จากกรณี นายศรราม เครือแบน อายุ 38 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายวิชาญ อุ่นแก้ว อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เสียชีวิตคาด่านตรวจโควิด ต.อ่าวลึกเหนือ หลังไม่พอใจที่ถูกต่อว่า ว่าไม่ช่วยงานที่ด่าน เหตุเกิดเวลา 22.00 น. ของวันที่ 22 เม.ย. 63
โดยนายศรราม หลังจากก่อเหตุ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากบันดาลโทสะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีการแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่น
ล่าสุด วันที่ 23 เม.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เกิดเหตุ จุดคัดกรองโควิด-19 บ้านน้ำจาน หมู่ 3 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พบว่าเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
นายไมตรี ซ้ายเบี้ยว สารวัตรกำนันตำบลอ่าวลึกเหนือ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณเกือบ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ทุกคนกำลังปฏิบัติหน้าที่ประจำด่าน ซึ่งผู้ตายกับผู้ก่อเหตุก็นั่งคุยกันในด่านตามปกติ ก่อนเกิดปากเสียงกันขึ้น เนื่องจากผู้ใหญ่บ้านมีการตำหนิว่านายศรรามไม่ค่อยได้ช่วยงาน เพราะนายศรรามจะไปรับจ้างหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ซึ่งนายศรรามก็เถียงกลับด้วยเหตุผลและเสียงดังใส่
จากนั้น นายศรรามก็ชักปืนที่เหน็บไว้ที่เอวข้างซ้ายออกมา ตอนนั้นตนเองคิดว่านายศรรามคงชักออกมาขู่เท่านั้น แต่นายศรรามก็ยิงทันที 1 นัด กระสุนเจาะเข้ากลางหน้าอก จนผู้ตายตกจากเก้าอี้ ล้มกองลงที่พื้น ตนเองจึงวิ่งเข้าหานายศรราม พยายามแย่งปืน แต่นายศรรามก็ยิงอีกหลายนัด หลังจากนั้นตนเอง เจ้าหน้าที่ในด่านได้ช่วยกันนำตัวผู้ใหญ่บ้านใส่รถนำส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ก่อเหตุ หลังจากยิงเสร็จได้เดินมากราบเท้าตนเองและกราบเท้าเจ้าหน้าที่ในด่าน พูดว่า "ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว เดี๋ยวผมจะไปมอบตัวเอง" หลังจากนั้น ผู้ก่อเกตุได้กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.อ่าวลึก
ในฐานะที่ตนเองเป็นคนกลาง สนิทสนมกับทั้งสองฝ่าย รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาทั้งคู่สนิทสนมกันดี ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน และทั้งคู่ก็เป็นคนดี ส่วนนายศรราม ผู้ก่อเหตุ ปกติแล้วก็เป็นคนใจเย็น ดังนั้น สาเหตุทั้งหมดน่าจะมาจากเรื่องอารมณ์
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ตาย สถานที่จัดงานศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า น.ส.ณิซารีย์ อุ่นแก้ว ลูกสาวผู้ตาย กล่าวว่า พ่อเป็นคนดีมาก ไม่เคยมีศรัตรู ชาวบ้านทุกคนต่างรักใคร่ ไม่คิดว่าพ่อจะมาพบจุดจบแบบนี้ โดยทุกวันพ่อจะไปปฏิบัติการที่ด่านคัดกรองตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับบ้านมาพักผ่อนก็ประมาณเที่ยงคืน ส่วนวันเกิดเหตุ พ่อก็ออกจากบ้านไปที่ด่านตามปกติ ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ตนเองขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเยี่ยมพ่อที่ด่าน พ่อพูดว่า "กินข้าวกับพ่อไหมลูก" ตนเองก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นคำพูดสุดท้ายที่ได้ยินจากพ่อ
ส่วนนายศรราม ผู้ก่อเหตุ ตนเองก็สนิทสนมมาก นับถือเหมือนญาติผู้ใหญ่ เพราะเติบโตมาด้วยกัน และคลุกคลีกันมาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งพ่อก็รักนายศรรามเหมือนน้องชายแท้ ๆ มีอะไรก็ปรึกษาและช่วยเหลือกันมาตลอด ตนอยากให้นายศรรามรับโทษตามกฎหมาย เพื่อให้พ่อได้รับความเป็นธรรม เพราะสิ่งที่นายศรรามทำ ครอบครัวตนรับไม่ได้ อยากบอกว่า "ทำอะไรลงไปย่อมรู้อยู่แก่ใจ พ่อรักคุณเหมือนน้องชาย ฉันก็รักและนับถือคุณเหมือนน้าชาย ไม่คิดว่าคนใกล้ตัวจะทำกันขนาดนี้"