จากกรณีมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย 19 ราย โดย 1 ในผู้เสียชีวิตล่าสุดเป็นสมาชิกหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี คือชายอายุ 51 ปี พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย
โดยเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 63 มีอาการป่วย ไปพบหมอแล้ว วันที่ 21 มี.ค. 63 กลับไปทำงานปกติ จากนั้น วันที่ 31 มี.ค. 63 อาการหนัก เหนื่อยหอบและตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาล ด้วยอาการตัวร้อนและมีไข้สูง ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล วันที่ 2 เม.ย. 63
ล่าสุด วันที่ 3 เม.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต ภรรยาของผู้เสียชีวิตยืนคุยนอกรั้วบ้าน โดยการเว้นระยะห่าง พร้อมปล่อยโฮ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ เพราะเมื่อคืนภาวนาขอให้ได้เจอนักข่าวอมรินทร์ทีวี แต่เดิมตนเองและสามีอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ 2 คน แต่ 3 วันก่อนที่สามีจะเสียชีวิต มีญาติ 2 คนมาอาศัยอยู่ที่บ้านด้วย แต่ขณะนี้มีการตรวจและกักตัวแล้ว
โดยสามีเป็นพนักงานขับรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย เส้นทางที่ขับคือกรุงเทพ-หัวหิน และกรุงเทพ-แก่งคอย ตอนเช้าก็จะเดินทางไปทำงาน เลิกงานก็จะกลับบ้าน ไม่เคยไปสนามมวย และไม่เคยไปสถานที่ที่เสี่ยงแต่อย่างใด ซึ่งในส่วนตัวของสามีก็ไม่ทราบมาก่อนว่าติดเชื้อโควิด-19 ส่วนครอบครัวก็เพิ่งทราบตอนสามีเสียชีวิต หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าครอบครัวปกปิดข้อมูล ตนเองก็เครียดมาก เพราะไม่เป็นความจริง
ดังนั้นจึงขอความเห็นใจ เพราะตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความเครียดตลอดเวลา เนื่องจากชาวบ้านรังเกียจ ขอความเมตตาหยุดโจมตีครอบครัว ตอนนี้รู้สึกไม่อยากอยู่บ้าน อยากจะให้เจ้าหน้าที่มารับไปอยู่ที่โรงพยาบาล บางครั้งก็เครียดหนักถึงขั้นอยากขายบ้านทิ้ง แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น ทั้งที่สามีเพิ่งซื้อบ้านหลังนี้ได้ไม่นาน ตั้งใจว่าจะอยู่กับครอบครัวหลังจากเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
ตอนนี้สิ่งที่กังวลมากที่สุด คือกลัวว่าจะไม่ได้รับการเยียวยา จึงขอความเห็นใจไปถึงผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้เยียวยาความบอบช้ำของครอบครัวด้วย เพราะคาดว่าสามีน่าจะรับเชื้อมาจากการทำงานที่สถานีรถไฟ
ลูกชายของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า ครอบครัวไม่ทราบว่าพ่อติดเชื้อ เพราะก่อนหน้านั้นก็ไม่แสดงอาการ จนกระทั่งวันเสียชีวิต ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว พ่ออยู่กับแม่เพียง 2 คน แต่ 3 วันก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต มีญาติ 2 คนมาอาศัยอยู่ด้วย ญาติปัจจุบันมีการตรวจและกักตัวสังเกตอาการเรียบร้อยแล้ว
ส่วนสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือแม่ เพราะหลังจากที่พ่อเสียชีวิต สภาพจิตใจของแม่ค่อนข้างย่ำแย่มาก แม่อยากกักตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่อยากอยู่บ้าน ตนเองจึงได้ประสานโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต และโรงพยาบาลได้นำตัวแม่ไปกักตัวเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าแม่อาจจะได้รับเชื้อ เพราะคลุกคลีอยู่กับพ่อตลอด
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านรังเกียจหรือกลัว ตนเองก็เข้าใจ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะกลัว แต่อยากบอกว่าที่ผ่านมาไม่ได้ปกปิดข้อมูล อยากให้เข้าใจว่าครอบครัวไม่ทราบจริง ๆ กระแสข่าวตอนนี้ทำให้เกิดความเครียด และตนเองก็พลอยถูกสังคมรังเกียจไปด้วย ซึ่งเมื่อเช้าตอนที่เดินทางมาที่โรงพยาบาล เพื่อติดต่อขอรับศพ ประชาชนที่อยู่ในโรงพยาบาลก็แสดงอาการรังเกียจ ไม่กล้าเข้าใกล้ อย่างไรก็ตาม ศพของพ่อจะทำพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้