แพรรี่ ไพรวัลย์ สอนลอยๆ นักบุญทุนลูกค้าไม่ได้บุญ เหมือนการฟอกบุญ

แพรรี่ ไพรวัลย์ สอนลอยๆ นักบุญทุนลูกค้าไม่ได้บุญ เหมือนการฟอกบุญ ขายของทำบุญสร้างภาพ พ่อพระแม่พระ แต่ไม่ได้บุญจริง

วันที่ 26 ก.ย.67 กรณีเหตุการณ์ดรามาซื้อทองผ่านแม่ค้าออนไลน์ ล่าสุดแพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ออกมาวิเคราะห์และให้แง่คิดเป็นคนแรกๆ เนื่องจากเห็นจากข่าว 2 ข่าว คือ ข่าวของคุณสตางค์และข่าวของคุณป้าท่านหนึ่ง โดยลักษณะมีความคล้ายคลึงกัน คือมีการนำทองที่สั่งมา ได้จากการสั่งซื้อออนไลน์ไปขาย ปรากฎว่าคุณสตางค์ขายไม่ได้เลย ส่วนคุณป้าขายได้แต่ขาดทุนยับเยิน ซึ่งเรื่องแบบนี้ ตนเห็นอยู่เรื่อยๆ ในโซเชียลแล้วก็ไม่ได้หายไปในสังคม ไม่เฉพาะร้านที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ แต่ยังมีอีกหลายหลายเคสซึ่งไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข่าว

ส่วนกรณีที่มีคนออกมาให้ความเห็นและปกป้องเกี่ยวกับร้านที่กำลังเป็นประเด็น ว่ามีลักษณะใจบุญ ทำบุญอยู่เป็นประจำ ตนมองว่าหากคนเรามีจิตใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ก็ควรจะทำกับคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเองก่อน เช่นหากเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ควรจะใจบุญสุนทานกับลูกค้าของตัวเอง ซึ่งบางครั้งการทำบุญก็เหมือนการทำการตลาดอย่างหนึ่ง แต่เอาเรื่องบุญมาทำให้รู้สึกว่าเขาช่วยเหลือ เอากำไรนิดนิดหน่อยมาทำเรื่องพวกนี้ให้ดูเหมือนว่าเป็นพ่อพระแม่พระ

ตนมองว่าบุญจริงๆต้องมาจากเจตนาที่มาจากบริสุทธิ์ก่อน สองคือ วัตถุทาน สิ่งที่ให้ต้องมีที่มาที่ไปที่บริสุทธิ์ ถึงจะเข้าองค์ประกอบของการให้ทาน จริงๆในทางศาสนา ซึ่งต้องไม่ใช่ของที่ได้มาจากความเดือดร้อนของคนอื่นแล้วเอามา ‘ฟอกบุญ’ ซึ่งมันไม่ได้บุญ เพราะคนที่เป็นเจ้าของเงินจริงๆเขาไม่ได้เต็มใจ

ส่วนกรณีท้าวเวสสุวรรณปิดตา บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หูหนวกตาบอดคนก็จะได้ไม่รู้ไม่เห็น ลูกค้าก็หลงเข้าไปเอฟเงินเอฟทอง ซึ่งตนเองก็มองเป็นปริศนาธรรม แต่ถ้าความเชื่อก็มองได้ว่าพระยังไม่ได้เบิกเนตรก็ปิดตาพันตาไว้ก็เป็นเรื่องปกติ

ส่วนดอกกุหลาบสีทองที่ตนติดมาประดับผมในวันนี้ ตนก็ซื้อมาจากสำเพ็ง ถุงหนึ่งมีประมาณ 50 ถึง 100 ดอก ราคาไม่กี่สิบบาท  ไม่มีเปอร์เซ็นต์ทองเลยเพราะว่าใช้สีพ่นเอา

เมื่อให้พูดถึงคนที่จะให้โอกาสเขาอีกรอบ ตนก็อยากจะถามว่ายังไม่หลาบอีกเหรอ ตนก็คงจะไปห้ามใครไม่ได้ เพราะเป็นศรัทธาของแต่ละคน แต่ก็ให้คิดดีๆแล้วกัน.