เปิดใจแท็กซี่ 5 วันเพิ่งรู้ส่งลุงป่วยโควิดตายบนรถไฟ ภาพชัดพักโรงแรมใส่แมสก์เกี่ยวแค่หู กัก 4 คนเสี่ยง (คลิป)

3 เม.ย. 63

จากกรณีชายวัย 57 ปี เสียชีวิตบนขบวนรถไฟ กรุงเทพ-สไหงโกลก เมื่อวันมี่ 30 มี.ค.63 ขณะรถไฟแล่นผ่าน อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผลการชันสูตรเบื้องต้น แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคประจำตัว แต่จากการตรวจคัดกรองอย่างละเอียด พบว่าติดเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย

930723

โดยภายหลังพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องหรือสัมผัสกับชายคนดังกล่าวหลายคนยังไม่สามารถติดตามตัวได้ อาทิ แท็กซี่เขียว-เหลือง ทะเบียน มฎ 1132 ที่รับชายรายนี้มาจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปลงที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่ามรามคำแหง ในวันที่ 29 มี.ค.63 และแท็กซี่เขียว-เหลือง ทะเบียน 1 มช 6090 ที่มาส่งที่สถานีรถไฟบางซื่อ

476816

ล่าสุดวันที่ 3 เม.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟสถานีบางซื่อ สามารถติดต่อแท็กซี่เขียว-เหลือง ทะเบียน 1 มช 6090 ที่รับชายคนดังกล่าวจากโรงแรมมาขึ้นรถไฟที่สถานีบางซื่อได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

969514

ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี มีโอกาสพูดคุยกับแท็กซี่รายดังกล่าว นายเอ (นามสมมติ) กล่าวว่า ตนตกใจมาก และเพิ่งจะรู้เรื่องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากไปส่งผู้โดยสารเมื่อวันที่ 29 มี.ค.63 ที่ผ่านมา เพราะวันนี้ดูข่าวและจำผู้โดยสารได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์ประสานมาว่าตนอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เพราะใกล้ชิดกับชายผู้เสียชีวิต วันนี้ตนจึงหยุดภาระกิจทุกอย่าง ได้โทรศัพท์บอกทางครอบครัว และเจ้านายเพื่อให้ระวังตัว เพราะจะเดินทางไป รพ.รามาฯ เพื่อพบแพทย์ทันที

809023

ทั้งนี้ในวันที่ไปรับชายผู้ที่เสียชีวิตเพื่อไปส่งที่สถานีรถไฟบางซื่อนั้น ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากนัก และไม่ได้มีการสัมผัสถูกตัวแต่อย่างใด นอกจากนี้ตนและผู้โดยสารก็สวมใส่หน้ากากอนามัยทั้งคู่ด้วย แต่ตนได้ช่วยยกกระเป๋าและสัมภาระขึ้นและลงรถ อย่างไรก็ตามตนจะไปตรวจให้แน่ชัด แต่ถ้าหากต้องเสียเงินตรวจ อาจจะต้องรอดูก่อน หรือใช้วิธีกักตัวก่อน เพราะตนก็ไม่มีเงินไปตรวจเชื้อเหมือนกัน

602523

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่โรงแรมย่านรามคำแหง พบว่าเป็นโรงแรมขนาดเล็ก 2 ชั้น เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตในพื้นที่ กำลังเข้ามาพ้นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในโรงแรม จึงมีโอกาสได้พูดคุยกับ น.ส.ซามีนี นิแว ผู้จัดการโรงแรม เปิดเผยว่า ชายรายนี้เป็นลูกค้าประจำ แต่จะเดินทางมาพักปีละ 1 ครั้งเกือบทุกปีตั้งแต่โรงแรมเปิด ล่าสุดเข้ามาพักวันที่ 29 มี.ค.63 ซึ่งนั่งแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มฎ 1132 ซึ่งรับชายรายนี้จากสนามบินสุวรรณภูมิ 

884160

โดยระหว่างที่เข้าพักไม่ได้เดินออกไปไหน หรือมีปฏิสัมพันธ์กับใคร แต่จะมีลูกสาวที่เดินทางนำอาหารมาให้ทุกวัน และมีการใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งตนยอมรับว่าไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยในวันที่ชายรายนี้เดินมาเช็กอิน ซึ่งพอมาทราบข่าวการเสียชีวิตเพราะติดเชื้อโควิด-19 ก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน ทั้งนี้ตนเชื่อว่าชายรายนี้ไม่ได้ตั้งใจจะแพร่เชื้อ เพราะเท่าที่สัมผัสได้เขาเป็นคนดี พูดดี เคร่งเรื่องศาสนา

นอกจากนี้เท่าที่ตนสังเกตชายรายนี้ ไม่มีอาการไอ มีแค่อาการเดินไม่ค่อยถนัด ซึ่งในวันที่ 30 มี.ค.63 ก่อนที่จะเดินทางออกจากโรงแรม ตนยังซื้อข้าวให้ชายรายนี้อยู่เลย เพราะแกเดินไม่ไหว พร้อมกับเรียกแกร็บแท็กซี่คันที่ไปส่งที่สถานีรถไฟบางซื่ออีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และประกอบกับเศรษฐกิจแบบนี้ทำให้ไม่มีลูกค้า รายได้เป็นศูนย์ จึงได้สั่งให้พนักงาน 4 คนได้กักตัวไว้แล้ว ตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหลังจากนี้โรงแรมจะทำการปิดชั่วคราวไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย.63

ทางโรงแรมยังได้เปิดเผยภาพกล้องวงจร ที่ทำให้เห็นไทม์ไลท์การใช้ชีวิตในโรงแรมของชายรายนี้และผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

550337

กล้องตัวที่ 1 ปรากฎภาพเมื่อวันที่ 29 มี.ค.63 เวลาประมาณ 08.57 น. มีแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มฎ 1132 ได้เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ชายรายนี้นั่งเบาะด้านหน้ามากับคนขับรถแท็กซี่ ซึ่งทั้งคู่สวมหน้ากากอนามัย โดยโชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าวได้ลงมาช่วยขนกระเป๋าลงจากรถ ส่วนผู้โดยสารเดินลงมาจากรถแท็กซี่ประตูข้างคนขับ และมีไม้เท้าช่วยพยุงเดิน ก่อนจะเข้าเช็กอินเข้าห้องพัก

กล้องตัวที่ 2 เมื่อวันที่ 29 มี.ค.63 ปรากฎภาพชายรายนี้ เดินเข้ามาเช็กอินที่โรงแรม โดยมีการเว้นระยะกับทางผู้จัดการโรงแรม

กล้องตัวที่ 3 ในวันเดียวกันปรากฎภาพชายรายนี้ เดินเข้าห้องพัก โดยมีพนักงานผู้หญิงช่วยถือกระเป๋าเข้าห้อง

กล้องตัวที่ 4 วันเดียวกัน ปรากฏภาพที่ลูกสาวของชายรายนี้ซื้ออาหารมาส่งที่ห้องพัก โดยเข้าไปในห้องพักด้วย ก่อนที่ในช่วงเช้าวันที่ 30 มี.ค.63 ชายรายนี้จะเดินทางออกไปที่สถานีรถไฟบางซื่อ

1

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สามารถติดต่อชายหนุ่มที่ชายผู้เสียชีวิตไอใส่ได้แล้ว ซึ่งเจ้าตัวอาศัยอยู่กับญาติที่เป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข และได้มีการกักตัวรอดูอาการแล้ว ส่วนผู้หญิงเสื้อเหลือง สามารถติดต่อได้แล้วเช่นกัน กำลังเดินทางไปตรวจหาเชื้อที่สถาบันบําราศนราดูร ขณะที่พนักงานขายตั๋ว 2 คนที่ใกล้ชิดกับชายรายนี้ก็ได้รับการกักตัว 14 วัน

2

4

ทั้งนี้กลุ่มสัมผัสผู้ป่วยอีกกลุ่ม คือ วินรถจักรยานยนต์ที่ขี่รถมาส่งชายรายนี้ ได้กักตัว 14 วันเช่นกัน 

5

6

7

ส่วนกลุ่มสัมผัสผู้ป่วย ได้แก่ บุคลากรด้านสาธารณสุขของเทศบาลเมืองหัวหิน จำนวน 4 ราย และบุคลากรในพื้นที่ อ.ทับสะแก จำนวน 17 คน ก็ได้กักตัว 14 วันเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ในส่วนของเจ้าหน้าที่กู้ภัย ยอมรับว่ามีอาการเครียด แต่ร่างกายยังคงแข็งแรงดี 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม