DSI ยึดที่ดินดิไอคอน เพิ่มอีก 78 แปลง รอประสานเรือนจำนัดหมายให้เข้าแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ - พ.ร.บ.ขายตรงฯ ต่อ 18 บอส
วันที่ 6 พ.ย.67 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 ได้ประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน บช.ก. ตามข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำหนดให้มีการประชุมหารือร่วมกันหลังจากที่มีการส่งสำนวนแล้ว วันนี้จึงได้ประชุมถึงแนวทางในการรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินการทางสำนวน วันนี้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากทีม บช.ก. นำโดย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. และคณะ อีกทั้งยังทราบประเด็นที่มาแห่งการสืบสวนในประเด็นต่าง ๆ ตามองค์ประกอบความผิดว่ามีผู้ใดสืบสวนเรื่องใดบ้าง จึงทำให้มีความมั่นใจว่าจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดระยะเวลาควบคุม ทั้งนี้ ในที่ประชุมเราได้หารือกันทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน แผนประทุษกรรม การดำเนินธุรกิจต่าง ๆ การจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า สำหรับการจะเเจ้ง 2 ข้อกฎหมายเพิ่มเติมแก่ 18 บอสดิไอคอนฯ อันประกอบด้วย พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 นั้น คาดว่าจะดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ อาจเป็นวันศุกร์ที่ 8 พ.ย. และต่อเนื่องไปยังสัปดาห์หน้า โดยจะต้องนัดหมายทางทนายความของผู้ต้องหา รวมถึงขณะนี้ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างรอการประสานกลับจากทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง ว่าจะให้ดีเอสไอเข้าไปพบผู้ต้องหาได้ในวันเวลาใด
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยถึงกรณีที่มีพยาน 20 รายของบริษัท ดิไอคอนฯ ได้เดินทางเข้าพบดีเอสไอเมื่อวันที่ 4 พ.ย. เพื่อขอให้รับดำเนินการสอบปากคำเข้าสำนวนด้วยนั้น วันนี้ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือเรื่องนี้ แต่เราได้แจ้งให้ทนายความไปจัดทำบัญชีรายชื่อพยาน ว่าจะให้สอบปากคำรายใดบ้าง และขอให้กำหนดประเด็นมาก่อน เพื่อพนักงานสอบสวนจะได้ดูว่ามีประเด็นใดที่ซ้ำกันหรือไม่ หรือเป็นประเด็นที่จะใช้พิสูจน์ความผิดและความบริสุทธิ์อย่างไร ตรงนี้ถือเป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน จะสอบสวนทุกคนหรือไม่ ต้องขอดูประเด็นก่อน จึงยังไม่ได้นัดหมายกันว่าจะเริ่มสอบปากคำเมื่อใด เพราะทางทนายยังไม่ได้ส่งรายชื่อบัญชีพยานและประเด็นที่ต้องการให้มายังดีเอสไอ
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยต่อว่า ส่วนเรื่องความผิดกรณีการฟอกเงินทางอาญานั้น ดีเอสไอมีความคืบหน้า คือ คณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินทางอาญาได้มีการยึดและอายัดที่ดินเพิ่มเติม จำนวน 78 แปลง ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ซึ่งสืบสวนพบว่าเป็นที่ดินของผู้ต้องหาและกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง โดยเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดีบริษัทดิไอคอนฯ พนักงานสอบสวนจึงต้องยึดและอายัดไว้ตรวจสอบ และจะได้นำส่งสำนักงาน ปปง.ดำเนินการเรื่องทรัพย์สินต่อไป
พ.ต.ต.ยุทธนา เผยด้วยว่า ประเด็นพฤติการณ์ของบริษัทดิไอคอนฯที่เข้าองค์ประกอบของแชร์ลูกโซ่ เนื่องจากมีการตกลงร่วมกัน มีการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และรู้หรือควรรู้ว่าไม่สามารถประกอบธุรกิจได้โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนได้ตามที่ดำเนินการ
เมื่อถามถึงกรณีธุรกรรมทางการเงิน และการจ่ายผลตอบแทนของบรรดา 17 บอสที่เหลือเนื่องจากบอสพอล คือ ผู้บริหารหลัก เป็นอย่างไรนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา แจงว่า รายละเอียดภายในสำนวน ตนไม่สามารถระบุได้ ส่วนหลักการที่กล่าวได้คือเส้นทางการเงินของทุกคนมีความเชื่อมโยงถึงกัน
ทั้งนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการหารือถึงการแจ้งข้อหาผู้ต้องหากลุ่มที่ 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการกรณีผู้ต้องหากลุ่มที่ 1 จำนวน 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย คือ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ขอให้สำนวนนี้เสร็จสิ้นก่อน พร้อมย้ำว่า ดีเอสไอจะเร่งดำเนินการสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการให้เร็วที่สุด ภายในระยะเวลาการควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่วนถ้าหลังจากนี้ทนายความจะยื่นขอศาลปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาก็ถือเป็นสิทธิ์ของเขา แต่การทำสำนวนของดีเอสไอยังคงดำเนินการต่อไป และสิทธิ์การชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ให้ข้อเท็จจริงเป็นของผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอก็ต้องมาชั่งน้ำหนักว่าเป็นการกระทำความผิดหรือไม่ โดยต้องดูพยานหลักฐานประกอบ.