ป๋าเบียร์-แม่ตั๊ก แจงยิบ! สยบข่าวหนีออกนอกประเทศ ขณะที่ผู้เสียหายยกทัพแฉอื้อ

ดรามาซื้อทองออนไลน์! ป๋าเบียร์-แม่ตั๊ก แจงยิบ! สยบข่าวหนีออกนอกประเทศ ด้าน ผู้เสียหายยกทัพแฉ ซื้อทองแต่ขายต่อไม่ได้ 

จากกรณี ผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ออกมาโพสต์เรื่องราวที่ตนเองซื้อทองออนไลน์ มาจากช่องไลฟ์ของแม่ค้าชื่อดัง เป็นสร้อยพร้อมจี้ไอ้ไข่ และดอกไม้ทองคำ แต่เมื่อนำไปขายที่ร้านทอง ปรากฏว่าทางร้านทองไม่รับซื้อ เพราะไม่มีเปอร์เซ็นต์ทอง และไม่มียี่ห้อ เชื่อว่าถ้ารับซื้อแล้วนำไปหลอม จะไม่เหลืออะไรเลย จึงตัดสินใจนำมาเตือนภัย 

ซึ่งหลังคลิปนี้ถูกเผยแพร่ไปทำให้ลูกค้าหลายคนที่เคยซื้อไปเกิดความไม่เชื่อมั่น เนื่องจากเข้าใจมาตลอดว่า ซื้อทองดังกล่าวเก็บไว้เพราะมีมูลค่าสามารถนำไปขายต่อได้นั้น 

ต่อมาวันที่ 23 ก.ย. 67 น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก เจ้าของร้านเพชร ร้านทอง และอาหารเสริม นักธุรกิจแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ห้างทองของเราจำหน่ายทองคำแท้ ไม่มีทองปลอม ซึ่งตอนนี้ทางร้านเกิดความเสียหายเยอะมาก โดยเฉพาะการพาดหัวข่าวว่าการซื้อทองออนไลน์เสี่ยงปลอม พวกขายทองออนไลน์ทองปลอม ทำให้เหมาไปทุกร้านและสร้างความเสียหายไปเยอะมาก 

และเมื่อวานร้านได้มีการเปลี่ยนจอแอลอีดีแล้วมีนักข่าวไปไลฟ์อยู่ที่หน้าร้าน แล้วทำข่าวว่าตนและป๋าเบียร์เตรียมตัวบินออกนอกประเทศนั้น ไม่มีเหตุผลใดๆ เลยที่เราต้องบินออกนอกประเทศ เพราะเราไม่ได้ฉ้อโกง และไม่ได้ทำแชร์ลูกโซ่ เราไม่มีเจตนาขายของปลอม หรืออะไรใดๆ เพราะฉะนั้นการเสนอข่าวของสื่อไม่ควรบิดเบือนข้อเท็จจริง อีกทั้งการนำเสนอข่าวเอารูปตนไปแขวน พร้อมกับระบุว่าห้างทองแม่ตั๊กเปอร์เซ็นต์ทองไม่ได้มาตรฐาน เป็นทองปลอม มันไม่ควรเกิดขึ้น ถ้าไม่มีการเช็กเปอร์เซ็นต์ทองก่อน ซึ่งยืนยันว่าเปอร์เซ็นต์ทองของเราอยู่ที่ 99.9% ไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน รวมทั้งขอให้ช่วยแก้ข่าวให้ด้วย เพราะร้านเรามีการออมทอง ลูกค้าของเรามากมาย ตอนนี้ตนเสียชื่อเสียงไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรกลับมาได้บ้าง 

การไปถ่ายหน้าร้านเราแล้วใส่แฮชแท็กทองปลอมถือว่ามีผลทางกฎหมาย อย่าทำร้ายเราแบบนี้เลย เพราะเรามีพนักงานและลูกน้อง เหมือนเป็นการรุมกินโต๊ะพวกเราเกินไป 

ด้านนายกานต์พล เรืองอร่าม สามีของแม่ตั๊ก นักธุรกิจแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง กล่าวว่า ที่เราเงียบหายนั้น ไม่ได้ไปไหน เพียงรอจังหวะออกอธิบายตอบคำถามให้กับสังคมรับทราบ อดทนโดนด่าเรื่องทองปลอมมา 3 วัน และพิสูจน์แล้วในรายการโหนกระแสแล้วว่า ทองของเราเป็นทองแท้ 

สิ่งที่ตนอยากร้องขอคือความยุติธรรม เรื่องทองแท้ คนที่กำลังออมทองหรือซื้อทองกับตนบอกได้เลยว่าคุณได้ทองแท้แน่นอน วันนี้ตนได้แสดงความรับผิดชอบ การเงียบหายไปเลยดูไม่ดี และมีข่าวปลอมออกมาเยอะ ตนขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพวกตนด้วย เพราะทองที่ขายเป็นทองแท้ และคนที่สร้างเรื่องคนแรกต้องรับผิดชอบใช่หรือไม่ ตนถามแค่นี้ ตนมาออกรายการ เพราะตนบริสุทธ์ใจ และคิดว่าถูกต้อง รู้ว่าทองที่ร้านของตนเป็นทองแท้ แต่ยังมีคนทำคลิปลงคลิป ไม่หยุดกล่าวหาไม่หยุด ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน และกล่าวหาไม่หยุด 

เมื่อถามว่า คลิปต้นเรื่องใช่ทองของร้านหรือไม่ แม่ตั๊ก กล่าวว่า เขาได้หยิบใบรับประกันร้านเราขึ้นมาในไลฟ์เขา และกล่าวว่าแฮชแท็กทองปลอมมิจฉาชีพ ก็ถือว่าเป็นเราแล้ว เพราะใบรับประกันทองคือของเรา ถือว่าเราตกเป็นจำเลยแล้ว วันนี้ก็ได้มาพิสูจน์แล้วว่าทองเราไม่ใช่ทองปลอม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ส่วนเรื่องดอกกุหลาบนั้นเป็นกิ๊ฟของขวัญทั่วไป ซึ่งคนนี้ก็ไม่รู้มูลค่าว่าเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ซื้อเองและเอาดอกกุหลาบไปขายที่ร้านทองด้วย เขาก็ยอมรับว่ารับของมาจากคนอื่น 

เมื่อถามว่า เป็นการขายทอง บวกความเชื่อของขลัง หรือเป็นการขายทองเพียวๆ ป๋าเบียร์ กล่าวว่า ทองรูปพรรณหลายลาย มีปี่เซียะ มีตาไข่ และท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งทุกอย่างบวกความเชื่อ และความศรัทธาไปด้วย รวมถึงเป็นทองคำ ซึ่งในส่วนของความเชื่อ ความศรัทธามันวัดมูลค่าไม่ได้ ทุกอย่างมีมูลค่าตามความพึงพอใจของผู้ซื้อ แต่วันนี้ตนบอกได้ว่า ในส่วนของ ปี่เซียะ ผู้เสียหายบอกว่าฟังแล้วนึกว่าน้ำหนัก 1 บาท  ตนก็ยอมรับกับ สคบ.ว่าอันไหนผิดก็ว่าไปตามผิด ก็ว่าไปตามกฎหมาย หากไม่ได้ฟังอย่างที่ตนอธิบาย ตนยินดีคืนเงินให้เต็มจำนวน เฉพาะคนที่บอกว่าคิดว่าซื้อปี่เซียะในราคาทองคำ 1 บาท ตอนนี้ตนเสียทั้งเงินและเสียชื่อเสียง แต่ขออย่างเดียวขอให้ช่วยเอาความจริงมาคุยกัน ตอนนี้เราตกเป็นจำเลยสังคม แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่าทองที่เราขายเป็นทองแท้ สามารถอุดหนุนกันได้ และดูแลเหมือนเดิม อยากให้พี่น้องกลับมาเชื่อมั่นเรา เรามีเจตนาดี รักในงานบริการ และเราตนยินดีเคลมปี่เซียะ 8 ตัวที่มีปัญหาให้ 

ด้าน แม่ตั๊ก กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ปรึกษาปรึกษากับทนายเดชาจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้พูดว่าตนโดนกลั่นแกล้ง ในส่วนที่ตนก็จะให้กระบวนการยุติธรรมตัดสินว่าผิดหรือถูก แต่ในส่วนที่มีการทำให้รู้ว่าเป็นร้านของตน ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง เขาก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน หลังจากนี้ทุกอย่างก็ให้กฎหมายตัดสินดีกว่า 

ส่วนเรื่องการไลฟ์สดขายทองนั้น ขอเคลียร์ทุกอย่างสักกพักหนึ่งก่อน เพราะตอนนี้เราเสียหายหลายฝ่าย มันยิ่งใหญ่มากสำหรับการกล่าวหาว่าคนๆหนึ่งว่าขายทองปลอม แต่ยืนยันว่าร้านเรายังเปิดออมทอง และผ่อนทองตามปกติ 

ส่วนกระแสข่าวเท็จที่บอก แม่ตั๊กกับป๋าเบียร์เตรียมบินหนีออกนอกประเทศนั้น ขอให้หยุดเขียนข่าวเท็จ และหยุดสร้างอะไรที่มันไม่เป็นความจริง เพราะว่าเราไม่มีอะไรที่จะต้องหนี มันไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ ไม่ได้ระดมทุน ไม่เคยเอาเงินคนอื่นมาหมุนในธุรกิจตัวเอง ไม่มีเหตุอะไรที่ต้องหนี มันไม่ใช่การที่เราไปฉ้อโกง หรือคดโกงใคร เราพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว 

ขณะที่ สตางค์ ติ๊กต็อกเกอร์ชื่อดัง ซึ่งเป็นคลิปต้นเรื่อง กล่าวว่า ตนนำทองไปขายแล้วร้านบอกว่าเปอร์เซ็นต์ไม่ถึง ซึ่งตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เพราะว่าทองที่จะขายได้ก็คือขายทองที่มียี่ห้อ และมีเปอร์เซ็นต์ทอง แต่เราก็ไม่ทราบว่าทองไม่มียี่ห้อ และไม่มีเปอร์เซ็นต์ เป็นทองที่ผลิตขึ้นเอง ที่ตนนำไปขายคือไอ้ไข่กับสร้อย ส่วนดอกกุหลาบคือเอาไปให้ร้านทองดูด้วย แต่ไม่ได้ตั้งใจเอาไปขาย ซึ่งมีคนซื้อให้ตนเป็นของขวัญ ประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว 

ส่วนที่คู่กรณีมองว่าตนเป็นคนเปิดเรื่อง และทำให้ชื่อของเขาเสียหายนั้น ตนไม่ได้เอ่ยถึงเขา แต่เตือนภัยมิจฉาชีพทองปลอม แต่เขาเอ่ยถึงตนก่อนในเพจ ก็มองว่าทำไมเขาถึงเอ่ยชื่อตน ทั้งที่ตนยังไม่เอ่ยชื่อใครเลย ส่วนที่มีการนำใบรับรองมาโชว์คือเป็นวันที่ตนเมาแล้วก็โชว์ในไลฟ์ ซึ่งก็เชื่อว่าเขาน่าจะโกรธเรา แต่ยืนยันว่ามีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากหลาย 100 คนแจ้งในแชต TikTok ว่าเอาทองไปขายแล้วขายไม่ได้ ซึ่งข้อความเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับที่ตนออกมา เพราะอยากเตือนภัย ทองควรจะขายที่ไหนก็ได้ เพราะมีหลายคนเขาขายไม่ได้เหมือนกัน เขาก็โยนทิ้ง 

เมื่อถามว่า จากนี้หากเขาดำเนินตามตามกฏหมายจะทำอย่างไร สตางค์ กล่าวว่า เราก็ต้องดูว่าเขาดำเนินคดีตรงข้อไหนแล้วค่อยว่ากันอีกทีนึง 

ขณะที่ น.ส.เอ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนซื้อสองครั้ง ครั้งแรก 800,000 กว่าบาทเป็นปี่เซียะตัวใหญ่ แล้วเขาแจ้งตนว่าทอง 99.9% สามารถจำนำได้ ขายได้ หากร้านไหนไม่รับซื้อมาขายที่เขาได้เลย ซึ่งมุมมองเราก็นักธุรกิจส่วนหนึ่งก็คืออยากเก็บไว้หากเดือดร้อนก็จะนำไปขายแค่นั้น ไม่ได้คิดอย่างอื่น แต่การซื้อครั้งที่สองเป็นปี่เซียะคาบเหรียญ 9 ตัว เพื่อเอาไปให้แม่ในวันเกิดตัวเอง หลังจากนั้นแม่เดือดร้อนเอาไปจำ  นำร้านทองให้ราคา 2,000-3,000 บาท แม่เอาทองมาเขวี้ยงใส่หน้าคืน บอกว่าเอาทองปลอมมาให้ ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่เชื่อ แม่จึงนำทองส่วนที่เหลือเอาไปร้านทองอีก จากมูลค่า 80,000 กว่าบาท เขาให้เรา 30,000 บาท ส่วนวันนี้ที่มีการตรวจคุณภาพทองเขาก็บอกว่าทอง 99.9% แต่คุณไม่ได้บอกน้ำหนักว่าน้ำหนักเท่าไหร่ ถ้าเขาบอกว่าขายได้แล้วราคาจะต่ำขนาดนี้ ตนก็จะไม่ซื้อ ซึ่งตนก็ยืนยันว่าฟังตั้งแต่ต้นไลฟ์เป็น และเป็นแฟนคลับที่ดูประจำ 

ส่วน น.ส.ฝ้าย หนึ่งในผู้เสียหายอีกราย กล่าววว่า เราเป็นผู้บริโภคที่โดนเอาเปรียบ เขาพยายามแก้ต่างว่ามีของแถม ซึ่งตนก็ไม่ได้อยากได้ของแถม แต่คุณเป็นผู้สมนาคุณฉัน จะเอามารวมในราคาของไม่ได้ ซึ่งทองวันนั้น 28,000 กว่าบาท แต่ขายไป 32,000 กว่าบาท เข้าใจว่าส่วนต่างนั้นคือค่ากำเหน็จ ซึ่งตนก็เข้าใจว่าได้ทอง 1 บาท เพราะตอนเราดูเขาไม่ได้บอกขนาดกรัม บอกแค่ว่าทองแท้ 99.99% ซึ่งตนซื้อปี 64 และปี 65 ไปขายหลายร้านทองในลาดกระบังไม่มีใครรับซื้อ โดยให้เหตุผลว่าทางร้านไม่รับ แล้วก็มีบางร้านว่าแนะนำให้ให้กลับไปขายร้านที่ซื้อมา