วันที่ 11 เม.ย. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา สามารถจับกุมนายสินธวัช เชื้อสายผาติ หรือ ย่น อายุ 25 ปี อาชีพขับรถรับจ้างทั่วไป ข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี จับกุมได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ย่านพุทธมณฑลสาย 4 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม หลังก่อเหตุชิงทรัพย์ 6,000 บาทแล้วหลบหนี
นายสินธวัช ยอมรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างทั่วไป ไม่มีวินประจำ หาซื้อเสื้อวินมาใส่เอง ติดเบอร์เสื้อหมายเลข 29 แล้วตระเวนขี่รับผู้โดยสารทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ไม่สามารถหาเงินมาจุนเจือครอบครัวที่อยู่กันถึง 7 คนได้ และข้าวสาร อาหารแห้ง แก๊สหุงต้มหมด ไฟฟ้าและน้ำประปาโดนตัด ต้องอยู่ในความมืด ไม่มีอาหารกิน จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว
เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ นำตัวไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้พลัดแรก เป็นเวลา 12 พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกอาจ ทั้งนี้ ฝ่ายสืบสวนได้มอบเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ครอบครัว เพื่อซื้ออาหารบรรเทาความเดือดร้อน
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ปี 2561 นายสินธวัช เคยต้องคดียาเสพติด ในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
ทีมข่าวเดินทางมาที่พักของผู้ก่อเหตุ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เป็นทาวน์เฮ้าส์ หลังจากที่นายย่นถูกจับกุมตัว ทางการไฟฟ้าได้เข้ามาต่อไฟฟ้าให้ทางครอบครัวใช้แล้ว
นายตั้ม (นามสมมติ) อายุ 30 ปี พี่เขยของผู้ต้องหา เปิดใจว่า หลังเกิดเรื่อง นายย่นไม่ได้มาเล่าให้ตนฟัง แต่ตนรู้สึกสงสัย เพราะนายย่นบอกให้ตนเก็บรถไว้ในบ้านดี ๆ ตนจึงพยายามสอบถามว่าไปทำอะไรมา แต่นายย่นไม่ยอมตอบ และมาทราบเรื่องจริงตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมตัวที่หน้าบ้าน และยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปด้วย
ทั้งนี้ นายย่นเป็นเสาหลักของครอบครัว หาเงินมาใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน และค่าเทอมของลูก รวมที่ต้องดูแลทั้งหมด 9 ชีวิต หลังจากที่นายย่นถูกจับ ทำให้ครอบครัวลำบากขึ้น ไม่มีรายได้ ตนเชื่อว่านายย่นทำไปเพื่อครอบครัว เนื่องจากก่อนเกิดเรื่อง นายย่นบนว่าไม่มีเงินจ่ายไฟ 1,800 บาท ทำให้ที่บ้านถูกตัดไฟ 2 สัปดาห์แล้ว ทุกอย่างในบ้านไม่มีอะไรเหลือ ทุกคนต้องประทังชีวิตด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขอข้าววัดมากิน "นายย่นตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย แต่มีคนมาห้ามไว้ทัน ทุกคนพยายามให้กำลังใจ และบอกให้คิดถึงลูก"