เมื่อวันที่ 24 เม.ย.63 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “NooNamwan” โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่มีชายคนหนุ่มคนหนึ่ง ตัดผมเกรียนพร้อมสะพายอาวุธปืน ยืนอยู่ข้างกระจกรถยนต์ฝั่งคนขับ และมีปากเสียงกัน โดยชายคนที่สะพายปืนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากโต้เถียงกันสักครู่หนึ่ง ผู้ชายคนที่สะพายปืนได้เดินกลับไปขึ้นรถเก๋ง ทะเบียน กห-5296 เชียงใหม่ ที่จอดอยู่ด้านหน้า แล้วขับออกไป
ตามคลิปคาดว่าเหตุการณ์น่าจะเกิดบนถนนเลียบทางรถไฟเชียงใหม่ และสาเหตุอาจจะมาจากขับรถกระทบกระทั่งกัน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ได้บรรยายว่า “คืออะไรคะ ใครรู้ช่วยตอบที ห้อยปืนลงมาขู่ แล้วบอกว่าเป็นตำรวจ ถามเราหาเรื่องเหรอ งง”
ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าว มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นและแชร์ออกไปจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตำหนิพฤติกรรมของผู้ชายที่สะพายปืน และวอนให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี และตรวจสอบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่
ล่าสุดจากการสอบถาม พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นและมีกระแสข่าวโพสต์ลงทางโซเซียลฯ รวมทั้งออกสื่อหลักแล้ว ตนก็ได้ให้ตำรวจภาค 5 ตรวจสอบทันทีว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ และให้เร่งติดตามตัวมาดำเนินการ โดยจากการตรวจสอบพบว่าเป็นตำรวจจริง สังกัดสถานีตำรวจภูธรสารภีจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้สั่งการให้ตำรวจนายดังกล่าวและผู้บังคับบัญชาของตำรวจผู้นี้ทำรายงานชี้แจง
โดยจะมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและทางกฎหมาย โดยเฉพาะเป็นตำรวจอยู่นอกเครื่องแบบและไม่ได้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ แต่กลับพกพาอาวุธปืนและมีปากเสียงกับประชาชน ส่วนสาเหตุนั้นเบื้องต้นจะรอให้มีการทำรายงานชี้แจงมา และสอบปากคำก่อน โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน
พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ชายที่ปรากฏในคลิป คือ ด.ต.ธนกฤต ชัยนารักษ์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ก่อนเกิดเหตุด.ต.ธนกฤต ได้ขับรถมาตามถนนเลียบทางรถไฟ เชียงใหม่-ลำพูน ท้องที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยอ้างว่าถูกรถสี่ล้อแดงขับเบียด จึงได้เร่งเครื่องขับแซงขึ้นมาเพื่อปาดหน้า แล้วจอดรถขวางไว้ แล้วได้ลงมาสอบถามคนขับรถสี่ล้อแดง
ในขณะที่เดินลงรถมานั้น ได้สะพายอาวุธปืนบีบีกันลงมาด้วย พร้อมด้วยอุปกรณ์แต่งคล้ายอาวุธสงคราม เนื่องจากว่าภายในรถเก๋งนั้น มีภรรยาและเด็กอยู่ด้วย จึงกลัวว่าเด็กจะมาเล่นปืนได้ ต้องสะพายลงติดตัวมาด้วย จากนั้นก็เข้าไปพูดคุยกับโชเฟอร์รถสี่ล้อแดงจนมีคนถ่ายคลิปไปแชร์ลงในสังคมออนไลน์
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ต่อจากนี้ไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้เรียกตัวคู่กรณีมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งก่อนที่จะได้ดำเนินการต่อไป ตอนนี้ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด