จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมาก และต้องไปพบแพทย์ แต่มีบางคนที่ปกปิดข้อมูลว่าเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยง ทำให้แพทย์เสี่ยงติดเชื้อไปด้วย ล่าสุด โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ ซึ่งเป็นภาพที่มีข้อความอ้างว่าเป็นคำสาบานหน้าจุดคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 โดยระบุว่า หากปกปิดความจริงขอให้รักษาโรคไม่หาย
โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ ซึ่งเป็นภาพที่มีข้อความอ้างว่าเป็นคำสาบบานหน้าจุดคัดกรองผู้ป่วยโควิดของโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย โดยระบุว่า ข้าพเจ้าขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าข้าพเจ้าให้ข้อมูลประวัติเป็นความสัตย์จริง ไม่ปกปิดความเสี่ยงโรคโควิดสิบเก้า หากปิดบังความจริง โกหก ขอให้รักษาไม่หาย ลุกลามจนตายด้วยความทรมานทั้งกายและใจ และส่งผลถึงครอบครัวและคนที่รักอีกด้วย หากให้ข้อมูลด้วยความสัตย์จริง ไม่ปิดบัง ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยทั้งปวง มีความสุขความเจริญ
หลังจากมีการแชร์ภาพข้อความดังกล่าวออกไปนั้น ชาวเน็ตก็ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะบุคลากรทางการแพทย์จะได้มีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ต่อมาหมอคนดังกล่าว ที่โพสต์ข้อความนี้ ได้ชี้แจงว่า รพ.ศรีสังวรสุโขทัยไม่มีการให้ผู้ป่วยสาบาน ณ จุดคัดกรอง เป็นความคิดส่วนตัวของตน หลังจากมีข่าวบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเพราะผู้ป่วยปิดบังประวัติ โดยอิงจากคำสาบานหน้าศาลยุติธรรม คิดว่าน่าจะช่วยลดการปิดบังได้ในระดับหนึ่ง บุคลากรทางการแพทย์ปลอดภัยขึ้น ต้องขออภัยที่นำหลวงพ่อทองคำผู้ให้กำเนิด รพ. ซึ่งเป็นบุคคลที่ตนเคารพสูงสุดมาอ้าง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดดังกล่าว
แต่อย่างไรก็ตามแม้ท่านไม่ได้สาบาน หากท่านปิดบังประวัติความเสี่ยง ย่อมทำให้ท่านได้รับการรักษาล่าช้า มีโอกาสเสียชีวิต อีกทั้งยังแพร่เชื้อไปยังคนที่ท่านรัก ดังนั้นกรุณาอย่าปิดบังประวัติเสี่ยงโรคโควิด เพื่อตัวท่าน ครอบครัวของท่าน และบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งกำลังทำงานหนักเพื่อคนไทยทุกคน
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลศรีสังวร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ตามที่ข้อความระบุไว้ และได้พบกับ นพ.ณัฐพล เดชะปรากรม หัวหน้ากลุ่มงานโสต ศอ นาสิกโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย เป็นคนต้นคิด และได้กล่าวว่าเป็นความคิดของตนจริง แต่ยังไม่ได้มีการติดประกาศที่โรงพยาบาลศรีสังวรแต่อย่างใด เพียงแต่ตนเองมีความคิดว่าน่าจะนำมาใช้ เพราะถ้าหากการใช้คำสาบาน ทำให้ผู้ป่วยไม่กล้าปิดบังประวัติก็จะทำให้แพทย์ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
และได้โพสต์ไว้ใน Facebook ส่วนตัวของตนเอง จนได้มีคนเห็นและแชร์กันในกลุ่มเพื่อนหมอ และมีเพื่อนหมอก็นำไปใช้ที่คลินิกส่วนตัวที่ต่างจังหวัด จนมีการแชร์กันเป็นวงกว้างจนเป็นข่าว
ในส่วนของผู้มาใช้บริการต่างมีความคิดเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี และเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ หากคนไข้ปกปิดความจริงนอกจากจะเป็นผลเสียแก่ตัวเองแล้วก็จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ได้รับความเสี่ยง และหากติดเชื้อจริง ก็จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ขาดไปด้วยเนื่องจากต้องถูกกักตัว 14 วัน
อีกทั้งการสาบานตนนั้นคนไทยเป็นผู้รักษาศีล กลัวในเรื่องบาป บุญ หากใช้จิตวิทยาในแนวนี้น่าจะทำให้ได้ข้อมูลชัดเจน ไม่กล้าปิดบัง และยังเป็นการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ได้อีกทางหนึ่ง