ควายตายรวด 4 ตัว วิ่งตัดหน้ารถ เจ้าของนกรู้เผ่นแน่บ ทนายชี้ผิดหลายกระทง (คลิป)

จากกรณี รถขนเครื่องดื่มน้ำอัดลม ชนควายตาย 4 ตัว บนถนนสายศีขรภูมิ-สุรินทร์ หลักกิโลเมตรที่20 สภาพรถด้านหน้าพังเสียหาย และมีเศษขี้ควายติดอยู่ด้านซ้ายของรถจอดอยู่บนถนน พบควายตัวเมีย อายุประมาณ 4 ปี และ 5 ปี จำนวน 3 ตัว ถูกรถชนเข้าไปที่ลำตัว หัว และสะโพก ส่วนควายตัวผู้อายุประมาณ 9 เดือน ถูกชนกระเด็นไปตกกลางทุ่งนา รวมตายทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งควายมีมูลค่า 30,000 บาท แต่เมื่อตาย ซากจะขายได้เพียง 6,000 บาท

วันที่ 23 เม.ย. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ไม่พบเจ้าของควาย โดยชาวบ้านในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าควายแถวนี้มักจะข้ามถนนจุดเกิดเหตุเป็นประจำ

ชาวบ้านคาดว่า เจ้าของปล่อยควายเดินข้ามถนนจึงถูกรถชน ทั้งนี้ ควาย 1 ฝูง มีประมาณ 20 ตัว ราคาอยู่ที่ประมาณ 2-3 หมื่นบาท และบริเวณจุดเกิดเหตุก็เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเช่นกัน

นายรื่น ผาศรีรัมย์ อายุ 47 ปี คนขับรถบรรทุกเครื่องดื่ม เปิดเผยว่า ในระหว่างที่เกิดเหตุ ตนเองจะขับรถนำเครื่องดื่มน้ำอัดลมจากตัวเมืองสุรินทร์ ไปส่งให้กับลูกค้าที่อำเภอสำโรงทาบ ในระหว่างที่ขับรถมาถึงบริเวณดังกล่าว มีฝูงควายจำนวนมาก วิ่งโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ ทำให้ตนเองมองไม่เห็นและตั้งตัวไม่ทัน ประกอบกับตกใจ และไม่กล้าแตะเบรก จึงชนควายทั้งหมดกระเด็นไปตกถนน

ตนเองรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ถ้าตนเบรกรถ ก็คงจะเกิดความเสียหายมากกว่านี้ เพราะมีรถที่วิ่งตามหลังมา ประกอบกับสิ่งของที่อยู่บนรถ น้ำอัดลมคงต้องเสียหายมากเช่นกัน

นอกจากนี้ ทนายความให้ข้อมูลทางกฎหมาย พบว่าเจ้าของควายอาจมีความผิด พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 มาตรา 14 ห้ามมิให้ผู้ใดปล่อยสัตว์ นำสัตว์หรือจูงสัตว์ไปตามถนน หรือเข้าไปในบริเวณที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ประกาศห้ามไว้, มาตรา 46 ห้ามมิให้ผู้ใดขี่ จูง ไล่ต้อน ปล่อยหรือเลี้ยงสัตว์บนทางจราจร ทางเท้า หรือไหล่ทาง เว้นแต่จะได้ปฏิบัติตามข้อบังคับที่ผู้อำนวยการทางหลวงกำหนด, มาตรา 111 ห้ามมิให้ผู้ใดขี่ จูง ไล่ต้อนหรือปล่อยสัตว์ไปบนทางในลักษณธที่เป็นการกีดขวางการจราจร และไม่มีผู้ควบคุม มีโทษปรับ 500 บาท และมาตรา 433 ถ้ามีความเสียหายเกิดขึ้นจากสัตว์ เจ้าของสัตว์หรือผู้รับเลี้ยงดู ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายและค่าขาดผลประโยชน์