วันที่ 20 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย ถนนราชสีมา-โชคชัย ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา บรรยากาศประชาชนเดินทางมาบริจาคโลหิตเป็นไปด้วยความซบเซากว่าปกติ ภายหลังจากที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา
น.ส.ศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา บอกว่า โดยปกติโรงพยาบาลในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีความต้องการโลหิตไปใช้ประมาณวันละ 400 ถุง ซึ่งนับรวมตั้งแต่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลระดับอำเภอ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลเอกชน
ซึ่งก่อนหน้านั้นมีผู้มาบริจาคโลหิตในปริมาณมากและเพียงพอต่อความต้องการ แต่ภายหลังจากที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนรู้สึกตื่นกลัว และไม่กล้าออกจากบ้านมาบริจาคโลหิตเหมือนช่วงปกติ ส่งผลให้ผู้มาบริจาคโลหิตลดลงไปกว่า 50% กระทบกับปริมาณโลหิตที่เก็บสต็อกไว้มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะโรงพยาบาลต่าง ๆ ยังมีความต้องการโลหิตไปใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยเป็นจำนวนมากเหมือนเดิม จึงถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤติขาดแคลนโลหิตอย่างมาก
ดังนั้นทางภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่5 จ.นครราชสีมา จึงได้มีการจัดระบบความปลอดภัยให้กับผู้ที่จะมาบริจาคโลหิตอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การวัดอุณหภูมิเจ้าหน้าที่ และผู้ที่มาบริจาคโลหิต การจัดพื้นที่นั่งรอของญาติให้มีระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร การเช็ดทำความสะอาดเครื่องมืออุปกรณ์บริจาคโลหิต และงดผ้าคลุมกายผู้บริจาคโลหิต เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงใช้ผ้าร่วมกัน
ขณะเดียวกันได้มีใบกรอกแบบประวัติผู้บริจาคโลหิต ว่ามาจากพื้นที่เสี่ยงหรือมีการไปสัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ เพราะขณะนี้ทั่วโลกยังไม่มีการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเลือดได้ ทั้งนี้ความต้องการบริจาคโลหิตยังมีอยู่ทุกวัน ถ้าผู้บริจาคน้อยก็คงจะไม่เป็นผลดีต่อโรงพยาบาลต่าง ๆ แน่นอน
จึงขอเชิญชวนผู้ใจบุญ มาร่วมบริจาคโลหิตได้ ซึ่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีอยู่ 5 จุดหลัก ได้แก่ ที่สำนักงานภาคบริการโลหิตที่ 5 จ.นครราชสีมา ถ.ราชสีมา-โชคชัย ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง, เซ็นทรัลพยาซ่าโคราช ชั้น 3, ห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, ห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ชั้น LG เทอร์มินอล21 โคราช และบริษัททริปเปิลทีบรอดแบรนด์ จำกัด ตรงข้ามสนามกีฬาเทศบาลนครนครราชสีมา