วันที่ 18 เม.ย.63 ชาวบ้านได้ร้องเรียนว่ามีครอบครัวที่ยากจนที่ประสบกับปัญหาพิษโควิด-19 เล่นงานทำให้ขาดรายได้ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว และไม่ได้ลงทะเบียนขอรับเงิน 5,000 บาท จากโครงการเราไม้ทิ้งกันเพราะทำไม่เป็น
วันที่ 18 เม.ย.63 ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านเลขที่ 8/24 หมู่ 1 ตำบลหนองรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี สภาพบ้านค่อนข้างทรุดโทรม มุงด้วยสังกะสีและผ้าใบเก่า ๆ และมีรถจักรยานยนต์พ่วงซาเล้งอยู่ในสภาพชำรุด
นางสาวนวลศรี สุริยพรรณ อายุ 49 ปี ผู้ร้องเรียน บอกว่า ก่อนหน้านี้ ตนประกอบอาชีพค้าขายส้มตำและไส้กรอกย่าง ทุกวันตนต้องซื้อของมาเตรียมขาย โดยมีต้นทุนมากกว่า 4,000 บาท ซึ่งก็ต้องไปกู้มา โดยตนจะรอพี่เขยเลิกงาน และให้พี่เขยขับจักรยานยนต์พ่วงซาเล้งไปขายของที่ตลาดสะพานใหม่ จ.ชลบุรี กระทั่งช่วงโควิดระบาดและทางการได้สั่งปิดตลาดไม่ให้มีการขายของ ทำให้ตนได้รับความลำบากมาก ของที่ซื้อมาเตรียมไว้ขายบางอย่างก็หยิบมากินประทังชีวิตได้ แต่บางอย่างก็เน่าเสีย ทุกวันนี้แทบจะไม่มีเงินซื้อข้าวกินด้วยซ้ำ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนได้รับความลำบาก และร้องไห้ทุกวัน เพราะไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรดี จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ถึง 2 ครั้ง คือเมื่อปลายเดือนที่แล้วและเมื่อ 4 วันก่อน โดยตนบอกกับพี่สาวว่าไปฆ่าตัวตายกัน โดยผูกคอกับต้นไม้แถวนี้ก็ได้ แต่พี่สาวปฏิเสธอยากกระโดดน้ำฆ่าตัวตายที่สะพานบางประกงมากกว่า แต่ไม่มีเงินค่ารถจึงไม่ได้ไปกัน และตนกับพี่สาวฉุกคิดได้ว่าถ้าผูกคอตายไปแม่จะอยู่อย่างไร อีกทั้งเมื่อมีคนเริ่มเข้ามาช่วยเหลือทำให้มีกำลังใจมากขึ้น
ทั้งนี้ อยากได้รับความช่วยเหลือในส่วนของที่พักอาศัย หากตนได้อยู่ในสถานที่ที่สามารถขายของบริเวณหน้าบ้านได้ คงจะมีเงินมาหาเลี้ยงครอบครัว แต่บ้านที่ตนอยู่ในขณะนี้เป็นชุมชนแออัดไม่เหมาะกับการขายของ