ฟังหมอ ! ยามหัศจรรย์ รักษามะเร็ง กินได้แต่ไม่หาย ห่วงสกัดสารผสมทำไตพัง (คลิป)

ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประชาชนที่เป็นมะเร็งทั่วประเทศไทยได้ทราบข่าวว่า มีหมอเทวดา รักษาโรคมะเร็งฟรี ที่ ต.บางเดชะ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โดยหมอรายนี้คือ นายแสงชัย แหเลิศตระกูล เจ้าของยารักษามะเร็ง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หมอแสง" ได้มีการแจกยารักษาโรคมะเร็ง ทำให้ผู้คนเดินทางจากทั่วประเทศนับหมื่นคน เพื่อมารับยาดังกล่าว จุดเริ่มต้นมาจากที่ลูกสาวของ "หมอแสง" เป็นมะเร็งก้านสมอง จึงได้พาลูกสาวไปรักษากับแพทย์เเผนปัจจุบัน แต่รักษาทุกวิถีทางกลับไมหาย ทาง "หมอแสง" จึงได้ศึกษาสืบค้นหาข้อมูลมาผลิตยารักษา และทดลองใช้กับลูกสาว  ปรากฏว่าลูกสาวหายจากโรคมะเร็งร้าย โดยตรวจสอบทางการแพทย์พบว่า ลูกสาวไม่มีเชื้อมะเร็งหลงเหลืออยู่ จึงภาวนาว่า จะผลิตยารักษามะเร็งให้กับผู้ป่วยไปรับประทานฟรี โดย "หมอแสง" แจกยารักษามะเร็งมา 9 ปี แล้ว แต่กว่าจะมาเป็นยาที่แจกจ่ายให้ชาวบ้าน "หมอแสง" ทดลองมานาน กว่า 1 ปี โดยส่วนผสมหลักของยารักษามะเร็งคือ รำข้าวนาปี  80% และนำมาหมักกับสมุนไพร อีกหลายชนิด นานกว่า 6 เดือน ถึงจะนำมาผลิตเป็นเม็ดยาได้ ต่อมาเมื่อข่าว "หมอแสง" ได้ถูกเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ เนื่องจาก ยาดังกล่าว ยังไม่มีการจดทะเบียนที่ถูกต้อง จึงสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่เป็นมะเร็ง โดย "หมอแสง" กำลังดำเนินการขออนุญาตผลิตสมุนไพร แต่ติดปัญหาระบบข้อบังคับของกฎหมาย ทำให้ยังไม่ได้รับใบอนุญาต

ทางด้าน นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ "หมอกอล์ฟ" แพทย์เวชปฏิบัติองค์รวม เปิดเผยว่า ปกติแล้วน้ำมันรำข้าว มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ป้องกันความเสื่อมของร่างกาย และป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปกติ ไม่ให้เปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็ง ซึ่งส่งผลดีต่อร่างกาย ส่วนของน้ำหมักสมุนไพร ทาง "หมอกอล์ฟ" ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนประกอบของสารใด เพราะอาจจะมีส่วนผสมของสาร สเตอรอยด์ ที่ทำให้อาการดีขึ้นในช่วงแรก หรือดีเฉพาะกับบางคน แต่อาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว เพราะจะไปทำลายระบบอวัยวะภายใน สำหรับบางคนที่อ้างว่ากินยาดังกล่าวแล้วเซลล์มะเร็งหาย อาจเป็นเพราะการตรวจเซลล์มะเร็งในปัจจุบันอาจไม่เจอในอวัยวะ จนกว่าจะเข้าสู่ การป่วยมะเร็ง ระยะที่ 3-4 จึงต้องตรวจลึกถึงพันธุกรรม ส่วนบางคนที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วมารับยา กินไปแล้วอาการดีขึ้น "หมอกอล์ฟ" มีความเห็นว่า เป็นเรื่องกำลังใจ ที่เชื่อว่าตัวเองจะหาย แต่ท้ายที่สุดเมื่อถึงเวลาที่มะเร็งลุกลาม อาการก็จะทรุดลงตามลำดับ รวมถึงยังฝากเตือนผู้กินยาแล้วอาการดีขึ้นในช่วงแรก แต่เมื่อกินอย่างต่อเนื่อง อาจมีผลต่อการทำงานของตับ และไตจึงขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งปักใจเชื่อ เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการพิสูจน์ ตัวยาดังกล่าว ซึ่งต้องใช้เวลาศึกษาวิจัย และต้องผ่านการรองรับจากองค์การอาหารและยา หรือ อย. เสียก่อน จึงจะมั่นใจได้ว่ายา "หมอแสง" ปลอดภัย