กรณีตำรวจชุดยาเสพติดบุรีรัมย์ ล่อซื้อยาเสพติดจาก นายประจักร ปัจฉิมชาติ อายุ 26 ปี หรือ "สันต์ หนองโดน" บริเวณลานจอดรถด้านหลังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จ.บุรีรัมย์ แต่นายประจักร ไหวตัวทันคิดต่อสู้และพยายามวิ่งหนี อีกทั้งใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่แต่ปืนด้าน ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้างและวิ่งออกประตูหน้าห้าง เข้าไปหลบข้างต้นไม้บริเวณร้านรับซื้อของเก่า
เจ้าหน้าที่วิ่งติดตามไปและพยายามเกลี้ยกล่อมนานกว่า 20 นาที แต่คนร้ายไม่ยอมจำนน กลับพยายามถือปืนวิ่งหลบหนีไปยังหน้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งช่วงที่วิ่งหนีได้หันปืนมายิงใส่เจ้าหน้าที่อีก 2 นัด แต่กระสุนพลาดเป้า ตำรวจจึงยิงคนร้าย 1 นัดบริเวณหน้าอก จากนั้นจึงปิดล้อมรอกระทั่งคนร้ายอ่อนแรงเข้าไปชาร์จตัว ก็พบว่าคนร้ายมีอาการสาหัส จึงได้แจ้งหน่วยกู้ภัยฯ ให้มาช่วยเหลือรีบนำส่ง รพ.บุรีรัมย์ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนของกลางในที่เกิดเหตุ ได้แก่ ยาบ้า 1 ห่อ ปืนขนาด.357 โทรศัพท์มือถือ และกระสุนปืน 4 นัด
ล่าสุดวันที่ 18 มี.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ห้างแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ พบกับ นายเทพ (นามสมมติ) อายุ 56 ปี พนักงานของห้างดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนยืนอยู่บริเวณลานจอดรถ สังเกตเห็นตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นาย วิ่งไล่ล่าคนร้าย โดยขณะนั้นตนก็ยังไม่รู้ว่าเป็นการล่อซื้อยาเสพติด แต่สังเกตเห็นว่าตำรวจวิ่งตามคนร้ายอย่างกระชั้นชิด 5-6 เมตร หลังจากนั้นคนร้ายหันไปยิงตำรวจ 2 นัด แต่โชคดีที่ปืนด้าน และคนร้ายก็ได้วิ่งเข้าไปกลางห้าง พยายามยิงในห้างอีกแต่ปืนด้าน กระทั่งคนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปยังร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นคนในห้างค่อนข้างแตกตื่น แต่ก็โชคดีที่ไม่มีใครถูกลูกหลง
ทางด้านตำรวจ ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์วิสามัญคนร้ายสืบเนื่องจากการจับกุมวัยรุ่นหญิง 1 คน (นางนกต่อ) พร้อมยาบ้า 12 เม็ด เมื่อสืบสวนพบว่าซื้อมาจาก "สันต์ หนองโดน" จึงได้ให้นางนกต่อนัดซื้อยาบ้าที่ลานจอดรถของห้าง เมื่อคนร้ายมาถึงและนางนกต่อชี้เป้า ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่คนร้ายกลับยิงสู้และหลบหนี จึงนำไปสู่การวิสามัญ เบื้องต้นญาติของคนร้ายได้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
นายแก้ว (นามสมมติ) พนักงานร้านสะดวกซื้อ เปิดเผยว่า ขณะนั้นตนตกใจมาก เพราะอยู่ในเหตุการณ์ มีตำรวจนอกเครื่องแบบ 4-5 คน วิ่งไล่คนร้ายที่กำลังพยายามหลบและวิ่งมาถึงร้านสะดวกซื้อ โดยเมื่อคนร้ายถูกยิง ตนได้ยินเสียงร้องว่า "โอ้ย...ถูกยิง" และเมื่อผ่านไปประมาณ 5 นาที สังเกตเห็นคนร้ายล้มลงไปกองกับพื้น เลือดสาดใส่กำแพง และคาดว่าน่าจะเสียชีวิต ทั้งนี้ตนคิดว่าตำรวจทำถูกแล้วที่วิสามัญคนร้ายรายนี้
อย่างไรก็ตามทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ร้านรับซื้อของเก่าตรงข้ามกับห้าง ซึ่งอยู่ห่างจาดลานจอดรถหลังห้างประมาณ 500 เมตร โดยเป็นจุดที่ 2 ที่คนร้ายวิ่งหลบซ่อนตำรวจ โดยทางร้านรับซื้อของเก่าได้ขอสงวนภาพวงจรปิด เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบกับธุรกิจ
นายเจมส์ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี พนักงานร้านรับซื้อของเก่า เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.30 น. คนงานของร้านสังเกตเห็นคนร้ายเดินถือปืน ข้ามถนนมาอย่างใจเย็น และมุ่งตรงเข้ามาบริเวณร้าน หลังจากนั้นก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบ 4-5 คน วิ่งตามมา ซึ่งขณะนั้นคนร้ายได้พยายามหลบอยู่หลังต้นไม้ ส่วนตำรวจได้กระจายกันล้อมและเกลี้ยกล่อม
นายเจมส์ ยังบอกอีกว่า ขณะที่ตำรวจล้อมตับตนได้ยินตำรวจตะโกนว่า "อย่ายิง ๆ" แต่คนร้ายได้อาศัยจังหวะตำรวจเผลอ วิ่งออกจากร้านของเก่าไปยังร้านสะดวกซื้อข้าง ๆ ซึ่งตำรวจก็วิ่งตามออกไป และตนก็รีบปิดประตูร้านทันที เป็นเวลาไม่ถึง 10 นาที หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด และตำรวจก็เดินมาบอกว่าเหตุการณ์สงบแล้วปลอดภัยแล้ว
ทั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก เมื่อเห็นคนร้ายเข้ามาในร้าน คนงานทุกคนก็รีบวิ่งไปหาที่หลบ ทำให้ไม่มีใครได้รับอันตราย ซึ่งทุกคนก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคนร้ายเดินถือปืนเข้ามาในร้าน
นางจันลา ศาลางาม แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนและญาติ ๆ ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะลูกชายเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยก่อนหน้านี้เคยติดคุก 5 ปี ในข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งเพิ่งจะพ้นโทษ 6 เดือน ก่อนถูกตำรวจวิสามัญดังกล่าว ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าหลังลูกชายพ้นโทษออกมาได้ไปอาศัยอยู่ที่ไหน แต่อยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า ลูกชายของตนประพฤติตัวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี และทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่อยากให้ใครต้องมาประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้