ชาวภูเก็ตฉะ แก๊งกระบะซิ่งไร้จิตสำนึกตั้งวงเหล้าบนสะพาน อาสาเตือนเสี่ยงโควิดยังเถียง (คลิป)

25 มี.ค. 63

วันที่ 25 มี.ค. 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ โดยมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 26 มี.ค. 63

538847

ทั้งนี้ จากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน มีการออกข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 ฉบับ ที่ 1 โดยมีการออกข้อกำหนด 16 ข้อ

445789

1. ห้ามเข้าพื้นที่เสี่ยง หรือสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อโรคโควิด-19
2. ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดต่อโรค ให้ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดออกคำสั่ง โดยต้องสั่งปิดสถานที่สนามมวย สนามกีฬา สนามแข่งขัน สนามเด็กเล่น สนามม้าในทุกจังหวัด สถานบริการ สถานประกอบการ และนวดแผนโบราณ สถานที่ออกกำลังกาย สถานบันเทิง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ
3. ปิดพรมแดนไทย ทั้งทางอากาศ ทางบก ทางน้ำ ห้ามเข้าประเทศไทย
4. การห้ามกักตุนสินค้า ยา เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม สินค้าอื่นที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน

690838

5. การห้ามชุมนุม ห้ามทำกิจกรรมหรือการมั่วสุมในสถานที่แออัด หรือกิจกรรมยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
6. ห้ามเสนอข่าวหรือเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับ โควิด-19 ที่ไม่เป็นความจริง หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร
7. มาตรการเตรียมรับสถานการณ์ ให้ผู้ว่าฯ กทม. และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เป็นผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ที่ตนรับผิดชอบ, ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง กำหนดและประชาสัมพันธ์เผยแพร่มาตรการเพื่อช่วยเหลือหรือบรรเทาผลกระทบ
8. มาตรการพึงปฏิบัติกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้ง่าย ควรอยู่ในเคหสถาน หรือบริเวณสถานที่พำนัก

852412

9. มาตรการการเข้า-ออกประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดในการตรวจลงตราหรือออกวีซ่าหรืออนุญาตทั้งและออกประเทศไทย
10. มาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในกรุงเทพฯ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดเวรยามหรือตั้งจุดตรวจตามถนน
11. มาตรการป้องกันโรค รักษาความสะอาดของร่างกายและสิ่งแวดล้อม ป้องกันการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อ
12. สถานที่ที่เปิดให้บริการตามปกติ ได้แก่ โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านอาหารที่ไม่ใช่สถานบันเทิง แผงจำหน่ายอาหาร ร้านสะดวก ร้านค้าทั่วไป โรงงาน ฯลฯ

806306

13. ประชาชนควรพักหรือทำงานอยู่ที่บ้าน งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด
14. การจัดกิจกรรม พิธีการทางสังคมตามประเพณีนิยม เช่น พิธีมงคลสมรส พิธีเช่นไหว้บรรพบุรุษ พิธีบำเพ็ญกุศล พิธีศพ พิธีสงกรานต์ และงานพิธีที่ทางราชการ ยังสามารถจัดได้ตามความเหมาะสม แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค
15. โทษความผิด ผู้ฝ่าผืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 – 6 แห่งข้อกำหนดนี้ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และอาจมีความผิดตามมาตรา 52 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2548 หรือมาตรา 41 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 แล้วแต่กรณี
16. การใช้บังคับข้อกำหนดนี้ให้ใช้บังคับทั่วราชอาณาจักร รวมทั้งพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสามารถออกข้อกำหนดเปลี่ยนแปลง เพิ่มหรือลดมาตรการ/เงื่อนไข หรือเงื่อนเวลาได้โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาและเผยแพรให้ประชาชนทราบ

313296

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงรายละเอียดภายหลังนายกรัฐมนตรีประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยสรุปข้อกำหนดนี้ได้พูดถึงการกำหนดพฤติกรรมต่าง ๆ เป็น 3 ประเภทคือ ห้ามทำ, ให้ทำ และควรทำ

1

"ห้ามทำ" คือ ห้ามประชาชนเข้าพื้นที่เขตกำหนด ตามคำสั่งผู้ว่าแต่ละจังหวัด อาทิ สนามกีฬา สนามบันเทิง, ห้ามคนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ไม่ว่าจะทางเรือ อากาศ ทางบก ทุกจุดทุกด่าน ทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ยกเว้นคนไทยที่อยู่ต่างประเทศสามารถเดินทางเข้ามาได้, ห้ามการชุมนุม ไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม และห้ามแพร่ข่าวปลอมที่จะทำให้คนตระหนกเกี่ยวกับโควิด-19

3

"ให้ทำ" คือ ให้ส่วนราชการของรัฐดำเนินการเพื่อประชาชน ให้หน่วยงานของรัฐเตรียมโรงพยาบาล เตรียมเตียง เตรียมยา เตรียมแพทย์ ที่จะมารับมือกับสถานการณ์ โดยให้คิดไปถึงการวางโรงแรมในการรักษา ศาลาวัดใช้รักษาผู้ป่วย รวมถึงอาคารของเอกชน และสถานที่ต่าง ๆ เพื่อทำเป็นโรงพยาบาลสนาม

2

"ควรทำ" คือ สำหรับประชาชนควรที่จะอยู่บ้าน ไม่ออกนอกบ้าน โดยกำหนดบุคคล 3 ประเภทที่แพทย์มีคำแนะนำให้อยู่บ้าน คือบุคคลที่สูงอายุเกินกว่า 70 ปี บุคคลอายุใดก็ตามที่มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน ปอด โรคระบบทางเดินหายใจ และเด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ

757943

อย่างไรก็ตาม จากกรณีคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต เข้าไปตักเตือนกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวจัดปาร์ตี้ ริมถนนในสวนสาธารณะสะพานหิน ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต วัยรุ่นกลับแถว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีผลบังคับใช้ 26 มี.ค. 63 และยังรวมตัวจัดงานวันเกิดเพื่อนได้ ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 จนเกิดการโต้เถียงกันพักใหญ่ สุดท้ายกลุ่มวัยรุ่นยอมเก็บข้าวของและเดินทางกลับบ้าน

391933

ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ริมถนนในสวนสาธารณะสะพานหิน บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนี้ ให้ข้อมูลว่า บริเวณดังกล่าวมีวัยรุ่นมานั่งกินข้าว กินเหล้าเบียร์ เปิดเพลงเป็นประจำ ตั้งแต่ 20.00 น.-22.00 น. เพราะเป็นที่สาธารณะ แต่ช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่มีประกาศไม่ให้ออกมารวมกลุ่มในที่สาธารณะ ปรากฎว่าในสวนสาธารณะสะพานหิน มีผู้คนมานั่งกินเหล้าน้อยลง แต่ก็ยังมีอยู่บ้าง เพราะเป็นมุมพักผ่อนของชาวบ้าน

685055

นางสำลี (นามสมมติ) ชาวบ้าน เปิดเผยว่า ตนได้ดูคลิปวัยรุ่นที่มานั่งกินเหล้าในสวนสาธารณะสะพานหินแล้ว ยอมรับหวาดกลัวที่จะติดไวรัสโควิด-19 หลังจากมีกลุ่มวัยรุ่นท้าทาย มารวมตัวมานั่งกินเหล้า โดยไม่ได้มีการใส่หน้ากากอนามัย และป้องกันตัวเอง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส

825917

ทั้งนี้ อยากฝากเตือนกลุ่มวัยรุ่นในคลิป ให้ใส่หน้ากากป้องกันเชื้อโรค การมานั่งกินเบียร์กินเหล้า แบบนี้ไม่เหมาะสม ชาวบ้านทุกคนกลัวจะติดเชื้อไวรัสโควิด จะไปไหนมาไหนก็ไม่กล้าไป ยิ่งตนเองเป็นโรคเบาหวาน เป็นความดันอยู่แล้ว หากติดเชื้อคงอันตราย และฝากเตือนทุกคนดูแลเรื่องความสะอาด ล้างมือให้สะอาดกันด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม