จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "แหม่มโพธิ์ดำ" แชร์ภาพแชทสนทนา ระหว่างหญิงสาวรายหนึ่ง ที่คุยกับผู้ที่อ้างตัวว่า
เป็นสูตินารีแพทย์ พร้อมข้อความระบุในทำนอง มิจฉาชีพ ปลอมเป็นหมอในกลุ่มแม่และเด็ก โดยหญิงสาวรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความสอบถามว่า หากคนในครอบครัวไม่มีแฝด ตนสามารถมีลูกแฝดได้หรือไม่ ? ซึ่งมีผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นหมอทักเข้าไปในกล่องข้อความผู้โพสต์ขอให้ถ่ายรูปปากมดลูก ส่งไปให้ดู ผู้โพสต์จึงขอดูหลักฐานการเป็นหมอ พบว่าชื่อนามสกุลไม่ตรงตามเสื้อ
ล่าสุด วันนี้(3 ต.ค.) ทีมข่าวได้วิดีโอคอล พูดคุยกับ น.ส.เตย อายุ 25 ปี ผู้โพสต์ เปิดเผยว่า ตนมีลูก 2 คน
แต่อยากมีลูกแฝด ซึ่งในครอบครัว ไม่มีใครที่เป็นคู่แฝด โดยวันนี้ เวลาประมาณ 09.00 น. จึงลองสอบถามไปยังกลุ่มเฟซบุ๊ก 2 กลุ่ม คือ คนเห่อลูก และท้องป่อง ซึ่งจะมีเหล่าคุณแม่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวจำนวนมาก จึงได้โพสต์ถามว่า "ถ้าคนในครอบครัวไม่มีแฝด มีสิทธิ์ลูกแฝดได้หรือไม่" ซึ่งมีเหล่าสมาชิกเข้ามาตอบเป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้น มีบุคคลหนึ่งใช้ภาพโปรไฟล์เป็นรูปธรรมชาติ ได้ทักมาหาตน พร้อมอ้างตัวว่า เป็นสูตินารีแพทย์ผู้หญิง ยินดีให้คำปรึกษา และได้สอบถามตนว่า มีเพศสัมพันธ์บ่อยหรือไม่ ปกติใช้ท่าไหน และสอนให้นับวันไข่ตก ตนจึงตอบไปตามปกติ
ส่วน ผู้ที่อ้างว่าเป็นหมอ ยังได้ทักมาบอกตนอีกว่า ให้สังเกตสีปากมดลูก ตนจึงถามกลับไปว่าจะดูอย่างไร หมอรายดังกล่าวจึงบอกว่า ให้ถ่ายรูปปากมดลูกให้ดู พร้อมกับให้ไปถ่ายในห้องน้ำ ตนจึงตกใจว่า จะถ่ายอย่างไร และเริ่มแปลกใจ จึงขอดูหลักฐานการเป็นหมอ อีกฝ่ายจึงส่งรูปหมอผู้หญิง พร้อมใบรับรองทางการแพทย์ส่งมา แต่ชื่อและนามสกุลไม่ตรงกับที่ปักบนหน้าอกของรูปที่ส่งมาตอนแรก
ขณะที่ หมอคนดังกล่าวได้อ้างว่า ตอนแรกอยู่ที่ จังหวัดปราจีนบุรี แต่ภายหลังกลับอ้างว่า ย้ายมาอยู่ที่โรงพยาบาลพญาไท และเมื่อตนเริ่มสอบถามรายละเอียดมากขึ้น อีกฝ่ายกลับไม่พอใจ และเริ่มโวยวาย พร้อมบอกว่า หากไม่มั่นใจจะไปตรวจให้ถึงที่ แต่ต้องจ่ายเงินค่าตรวจเป็นเงินสด
พร้อมยืนยันว่า ตนเป็นหมอเรียนจบมาสูงสามารถตรวจสอบได้ และมีการถกเถียงกัน จึงส่งเรื่องมาให้ทางเพจตรวจสอบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นหมอจริงหรือไม่ โดยจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายนี้ ได้บล็อกเฟซบุ๊กตนไปแล้ว และตนคิดว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพ เพราะตนได้เข้าไปเตือนในกลุ่มเฟซบุ๊กต้นเรื่อง ให้ระมัดระวังในการโพสต์ภาพต่างๆ เพราะบางครั้งมีการโพสต์ภาพการให้น้ำนมลูก หรือภาพล่อแหลมต่างๆ ซึ่งค่อนข้างอันตรายเพราะอาจจะมีคนโรคจิต หรือมิจฉาชีพแอบแฝงอยู่ในกลุ่ม หลังจากนี้ตนต้องระมัดระวังเรื่องการโพสต์ต่างๆมากขึ้นอีกด้วย