จากกรณีเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 63 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก สมจิตร บัวดา โพสต์ข้อความเตือนภัย พระไม่จ่ายค่าแท็กซี่ โดยสามีขับรถแท็กซี่ถูกพระหลอก โดยให้ไปส่งตามวัดและสำนักสงฆ์ รวม 9 สถานที่ โดยไม่จ่ายเงิน 1,809 บาท
ล่าสุด วันที่ 24 เม.ย. 63 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัว นายดรัสวิน คำแบบ อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาหมู่ 4 ต.นาชำ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์
พร้อมด้วยของกลาง ชุดผ้าไตรจีวร 1 ชุด ย่าม 1 ใบ กระเป๋าสีดำ สีน้ำตาล อย่างละใบ หน้ากากอนามัยลายการ์ตูน และแว่นตาสีดำ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าแต่งกายเลียนแบบพระภิกษุสงฆ์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากก่อเหตุแต่งกายเลียนแบบพระ หลอกให้แท็กซี่ไปส่งที่วัดแล้วไม่จ่ายเงิน
(อ่านเพิ่มเติม : เปิดใจแท็กซี่ เข็ดรับ “พระคิ้วหนา” โดนหลอกเชิดค่ารถ ภาพวงจรปิดแฉ โผล่เรี่ยไรวัดท่าทีนอบน้อม)
(อ่านเพิ่มเติม : รวบคาผ้าเหลือง พระคิ้วหนาหลอกแท็กซี่ส่ง 9 วัด เชิดค่ารถ ที่แท้พระเก๊ คดีเก่าอื้อ)
นายเกียรติศักดิ์ สุบิน คนขับแท็กซี่ผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากที่ตนทราบข่าวก็ดีใจ ซึ่งทางผู้ต้องหาได้เข้ามาขอโทษ บอกว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะโกงแต่อย่างใด ผู้ต้องหานึกว่าตนจะจอดรถรอ เพียงแค่ไปหาครูบาอาจารย์ เพราะว่าเคยบวชมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ตนฝากถึงผู้ที่ขับขี่รถแท็กซี่ว่าต่อไปต้องสังเกตดูให้ดี ซึ่งผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาแล้วครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 และญาติของผู้ต้องหาก็ยินยอมที่จะจ่ายค่าเสียหายให้กับตนเดินทางมาจาก จ.ชลบุรี และค่าโดยสารที่ค้างจ่าย
ด้านนางศรีไพร ญาติของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวมาจากทางโซเชียล ก็แปลกใจว่าทำไมมีลักษณะคล้ายน้องชายของตัวเอง จากนั้นจึงติดต่อผู้ต้องหาทางเฟซบุ๊ก ซึ่งผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง และเล่าให้ฟังว่าได้เดินทางไป 9 วัด แต่ขณะนั้นไม่มีเงินติดตัว ไม่มีเงินที่จะกินข้าว จึงไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยตัดสินใจปลอมเป็นพระ
ส่วนสาเหตุนั้น ผู้ต้องหาบอกกับตนว่าไม่มีเงิน ไม่ได้กินข้าวมา 3 วันแล้ว ไม่มีงานทำตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนชุดพระเป็นของผู้ต้องหาเอง เพราะเคยบวชเรียนมาก่อน ซึ่งถือว่าเรียนเก่ง โดยก่อนหน้านี้ตนไม่เคยติดต่อกับผู้ต้องหาเลย เป็นระยะเวลา 3 ปี
โดยลักษณะนิสัยของผู้ต้องหา เป็นคนดี เชื่อฟังดี เป็นคนจิตใจดีมาก แต่เก็บกด มีปัญหามาตั้งแต่เด็ก ๆ เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิต แล้วคิดว่าตัวเองไม่มีครอบครัวเหมือนคนอื่น หลังจากเกิดเหตุตนก็จะพาผู้ต้องหาไปอยู่ด้วย และมีงานให้ทำ
โดยประวัติของผู้ต้องหา เคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 3 คดี คดีลักทรัพย์ พ.ศ. 2558 คดีแต่งกายเป็นพระภิกษุโดยผิดกฎหมาย พ.ศ.2558 และคดีเสพยาเสพติด พ.ศ. 2559
ทั้งนี้ นายดรัสวินเคยบวชเป็นพระ ตั้งแต่ปี 2551-2557 ที่ ต.โพนชัย อ.ด่านซ้าย จ.เลย ขณะนี้ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง มาอาศัยกับเพื่อนอยู่ที่กรุงเทพฯ