นายกฯ แพทองธาร ถกหัวหน้าส่วนราชการ ยอมรับประเทศมีปัญหารุมเร้าหลายด้าน ดันรัฐใช้จ่ายงบลงทุน 9.6 แสนล้านบาท สร้าง GDP ประเทศ
วันที่ 4 พ.ย.67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2567 ณ ห้องกำปั่นทอง ชั้น 21 อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง
โดยกล่าวช่วงต้นของการประชุมว่า วันนี้รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ถือเป็นการเจอกันครั้งที่ 2 ซึ่งดีใจอย่างมากที่ได้มาเจอ ต้องขอขอบคุณปลัดกระทรวงการคลัง ที่เป็นเจ้าภาพจากการประชุมครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ตนเองได้มาที่นี่ ตึกสวยงาม น่าทำงานมากๆ จึงหวังว่าทุกคนจะทำงานด้วย ก็หวังว่าทุกคนจะมีการทำงานที่สดชื่นสดใส พร้อมพัฒนาประเทศร่วมกันต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า กระทรวงการคลังถือเป็นเสาหลักการคลังของประเทศที่จะพัฒนาเศรษฐกิจให้ยั่งยืนต่อไป โดยในช่วงท้ายจะมีการหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้านเศรษฐกิจ ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งเศรษฐกิจไทยวันนี้เจอปัญหารุมเร้าหลายด้าน ทั้งปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน และความท้าทายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองโลกเพราะดังนั้น เราต้องแก้ไขปัญหาที่สะสม พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเศรษฐกิจให้กับประเทศ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า และสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นซึ่งเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ การใช้จ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะงบลงทุนที่มีมูลค่า 9.6 แสนล้านบาทหรือมากกว่าร้อยละ 5 ของ GDP ประเทศ
ทั้งนี้ ในฐานะผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงาน ขอให้ช่วยกันผลักเม็ดเงินลงทุนทุกบาทลงสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อสร้าง GDP ให้กับประเทศและสร้างรายได้ให้กับประชาชน
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธคำถามสื่อมวลชนทั้งก่อนประชุมและหลังประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ถึงกรณีคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอเวชระเบียนการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ จะพร้อมมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ฟังคำถาม แต่ไม่ตอบ
ผู้สื่อข่าวถึงถามย้ำว่า จำเป็นต้องใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งเวชระเบียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ แต่นายกรัฐมนตรี ตอบเพียงว่า "เราเจอกันวันพรุ่งนี้ เนอะ"
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้พยายามสอบถามถึงข้อเรียกร้องให้ยกเลิก MOU 2544 ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนทางทะเล ระหว่างไทย -กัมพูชา (เกาะกูด) แต่นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ตอบคำถามดังกล่าวเช่นเดียวกัน จากนั้นได้ขึ้นรถเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาลทันที.