จากกรณีโซเชียลฯ แชร์เรื่องของลุงรายหนึ่ง อาชีพขายเฉาก๊วยใน จ.นครราชสีมา ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 จากนั้นมีชายรายหนึ่งอาสาช่วยลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาล แต่ลุงได้เงินเพียงแค่ 1,000 บาทเท่านั้น
นายบุญใหล มอมขุนทด อายุ 71 ปี พักอยู่ลำพัง ในบ้านเช่าริมถนนมิตรภาพ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีอาชีพขายเฉาก๊วย ขายแก้วละ 10 บาท ได้กำไรแก้วละ 2 บาท ขายได้ 50-150 แก้ว ตระเวนขายไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ทั่วอำเภอปากช่อง ตั้งแต่เช้าถึงเย็น
โดยเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 63 ได้ไปขายเฉาก๊วยที่หน้า รร.ขนงพระใต้ ต.ขนงพระ มีเด็กหนุ่มมาซื้อเฉาก๊วย อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อน ได้สอบถามว่าลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท จากรัฐบาลแล้วหรือยัง ซึ่งลุงไม่รู้เรื่องการลงทะเบียน เพราะอ่านหนังสือไม่ออก ไม่มีโทรทัศน์ติดตามข่าวสาร ชายหนุ่มจึงอาสาลงทะเบียนให้ แล้วบอกว่าอีกไม่กี่วันเงินจะเข้าบัญชี
ต่อมาวันที่ 15 เม.ย. 63 หนุ่มอ้างเป็นพลเมืองดีโทรมาหาลุง บอกว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว พร้อมทั้งมาพาไปกดเงินที่ตู้ ATM ถึง 3 ครั้ง สุดท้ายส่งเงินให้เพียง 1,000 บาท บอกว่าเงินเข้าแค่นี้
นายบุญใหล กล่าวว่า ตนเห็นเด็กหนุ่มมีน้ำใจ ก็มอบเฉาก๊วยไปให้ 10 กว่าถ้วย จากนั้นแม่ข้าขายของหน้าร้านสะดวกซื้อมาถามตนว่าได้เงินเท่าไร ตนบอกไปว่าได้ 1,000 บาท แม่ค้าก็บอกว่าตนถูกโกงแล้ว
จากนั้น มีพลเมืองดีพาตนเอาสมุดบัญชีไปปรับที่ธนาคารกรุงไทย สาขาปากช่อง จึงรู้ว่าถูกโกงเงินไป เพราะมีเงินเข้าบัญชีมา 5,000 บาท พลเมืองดีจึงพาไปแจ้งความที่ สภ.ปากช่อง พร้อมนัดเด็กหนุ่มมาที่ สภ.ปากช่อง เด็กหนุ่มโทรหาตน จะขอผ่อนคืนให้สัปดาห์ละ 1,000 บาท แต่ตนไม่ยินยอม เพราะถ้าไม่มีเงินให้ ก็จะให้ตำรวจจับเข้าคุก
นอกจากนี้ ภาพวงจรปิดวันที่ 15 เม.ย. 63 เวลา 10.30 น. พบว่าหนุ่มคนดังกล่าวพาลุงขายเฉาก๊วยไปกดเงิน
ล่าสุด วันที่ 16 เม.ย. 63 นายพัฒนา รัปชัย อายุ 21 ปี เข้าให้ปากคำกับตำรวจแล้ว หลังจากที่ พ.ต.อ.มานพ ภุชชงค์ ผกก.สภ.ปากช่อง สั่งชุดสายสืบไปจับตัวมาดำเนินคดีจากบ้านที่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
นายพัฒนา รับสารภาพว่า ตอนแรกตอนลงทะเบียนให้ลุง ไม่คิดจะเอาเงินของลุง แต่เมื่อไปเบิกเงินมาเมื่อวานนี้ ครอบครัวตนเดือดร้อน รถไปซ่อมแล้วไม่มีเงินจ่าย จึงมีอารมณ์ชั่ววูบ เอาเงินของลุงไป 4,000 บาท แต่วันนี้ตั้งใจจะหาเงินจากญาติพี่น้องมาคืนให้ลุง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับตัวก่อน
พ.ต.อ.มานพ ให้ข้อมูลว่า ถึงแม้ผู้ต้องหาจะรับสารภาพ และคืนเงินให้ลุงผู้เสียหาย แต่ความผิดสำเร็จแล้ว จึงต้องดำเนินคดี และนโยบายนี้ เป็นนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน รีบส่งฟ้องศาลด้วยวาจา ในข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งยอมความไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งฟ้องศาลจังหวัดสีคิ้ว อ.ปากช่อง ต่อไป