“บิ๊กเต่า” เผยสอบบอสดิไอคอนกรุ๊ปในเรือนจำ พบเส้นเงินเชื่อมแม่นักการเมือง “ส.” แต่ไม่เกิน 3 นาที เงินก้อนนี้ถูกโอนไปคนใกล้ชิดนักการเมือง ส.
วันที่ 6 พ.ย. 67 พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีดิไอคอนกรุ๊ป ว่าได้ส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ไปภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยเข้าไปสอบในประเด็นเรื่องคลิปเสียงเทวดา โดยได้สอบอยู่หลายบอส สอบประมาณ 4-5 ปาก และการสอบปากคำในครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก
จากการสอบปากคำเหล่าบอส ทำให้พนักงานสอบสวนพบเส้นทางการเงินของบอสเชื่อมโยงถึงแม่ของนักการเมือง ส. อดีตสมาชิกพรรคการเมือง (พลังประชารัฐ) จำนวน 6-7 แสนกว่าบาท ที่อ้างว่าเป็นเงินทำบุญ ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีของแม่ นักการเมือง ส. แต่เพียงไม่เกิน 3 นาที เส้นเงินนี้ก็ถูกโอนไปยังบุคคลใกล้ชิดของนักการเมือง ส. ตรงนี้ก็ยังน่าสงสัย
ซึ่งตำรวจจะมีการเรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำต่อไป แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเรียกแม่ของนักการเมือง ส. ด้วยหรือไม่ ต้องรอทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบให้แน่ชัดและชัดเจนในเรื่องนี้ก่อน และจะต้องมีการสอบปากคำบอสพอล ในเรื่องนี้เพิ่มเติมอีกด้วยเพราะในวันนี้ยังไม่ได้มีการสอบปากคำบอสพอลแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่านักการเมืองตัวย่อ ส. เป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลคอยหนุนหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุว่า ที่นี่ไม่มีแบ็ค เราดำเนินการตามกฏหมายผิดก็ว่าไปตามผิด
ส่วนกรณีที่ทนายตั้มพาผู้เสียหายมาแจ้งความที่ บก.ปปป. จำนวน 10 ราย และมีการเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 7.5 ล้านบาท แลกกับไม่ดำเนินคดีกับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวจากการสอบถามบอสพอลกับทนายเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป กรณีนี้จะต้องให้ทางพนักงานสอบสวนสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง
พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เชื่อว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานในการสรุปข้อหาว่ามีใครกระทำความผิดบ้าง และข้อหาใดบ้าง ส่วนกรณีที่มีประเด็นเรื่องตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเข้าไปรีดทรัพย์ “โค้ชแล็ป” ซึ่งจากการตรวจสอบเรื่องนี้ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยืนยันว่าไม่มีการรีดทรัพย์
ส่วนกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม บอกว่าทนายตั้ม มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงสูติบัตร และปลอมแปลงบัตรประชาชนในคดีพนักงานบริษัทสื่อสารชื่อดัง แล้วปรากฎมีการเอ่ยว่า ตำรวจชั้นผู้ใหญ่อักษรย่อ “ต” รู้เรื่องนี้ดี
ทางพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ระบุว่าเรื่องนี้ตนไม่ทราบ และไม่รู้ว่าตำรวจยศสูง “ต” นั้นเป็นใคร แต่น่าจะไม่ใช่หมายถึงตนเอง เพราะในนี้ตำรวจตัวย่อ “ต” ก็มีหลายคน แต่ถ้าหากจะเดินทางมาร้องเรียนก็สามารถมาร้องเรียนได้ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองบัญชาตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งจะตรวจสอบก่อนว่าเรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ถ้าหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องตนก็จะลงมาดูแลในเรื่องนี้ด้วยตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายการงานว่า ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) ทางตำรวจบก.ปปป.จะมีการประชุมเรื่องคดีดิไอคอนกรุ๊ป คาดว่าจะมีความคืบหน้าเพิ่มเติมในหลายประเด็น.