ทนายบอสพอล แย้มบิ๊กเซอร์ไพรส์ พยานสำคัญ เชี่ยวชาญเรื่องแชร์ลูกโซ่

6 พ.ย. 67

ทนายบอสพอล แย้มบิ๊กเซอร์ไพรส์ พยานสำคัญเชี่ยวชาญเรื่องแชร์ลูกโซ่ ส่วนการเตรียมพยานแก้ข้อกล่าวหา 2,400 คน ยืนยันตัวตนแล้ว 1,500 คน


วันที่ 6 พ.ย. 67 บรรยากาศที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งวันนี้ พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เข้าสอบปากคำ นายวรัตน์พล วรัทน์วรกุล บอสพอล และ นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือ โค้ชแล็ป ผู้ต้องหาในคดีดิไอคอนกรุ๊ป ใน 3 ประเด็น คือ ปมนักร้องเรียนหญิง ก.เรียกรับเงิน พ่วงปมพยานเท็จ ของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจ เรียกเงิน 9,000,000 บาท ก่อนถูกรวบ

โดยการสอบปากคำนั้น เริ่มในเวลา 10.00 น. ใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง จนถึงเวลา 15.00 น. ปรากฏว่ามีรถของพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางขับออกมาจากเรือนจำ

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของผู้ต้องหา เปิดเผยหลังการสอบปากคำว่าวันนี้ที่ตำรวจสอบสวนกลางเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก็ให้การไปตามความจริง แต่ไม่ทราบว่าเป็นประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งมีทั้งประเด็นนักร้องเรียนหญิง ก. และกรณีที่นายอัจฉริยะ กล่าวอ้างว่า มีตำรวจเรียกรับเงิน 9 ล้านบาท

1730886422625

นายวิฑูรย์ยังบอกว่า บอสพอล ไม่ได้มีการสั่งการให้มาดำเนินการอะไรเป็นพิเศษ แต่หลังจากนี้จะให้สัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้าย และพยายามจะพูดให้น้อยลง เนื่องจากเป็นความต้องการของผู้ต้องหา ยืนยันว่าไม่ได้ถูกกดดัน ไม่ได้เริ่ม แต่เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่ได้เริ่มการทำงานทางคดี ทำให้งานล่าช้า จึงจะใช้เวลาไปเตรียมพยานหลักฐาน และรายละเอียดทางสำนวนคดี เพื่อต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เพราะหากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จะได้มีความพร้อมในเอกสารคำให้การ ซึ่งจนถึงขณะนี้ทาง DSI ยังไม่ได้มีการประสาน เข้ามาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง

ส่วนกระแสข่าวที่ว่า DSI จะเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ตนยังไม่ทราบเช่นกัน เพราะยังไม่ได้รับการประสานมา ซึ่งหาก DSI จะมาแจ้งข้อกล่าวหา ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ขอให้ประสานมาก่อน ไม่ใช่เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาโดยไม่แจ้งทนายความ แบบนี้ตนก็ไม่เอาด้วย ทั้งนี้หากเป็นการแจ้งข้อกล่าวหา ก็พร้อม แต่หากจะให้มีการสอบปากคำคงยังไม่พร้อม เนื่องด้วยสภาพภายในเรือนจำที่มีห้องสอบสวนเพียงห้องเดียว

1730886450308

นายวิฑูรย์ ยังบอกว่า ขณะนี้บอสพอล ทราบแล้วว่า DSI เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่ ซึ่งบอสพอลไม่ได้มีท่าทีกังวลอะไร และเตรียมสู้คดี ไม่ได้มีการฝากอะไรมาเป็นพิเศษ ให้เป็นหน้าที่ของตนเองในการต่อสู้คดี โดยตนเองได้รายงานความคืบหน้าการเตรียมพยานแก้ข้อกล่าวหากว่า 2,400 คน และมีการยืนยันตัวตนแล้ว 1,500 คน รวมถึงพยานผู้เชี่ยวชาญ อีก 1 คน ส่วนพยานที่เป็น บริษัทผลิตสินค้าจะทำคำให้การเป็นเอกสาร มายื่นให้กับดีเอสไอ

พร้อมยอมรับว่าพยานผู้เชี่ยวชาญคนดังกล่าวจะเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ สำหรับการแก้ข้อกล่าวหาในคดีนี้ เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย พรก.กู้ยืมเงินว่าด้วยการฉ้อโกงประชาชน หรือ แชร์ลูกโซ่ และเคยทำเรื่องแชร์ลูกโซ่มาแล้วหลายเรื่อง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายมาเป็น 10 ปี และเชื่อว่าจะให้ความรู้ และแง่คิดทางกฎหมาย ที่มีประโยชน์ต่อคดี ซึ่งจะทำให้ DSI เห็นอีกมุมหนึ่ง แบบที่ไม่ใช่การถูกกล่าวหา ซึ่งความพร้อมในการแก้ข้อกล่าวหาใช้ลูกโซ่ ขณะนี้เตรียมพยานหลักฐานได้ในระดับหนึ่งแล้ว

นายวิฑูรย์ ยังกล่าวถึงการจัดทำบัญชีพยานที่จะต้องนำส่งให้กับ DSI เพื่อนำพยานของผู้ต้องหาในคดีเข้าให้ปากคำด้วยว่า ขณะนี้ที่ DSI ยังไม่ได้นัดหมายสอบปากคำ มองว่า DSI น่าจะยังอ่านรายละเอียดของสำนวนไม่ครบถ้วน จึงยังไม่สามารถตั้งประเด็นในการสอบสวนได้ ซึ่งขณะนี้ทำบัญชีพยานไปแล้ว 1,500 คน และมีการจัดกลุ่มพยาน แบ่งเป็นตามระดับของตัวแทน และจัดกลุ่มขายสินค้า ทั้งขายปลีกขายส่ง และขายออนไลน์

ซึ่งตัวเองก็เตรียมจะยื่นบัญชีพยานและยืนยันว่า DSI จะต้องสอบปากคำพยานทุกคน เพราะมองว่าเมื่อมีการสอบปากคำผู้เสียหายทุกคน เช่นเดียวกับพยานฝั่งผู้ต้องหา ที่ต้องการจะให้ปากคำทุกคน จะโยนกลับให้ทนายไปทำสรุปคำให้การกว่า 2,000 คนไม่ได้ เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับฝั่งผู้ต้องหาด้วย

"จะบอกว่าเดี๋ยวคดีล่าช้าผู้เสียหายเสียประโยชน์ ถ้าคดีไม่เรียบร้อย คดีไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้ต้องหาก็เสียประโยชน์เหมือนกัน เพราะนี่คือชีวิตของคนทั้งขีวิต ถ้าเขาแพ้คดีเขาติดตุก เขาเสียอิสระภาพ ซึ่งตอนนี้เขายังเป็นผู้บริสุทธิ์ เว้นแต่ดีเอสไอจะมองว่ามีธงในใจว่าจะเอา มันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ผมมั่นใจว่าดีเอสไอคงไม่มองขนาดนั้น คงจะมีความเป็นธรรมและความเป็นกลางสูง พยานทุกคนที่นำเสนอจะต้องสอบทุกคนจะมาปิดปาก แล้วส่งอัยการเลยก็ไม่จบ ก็ต้องไปร้องขอความเป็นธรรมวุ่นวายช้าไปอีก"

พร้อมยืนยันว่าการให้สอบพยานทุกคนไม่ได้เป็นการข่มขู่ เพราะป็นการเอาพยานไปเสนอให้สอบสวน เพราะคดีอื่นทั่วไปยังเอาพยานทั้งฝั่งเลย แล้วพอคดีดิไอคอนที่เป็นคดีสำคัญ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับฝั่งผู้ต้องหาด้วย แม้คดีความความยุติธรรมต้องเป็นไปด้วยความรวดเร็ว แต่ความรวดเร็วแบบชุ่ยๆก็ไม่ควรมี

ส่วนจะเริ่มสอบปากคำได้เมื่อไหร่นั้น ตนเองไม่ทราบ ทั้งนี้หากให้การได้ช้า อาจจะเพราะต้องสอบเยอะ แต่ก็มองว่ามีวิธีแก้ปัญหาเพราะดีเอสไอมี 10 ภาค สามารถแบ่งไปในทุกภาคในการช่วยสอบปากคำได้ ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะทันกรอบระยะเวลาฝากขัง 84 วันหรือไม่นั้น ซึ่งหากไม่ทันก็คงต้องปล่อยตัว แต่ถ้าจะมาตัดพยานตนเองคงไม่ยอม.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส