สุรศักดิ์ เผย ศธ. ตั้ง กก.สอบเท็จจริงกรณี ครูเบญอีกครั้ง ขีดเส้นตาย 7 วัน

24 ก.ย. 67

 

สุรศักดิ์ เผย ศธ. ตั้งกรรมการสอบเท็จจริงกรณี ครูเบญอีกครั้ง ขีดเส้นตาย 7 วันต้องชัดเจน ลั่นไม่จบง่ายๆ หวังเป็นบรรทัดฐาน หากมีการทุจริตต้องทิ้งร่องรอย 

วันที่ 24 ก.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีครูเบญว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ข้อเท็จจริงมาแล้ว แต่รมว.ศึกษาธิการได้ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นอีกชุด โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานนอกกระทรวงมาร่วมในคณะกรรมการ เพื่อสืบตรวจสอบและตรวจข้อเท็จจริงกรณีนี้อีกครั้งภายใน 7 วัน 

โดยเบื้องต้นเมื่อวานนี้มีคำสั่งแต่งตั้งรองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ผู้บัญชาการกองบังคับการปราบปราม รองอัยการสูงสุด และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการที่เป็นส่วนกลาง ซึ่งมั่นใจว่าคณะกรรมการชุดนี้จะสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงที่สังคมยังสงสัยอยู่ เกี่ยวกับการสอบข้าราชการในสังกัด สพฐ.สระแก้วจนเกิดความชัดเจน 

นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงต้องการให้ทุกคนได้ข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด โดยมีการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งที่มีอยู่แล้วและขอเพิ่มเติม เพื่อส่งไปยังกองนิติวิทยาศาสตร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบว่ากระดาษคำตอบที่มีการตรวจสอบเป็นของครูเบญจริงหรือไม่ และมีการแก้ไขหรือไม่ วันนี้หลายคนบอกว่าอยากให้จบ แต่กระทรวงศึกษาฯไม่อยากให้จบ เพราะอยากให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด ถ้าเป็นไปได้กระทรวงอยากจะยื่นให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ และอยากบอกว่าถึงครูเบญอยากให้จบ แต่กระทรวงไม่จบ 

ทั้งนี้รมช.ศึกษาธิการ กล่าวย้ำว่า คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจในการเรียกข้อมูลหลักฐานทั้งหมดจากกระทรวง โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ อยากให้ทุกคนมั่นใจถึงความตั้งใจของกระทรวง เป็นว่าจะมีมาตรฐาน 

ไม่อยากให้จบง่ายๆ ไม่ใช่ต้องการให้เกิดดรามา แต่เป็นความต้องการของกระทรวงฯ ที่อยากจะทำเรื่องนี้ให้รอบคอบมากที่สุดในทุกมิติ และยินดีให้ทุกหน่วยงานเข้ามาร่วมตรวจสอบ เพราะเราไม่อยากตรวจสอบกันเอง อีกทั้งไม่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งที่ผ่านมามีคนสงสัยเรื่องกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่การคุมสอบ รวมถึงการประกาศผลว่าหากครูเบญไม่ผ่านการสอบ ตั้งแต่ภาคก. ภาคข. ทำไมถึงมีสิทธิ์ ตอบในภาคค. ถือเป็นเรื่องที่ต้องไปตรวจสอบผลว่ามีการประกาศก่อนหน้านั้นหรือไม่ หากมีการทุจริตจะต้องทิ้งร่องรอยไว้แน่นอน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส