ชายหื่น! ตีเนียนเป็นพลเมืองดีช่วยหญิงหลงทางสุดท้ายถีบรถจักรยานยนต์หวังขืนใจกลางถนน
วันที่29กันยาน2567นางสาวดี(นามสมมุติ)อายุ29ปีพาผู้สื่อข่าวไปชี้จุดเกิดเหตุที่คนร้ายทำอนาจาร เป็นถนนทางเขาชุมชน ม.8 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าเป็นถนนความกว้างประมาณ 3 เมตร ตัดผ่านกลางทุ่งนาเปลี่ยวรถยนต์สัญจรสวนทางกันไม่ได้ ไม่มีบ้านเรือนชาวบ้าน
น.ส.ดี ยังอยู่ในความหวาดกกลัว ทันที่ย้อนกลับมาในจุดที่เกิเหตุอีกครั้งเล่าเหตุกาณ์ให้ฟังทั้งน้ำตาว่า คืนวันเกิดหตุเป็นคืนวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ช่างเวลาประมาณห้าทุ่มกว่า ตนเองขี่รถจักรยานยนต์มาจากอ.ผักไห่ มาเพื่อนที่อ.บางบาล แต่เพื่อนไม่อยู่ทราบว่าเพื่อนเข้ามาตัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ใช้โทรศัพท์มือถือเปิดจีพีเอสไปยังสถานที่เพื่อนอยู่ ซึ่งตนเองไม่เคยมา แต่เกิดหลงทางมาที่บริเวณต่างระดับอยุธยา พบกับชายรูปร่างผอม สวมใส่กางเกงยีนส์เสื้อยีนส์ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาจึง ได้ขอความช่วยเหลือให้ช่วยบอกทางพาไปส่งที่บ้านเพื่อน ชายคนดังกล่าวอาสาที่จะพาไปส่งบอกว่าทางมันไกลอันตราย โดยชายคนดังกล่าวได้นำโทรศัพท์ของตนไปดูจีพีเอสเพื่อนำทางไป ตนได้ขอแวะเติมน้ำมันริมถนนสายเอเชีย จากนั้นชายคนดังกล่าวพาตนเองขับลัดเลาะมาตามเส้นทางต่างๆที่ตนเองไม่เคยมาและไม่คุ้นชิน
จนหลงเข้ามาในที่เกิดเหตุชายคนดังกล่าวได้จอด แล้วตรงเข้ามาหาตนถีบรถจักรยานยนต์จนล้ม กระชากตนเองลงจากรถลากตนเองลงนอนกับพื้นถนน จับตนเองกดลงกับพื้นถนน ถอดกางเกงของตนเองตนเองไม่กล้าต่อสู้กับคนร้ายกลัวคนร้ายจะมีอาวุธ คนร้ายถอดกาเกงออกพยามจะสอดใส่อวัยวะเพศ ตนตั้งสติพยามบอกคนร้ายว่ายอมแล้วให้พาไปโรงแรม แต่คนร้ายไม่ยอมกำ ลังจะล่วงละเมิดทางเพศตนจังหวะนั้นมีรถเก๋งของพลเมืองดีผ่านมาพอดี และผ่านไปไม่ได้เพราะรถจักรยานยนต์ของตนเองที่ล้มขวางถนนอยู่ คนร้ายจึงปล่อยตนแล้วลุกไปขยับรถจักรยานยนต์ ตนเองจึงรีบลุกขึ้นวิ่งหนีไปขึ้นรถเก๋งของพลเมืองดี จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไปทิ้งรองเท้าแต่และแมสก์สีดำตกเอาไว้ พลเมืองดีจึงได้พาตนไปส่งพร้อมกับเก็บรองเท้าแตะ และแมสก์ของคนร้ายเอาไว้เป้นหลักฐานเพื่อนไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้าย
น.ส.ดี กล่าวทั้งน้ำตาว่า “ตนเองกลัวมากในวินาทีนั้นไม่รู้ว่าคนร้ายข่มขืนตนเองแล้วจะฆ่าตนเองทิ้งหรือไม่ โชคดีที่มีพลเมืองดีผ่านมาพอดี”
จาการสอบถามชาวบ้านที่ผ่านมาบริเวณที่เกิดเหตุบอกว่า ถนนเส้นนี้เปลี่ยวมาก เชื่อมต่อไปอ.บางบาล อ.บางไทรได้ ถ้าไม่ใช่คนพื้นที่จะไม่รู้เส้นทางสายนี้ ส่วนมากจะมีคนหลงทางเข้ามาช่วงกลางคืนจะเปลี่ยวอันตราย
จากนั้นน.ส.ดี ได้เดินทางไปที่สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับนำรองเท้าแตะและแมสก์ของคนร้ายทำตกเอาไว้เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.วุฒิภัทร ช่วยคิด รองสว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยาเพื่อให้เร่งสืบสวยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนร่วมกันสอบสวนผู้เสียหาย และพยานพลเมืองดีที่เห็นตุการณ์ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี