สธ.-ตำรวจ บุกตรวจ คลินิก บอสหมอเอก ดิไอคอน หลังหลักฐานชี้ชัดเป็นหมอเถื่อน ขู่โทษแรงทำคนเข้าใจผิดเป็นหมอ จี้เจ้าตัวออกมาแสดงตน อย่าเก็บตัวเงียบหาย
วันที่ 16 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งของ ดิไอคอน กรุ๊ป ย่านรามอินทราของ บอสหมอเอก หรือนาย ฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ ที่ถูกอ้างว่า เป็นมือขวา ของ บอสพอล นาย วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เจ้าของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ธุรกิจขายตรงชื่อดัง
นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า จากการตรวจสอบต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ เราได้ไปดำเนินการกล่าวโทษนายเอกว่าแอบอ้างเป็นคุณหมอ ตามที่ปรากฏจากภาพสื่อหลายหลายสื่อ และก็ได้มีการขยายผล เพื่อมาตรวจคลินิกดังกล่าวว่าเป็นคลินิกที่ได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ของที่ ดิไอคอน ซึ่งวันนี้ก็มาพร้อมกับรองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตำรวจปคบ. และอย. เข้าตรวจคลินิกดังกล่าว และพบว่าวันนี้คลินิกดังกล่าวได้ปิดให้การบริการซึ่งก็ไม่เป็นไร เมื่อปิดเราก็จะมาตรวจค้นกันใหม่ว่าคลินิกดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องยาที่นำมาฉีดต่างๆ เป็นยาอะไรกันแน่ จึงนำ อย.มาร่วมตรวจ
นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า แต่วันนี้พบว่าคลินิกปิดทำการก็ไม่เป็นไร แต่สำหรับทีเด็ดวันนี้ก็คือไม้ที่สองที่ตนจะไปต่อ และมีความสำคัญมาก ซึ่งตนเรียกร้องให้นายเอกออกมาแสดงตนต่อเจ้าพนักงานว่าคุณเป็นหมอหรือหรือไม่ใช่หมอ เพราะสิ่งที่ปรากฏอยู่ในภาพสื่อก็เพราะว่าคุณพยายามพูดว่าเป็นหมอ และหลายคนก็ได้ยินชัดเจนว่าสมาชิกทั้งหลายก็ยังเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้น ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ ซึ่งกระทรวงเองก็มีอยู่แล้ว และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดนี้ ซึ่งข้อยุติเราต้องดำเนินคดีกับนายเอกให้เรียบร้อย โดยเฉพาะคลิปที่ปรากฏว่าเหมือนเป็นคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีการฉีดรักษาให้กับผู้หญิง ซึ่งจริงๆ แล้วจากข้อมูลมีไม่น้อยกว่า 5 คนที่ได้ทำการฉีดในขณะนั้น ซึ่งเราไม่ทราบว่าเอาอะไรเข้าไปฉีดและการกระทำรักษาดังกล่าวเหมือนกับเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ดังนั้นต้องมานำเสนอข้อเท็จจริงให้ทราบ และการแสดงตนในลักษณะนั้น ทุกคนก็คงเข้าใจว่าการใส่ชุดเครื่องแบบกราวนด์ มีหูฟังเหมือนหมอ และพยายามพูดเสมอว่าเขาเป็นคุณหมอ อต้องบอกเลยว่าคนที่เป็นเทคนิคการแพทย์เขาไม่ใช้คำนี้ว่าเป็นนายแพทย์หรือคุณหมอ คนที่ไม่ได้เป็นคุณหมอตามวิชาชีพเวชกรรม ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ก็ถือเป็นหมอเถื่อน จึงไม่สามารถที่จะเรียกว่าหมอเอกได้ ต้องเรียกว่าคุณเอก
“แต่ถ้าคุณไม่มาพบ กระบวนการต่อไปก็จะมีหมายเรียกและหมายจับ ซึ่งนายเอกต้องออกมา เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในเรื่องของการดำเนินธุรกิจของเขาว่าเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอาชีพหมอซึ่งมีความน่าเชื่อถือสูง ดังนั้นเราต้องการให้นายเอกออกมาพูดความจริง ถ้าไม่ออกมาเราก็ตามตัวท่านให้เจอและนำออกมาพูด” นายกองตรี ธนกฤต กล่าว
นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า สำหรับคลินิกแห่งนี้พบว่าขึ้นทะเบียนเป็นคลินิกเวชกรรมให้การรักษาโรคทั่วไป ดังนั้นในส่วนนี้เป็นคลินิกที่ถูกต้อง มีทะเบียนกับเรา แต่เนื่องจากคลินิกปิด เราต้องไปตรวจสอบดูเครื่องมือและอุปกรณ์บุคลากรที่ให้บริการ และมาตรฐานต่างๆ ว่ามีความเหมาะสมถูกต้องตามมาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่ แต่วันนี้คลินิกปิดอยู่ ส่วนคนที่ยื่นขอใบอนุญาตในส่วนนี้พบว่าถูกต้องตามกฎหมายแต่ในส่วนของแพทย์ผู้ดำเนินการต้องควบคุมกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพ ถ้าปล่อยปละละเลยให้คนที่ไม่ใช่แพทย์ให้บริการก็ต้องมีโทษตามกฏหมาย คือจำคุก 2 ปี ซึ่งต้องมีการควบคุมดูแล ไม่ให้ประชาชนมาใช้กับบริการกับผู้ที่ไม่ใช่หมอ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเราจะเดินไปทางไปที่โครงการอาคารชื่อดังย่านประตูน้ำต่อ
ขณะที่นายอาคม กล่าวว่า จากการตรวจสอบของแพทยสภา สามารถตรวจสอบทางเว็บไซต์ได้ ซึ่งก็จะพบว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่ ซึ่งมีฐานข้อมูลของแพทยสภา หากไม่พบชื่อก็ถือว่าไม่ใช่แพทย์ ถ้าหลอกลวงก็มีความผิดตามกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม ถือว่าเป็นหมอเถื่อน ซึ่งมีโทจำคุก 3 ปีและปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับเป็นโทษที่รุนแรง อีกทั้งหากมีการประกอบวิชาชีพ สถานที่ไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกอีก 5 ปี และแสดงตัวเป็นผู้ดำเนินการอีกก็มีโทษอีก 5 ปี ซึ่งโทษนี้ถือว่ารุนแรง จึงขอเตือนว่า หากไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพจริง อย่าแสดงตนให้ประชาชนเข้าใจผิด และอยากไปให้บริการอีก ถือเป็นอันตรายและมีโทษร้ายแรงตามกฎหมายบ้านเมืองของเรา