เลขาธิการ สพฉ. สั่งสอบเคส "รถสายไหมต้องรอด ปิดล้อมแย่งคนเจ็บจากกู้ชีพหงส์แดง"

8 พ.ย. 67

ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการ สพฉ. สั่งสอบเคส "รถสายไหมต้องรอด ปิดล้อมแย่งคนเจ็บจากกู้ชีพหงส์แดง"

วันนี้ (8 พฤศจิกายน 67) ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) สั่งสอบข้อเท็จจริง กรณีสำนักข่าวฐานเศรษฐกิจรายงานว่า "รถสายไหมต้องรอด" ปิดล้อมแย่งคนเจ็บจากทีมกู้ชีพ จาก สพฉ. 1669” เหตุการณ์สายด่วนศูนย์เอราวัณ กทม. 1669 ได้รับแจ้งอุบัติเหตุบริเวณซอยเทพรักษ์ 58 เขตสายไหม กรุงเทพฯ จึงได้ประสานและจัดส่งรถกู้ชีพ "หน่วยกู้ชีพหงส์แดง" ไปดำเนินการรับและนำส่งผู้บาดเจ็บ แต่ขณะที่กำลังนำส่งผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล มีรถที่มีสติ๊กเกอร์และโลโก้ของ "สายไหมต้องรอด" มาทำการปิดล้อมรถกู้ชีพ สพฉ. พร้อมกับแย่งผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งอยู่บนรถพยาบาลลงไปจากรถเพื่อจะนำส่งโรงพยาบาลเองนั้น เมื่อค่ำวันที่ 7 พ.ย. 2567 นั้น

660707

นาวาเอก (พิเศษ) นพ.พิสิทธิ์ เจริญยิ่ง รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ในฐานะโฆษก สพฉ. กล่าวว่า สพฉ. ได้รับรายงานข้อมูลในเบื้องต้น และ ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการ สพฉ. ได้สั่งการให้สำนักบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินพื้นที่ 3 ร่วมกับกลุ่มกฎหมายการแพทย์ฉุกเฉินของ สพฉ. ประสานกับศูนย์เอราวัณ และกู้ชีพหงส์แดง เข้าให้ข้อเท็จจริงตามกำหนดเวลาแล้ว หากพบเหตุการณ์ที่อาจทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินเกิดความไม่ปลอดภัยตามภาพข่าว สพฉ.จะต้องมีกระบวนการติดตามเพื่อสอบข้อเท็จจริงร่วมกันต่อไป เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินตามเจตนารมณ์ของ พรบ.การแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2551 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กู้ชีพหงส์แดง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยปฏิบัติการแพทย์ระดับพื้นฐานตามประกาศ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ และกำกับดูแลหน่วยปฏิบัติการการแพทย์ พ.ศ.2564 และเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ 3 พฤษภาคม 2567 แล้ว

873449

โฆษก สพฉ.กล่าวต่อว่า สพฉ. ให้ความสำคัญกับผู้ป่วยฉุกเฉินที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยผู้พบเห็นหรืออยู่ในเหตุการณ์ พร้อมแจ้งเหตุการณ์เจ็บป่วยฉุกเฉินนั้นไปยังสายด่วน 1669 เพื่อให้ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ จัดส่งรถจากหน่วยปฏิบัติการแพทย์ที่ได้มาตรฐานไปให้การปฐมพยาบาล และนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้เคียง เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับความปลอดภัยโดยเร็ว หากประชาชนพบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1669 และหากพบเห็นการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติการ หน่วยปฏิบัติการ หรือสถานพยาบาลที่ไม่เป็นมาตรฐาน โปรดแจ้งมาที่ สพฉ. หมายเลข 028721669 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวประชาสัมพันธ์ เป็นกระแส