องไปร้องให้มีประสบการณ์
เรื่องการเรียนต้องที่หนึ่ง ?
ทศพล : ใช่ครับ ยังไงก็จะไม่ให้ขาดโรงเรียน
สองอย่างรวมกัน แต่ให้น้ำหนักไปที่การเรียน?
ทศพล : ใช่ครับ ด้วยความที่เราไม่รู้อนาคต ศิลปินจะแน่นอนหรือเปล่า โตไปความคิดเขาอาจจะเปลี่ยนก็ได้ ก็ต้องให้เรียนเป็นหลักไว้ก่อน
ผักบุ้งทั้งเรียนและก็ทำกิจกรรมที่เผื่อเป็นอาชีพในอนาคต เหนื่อยไหม ?
ผักบุ้ง : มีเหนื่อยบ้างค่ะ มีท้อบ้าง แต่เวลาท้อก็จะคุยกับคุณพ่อ คุณแม่ อธิบายให้ท่านฟัง พ่อกับแม่ก็จะบอกว่า ต้องเข้มแข็ง สู้ๆ งานเรามีเยอะ เราก็ต้องสู้ๆ ไว้
เรียกว่าน้องผ่านนาทีชีวิตได้ไหม ?
ทศพล : ผักบุ้งเนี่ย คือเฉียดมาสามครั้งเลย ใช่เฉียดตายเลยแหละ ครั้งแรกตอนประมาณ 2 ขวบกว่าๆ นั่งอยู่แบบนี้ เค้าเหมือนดูโทรศัพท์ สักพักนึงเค้าก็ฟุบไปเลย หมดสติไปเลย ผมก็อุ้มแบบเขย่าเค้า วิ่งไปหน้าบ้าน หลังบ้านก็ยังไม่ฟื้น เป่าปากก็แล้วก็ยังไม่ฟื้น ต้องรีบเอารถออกหาหมอ ไปถึงหมอก็จับดูอะไรแล้วก็เฮือกขึ้นมา สะดุ้งขึ้นมาแต่ก็ยังอ่อนอยู่ แต่รู้สึกตัวแล้ว แต่สักพักก็เหมือนไปอีก จนหมอเช็คดูอะไร พอตรวจดูเริ่มดีขึ้น หมอตรวจไม่พบสาเหตุอะไร อย่างอื่นปกติหมด ปัจจุบันนี้ก็ยังยังไม่รู้เลย
ความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง ?
ทศพล : แทบช็อคตายเลย วิ่งพล่านหมดเลย ร้องกันน่าดู
แต่ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำขึ้นอีก ตอนอายุ 6 ขวบ?
ทศพล : ครั้งที่2 โดยประมาณ 5 ขวบกว่าๆ ครั้งที่2 จมน้ำ ไปเล่นน้ำที่บางแสน ในน้ำจืด มีเด็กเล่นเต็มไปหมด ก็จะมีพี่เลี้ยงเล่นอยู่ด้วย แล้วแม่นั่งอยู่ริมสระ แม่ก็สงสัยผักบุ้งไปไหน เห็นเด็กคนอื่นแต่ไม่เห็นผักบุ้ง
ผักบุ้ง : มันมีสองระดับ มีสระผู้ใหญ่กับเด็ก หนูจะเอื้อมไปหยิบของเล่น ฝั่งสระผู้ใหญ่ แล้วหนูไม่ได้ใส่ห่วงยาง หนูถอดออกแล้วเดินไปเลย หนูจำภาพได้แม่นก็คือตอนที่หนูจมลงไปหนูก็ถีบบันได ตรงสระผู้ใหญ่
ทศพล : ก็หายไปพักนึงกินน้ำไปหลายอึก แม่เค้าก็ตะโกน ผักบุ้งไปไหน พี่เลี้ยง2 คนก็ช่วยกันหา ขึ้นมาก็เฮือกๆ อยู่
นอกจากจะทำหมอนาคคุณอาก็ยังทำโรงงานลูกชิ้นที่ยิ่งใหญ่มาก ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
ทศพล : เป็นสถานประกอบการแบบครอบครัว ไม่ได้ใหญ่มาก เนื้อที่3ไร่ ผมทำมาประมาณ 7 ปี ก่อนหน้านั้น อย. ไม่ได้เน้นอะไรมากมาย แต่เมื่อมีข่าว โรงงานที่นู่นไม่สะอาด หมูยอที่โน่นเน่า อย.ก็เลยเน้น ผมก็ก็เลยทุบตรงนั้นมาสร้างตรงนี้ เพื่อทำให้ถูกต้องตามอย.เค้า เพิ่มเงินจากโรงงานที่ทำตอนแรก 11 ล้าน ตอนนี้ก็เพิ่มประมาณ 5-6 แสน ไม่มากเท่าไหร่
ที่เค้าเม้าท์กันว่ามีปัญหาหนักมาก คือเรื่องนี้หรอ เราต้องเคลียร์ระบบทุกอย่าง?
ทศพล : ใช่โรงงานลูกชิ้น แต่ก่อนหน้าหน้านั้นที่หมดไปเป็น 10,000,000 ผมลงทุนให้พี่ ให้น้อง ทำหลายเรื่อง แต่ล่าสุดผมไปทำโรงงานลูกชิ้น ตอนนี้ก็พอไปได้ ขอ อย. น่าจะได้ประมาณอีกไม่กี่วัน เค้ามาตรวจเรียบร้อยแล้วที่โรงงาน ตอนนี้ก็รออนุมัติอย่างเดียว
ตอนนี้ก็มีวางแผนอะไรในอนาคตต่อจากนี้ ?
ทศพล : ด้วยความที่เราเป็นนักร้อง อาชีพเราไม่แน่นอน พยายามจะสร้างเอาไว้ เพื่อไม่มีงานจะได้ให้ลูกๆ
ตอนนี้มีหนักใจอะไรไหมในเรื่องของชีวิต เรื่องของครอบครัว?
ทศพล : ไม่ได้หนักใจอะไร สบายดี
คุณพ่อห่วงอะไรลูกสาวบ้าง ?
ทศพล : ก็ห่วงทุกเรื่อง ยิ่งจะโตเป็นสาวก็ยิ่งห่วงมาก เพราะเรามีลูกตอนอายุมาก อีกอย่างกลัวว่าจะตายซะก่อน ก็เป็นห่วงหลายหลายเรื่อง ก็ห่วงอนาคตเค้า อย่างร้องแหล่ ก็เผื่อเอาไว้ให้เค้าเลี้ยงตัวได้ ส่วนการเรียน ถ้าเรียนสูงๆ ก็เป็นอะไรที่ทำให้เรารอดเลี้ยงชีวิตได้
ลูกรักคุณพ่อและเป็นห่วงคุณพ่อไหม ?
ผักบุ้ง : ห่วงคุณพ่อค่ะ เรื่องคุณพ่อไม่อยู่กับหนู
อยากให้ พ่อ ลูก บอกความในใจ?
ทศพล : พ่อเป็นห่วงลูก อย่าดื้อ บอกอะไรก็ให้ฟัง บางทีก็มีรั้นบ้าง แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไร ให้ทำอะไรก็สอนไปในสิ่งที่ดีทั้งนั้น บางทีพ่อบังคับบ้าง เพราะพ่อรัก