คดีพลิก! ศพผูกคอหน้าผา ไม่ใช่ “ลุงน้อย” เจ้าตัวโผล่ ยังไม่ตายไปเที่ยวมา ชาวบ้านผวานึกว่าผี (คลิป)

29 เม.ย. 63

จากกรณีพบศพชายผูกคอตายบนเขา วัดเทพสถาพร ต.บ้านแดน อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบปรากฏว่า มีลักษณะใกล้เคียงกับชายที่ถูกแจ้งเป็นบุคคลสูญหาย ในพื้นที่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ คือ ลุงน้อย อายุ 68 ปี พ่อค้าร้านน้ำ หน้าธนาคาร ธกส.ท่าตะโก โดยหายไปพร้อมกับนายแซมและน.ส.ส้ม คู่สามีภรรยาที่เพิ่งจะก่อเหตุหลอกเงินค่าลอตเตอรี่จากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดท่าตะโก เป็นเงินกว่า 3 แสนบาท ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

106702

โดยคู่สามีภรรยาดังกล่าว สนิทกับลุงน้อย จึงกดเงินให้ไป 30,000 บาท ทั้งนี้ในปี พ.ศ.60 สามีภรรยาคู่นี้มีคดีฉ้อโกง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และในปีพ.ศ.61 คดีฉ้อโกง สภ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี 

716690

สภาพศพสันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 25 วัน ผูกคอด้วยผ้าต่อเชือก ผิวหนังแห้งกร้าน รองเท้ายังตกอยุ่ในที่เกิดเหตุ ศีรษะซ้ายแตก แผ่นหลังมีแผลฉีกขาด และยังพบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 ห่อ นอกจากนี้จุดที่พบศพยังมีความสูงห่างจากตีนเขาประมาณ 70 เมตร ซึ่งต้องเดินขึ้นบันได 200 ขั้น และเดินลัดเลาะแนวเขาอีก 80 เมตรกว่าจะถึงจุดดังกล่าว 

225040

ล่าสุดวันที่ 29 เม.ย.63 ทีมข่าวได้เดินทางมาพบกับน.ส.นาตาลี คุ้มรักษ์ ซึ่งเป็นบุคคลที่รู้จักกับลูกสาวลุงน้อย เปิดเผยว่า ลูกสาวของลุงน้อยที่อยู่ประเทศสวีเดน ได้เห็นข่าวของลุงน้อย ซึ่งเป็นพ่อแล้ว และได้มอบอำนาจให้ตนเป็นผู้ติดตามเรื่องคดีของลุงน้อย เนื่องจากตนเป็นเพื่อนรุ่นน้องของลูกสาวลุงน้อย ลูกลุงน้อยชื่อน.ส.เพ็ญพโยม พูลเขตต์ หรือ ส้ม อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของนายสมชัย โทนสิริ หรือ ลุงน้อย

ส่วนภรรยาของลุงน้อย ชื่อนางสุกัญญา พูลเขตต์ หรือ แขก เสียชีวิตไปแล้ว โดยก่อนหน้านั้นพ่อและแม่ของน.ส.ส้ม ก็อาศัยอยู่ด้วยกันที่ จ.นครสวรรค์ ส่วนตัวน.ส.ส้ม ไปทำงานอยู่ที่ประเทศสวีเดน

573352

ทั้งนี้หลังจากน.ส.ส้ม ได้เห็นข่าวจากอมรินทร์ทีวี ที่อาจมีข้อมูลบางส่วนคาดเคลื่อน จึงเกิดความกังวลใจ เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว จึงขอให้ตนช่วยประสานกับทีมข่าวและขอชี้แจงดังนี้

254803

ข้อแรก ลุงน้อยไม่มีลูกชาย และไม่เคยรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยง ฉะนั้นมีเพียงน.ส.ส้ม เท่านั้นที่เป็นลูกสาวคนเดียว และปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ประเทศสวีเดน

ข้อสอง ลุงน้อยไม่ใช่คนไม่มีญาติ ลุงน้อยมีญาติอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเท่าที่ตนทราบจากลูกสาวลุงน้อย น่าจะเป็นน้องสาว และหลานสาวของลุงน้อย ที่ยังอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน

591591

สำหรับเรื่องรายละเอียดเท่าที่ลูกสาวลุงน้อยเล่าให้ฟัง เรื่องการฆ่าตัวตายไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากอะไร ตนทราบเพียงว่าลุงน้อย มีการดำเนินการเรื่องเงินประกันชีวิตหลังจากที่ภรรยาเสียชีวิตเท่านั้น นอกจากนี้ลูกสาวลุงน้อยยังบอกกับตนว่า หลังจากนางแขก เสียชีวิตเมื่อต้นปี ลุงน้อยก็อาศัยอยู่คนเดียว จนกระทั่งวันที่หายไปตนทราบว่ามีสามีภรรยาคู่หนึ่งมารับลุงน้อย ชื่อนายแซม และน.ส.ส้ม ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปนั้น ซึ่งตนทราบข้อมูลเพียงเท่านี้

เบื้องต้นในเรื่องของคดีความ ตนกำลังประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ โดยตอนนี้ตำรวจบอกว่าต้องรอการชันสูตรศพก่อน และรอสรุปจากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการหาข้อสรุปและรอพิสูจน์ DNA อีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ลูกสาวกลับมาจากสวีเดน ซึ่งไม่ทราบว่าจะกลับมาได้ตอนไหน เพราะติดเรื่องมาตรการเกิดเดินทางออกนอกประเทศ

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับนางนัน (นามสมมติ) ญาติลุงน้อย ผู้ที่เคยเดินทางไปงานศพของนางแขก เมื่อประมาณช่วงเดือนก.พ.63 โดยนางนัน ไม่สะดวกเจอกับทีมข่าวจึงได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์

นางนัน เปิดเผยว่า ตนได้เจอกับนายแซมและน.ส.ส้ม คู่สามีภรรยา ในวันเผาศพนางแขก ทั้งคู่มาช่วยงานลุงน้อยอย่างดี จากที่ตนสังเกตทั้งสองเป็นคนดี ดูแลลุงน้อยทุกอย่าง เรื่องงานศพก็ช่วยลุงน้อยจนแทบไม่ต้องทำอะไร ตนคิดว่าเป็นคนดีทั้งคู่ ทราบว่าเป็นเพื่อนบ้านของลุงน้อย และทราบว่าลุงน้อยก็ดูแลลูกของแซมและน.ส.ส้ม อีกด้วย ซึ่งวันเผาศพนางแขก เมื่อ 11 ก.พ.63 ที่ผ่านมา ทั้งคู่ยังให้ลูกชายมาบวชหน้าไฟให้ภรรยาลุงน้อย เพราะลุงน้อยน่าจะไว้ใจทั้งคู่มาก

1

ทั้งนี้เท่าที่ตนสังเกตคิดว่าทั้งคู่ไม่น่าจะมีการทำร้ายลุงได้ เพราะดูนิสัยดีทั้งคู่ แต่ส่วนเรื่องลอตเตอรี่หรือเรื่องไปหลอกคนอื่นนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด เพราะตนไม่ได้สนิทสนมกับทั้งคู่ เจอแค่ครั้งที่ไปงานศพของนางแขกเท่านั้น เห็นแค่ทั้งคู่ช่วยเหลือลุงดีมาก

2

นอกจากนี้หลังจากเผาศพนางแขก ผ่านมา 3 วัน ทั้งคู่โทรศัพท์มาหาตนบอกว่าลุงน้อยไม่ค่อยสบาย อยากจะคุยโทรศัพท์กับลูกสาวที่อยู่ประเทศสวีเดน ตนก็ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไป อีกทั้งในตอนนั้นที่ตนเห็นลุงน้อยที่งานศพ ลุงไม่ได้ดูมีความเครียดอะไร ทุกอย่างดูปกติ ไม่เหมือนคนที่จะมาคิดฆ่าตัวตายได้ และลุงน้อยพูดจาดี หน้าตาสดใส ตนมองว่าการฆ่าตัวตายเป็นไปไม่ได้แน่นอน

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด วินาทีที่มีรถต้องสงสัย 2 คัน สีแดง คันหนึ่งเป็นรถกระบะ และอีกคันเป็นรถเก๋ง ซึ่งทั้งสองคันเป็นรถต้องสงสัย คาดว่าจะมี 1 คันในสองคันนี้ มาส่งลุงน้อยกลับบ้าน

โดยคลิปวิดีโอที่ 1 เหตุการณ์เมื่อเวลา 16.54 น. จะเห็นภาพรถต้องสงสัยเป็นรถกระบะคันสีแดงเลือดหมูขับออกจากซอย ข้างอาคารพาณิชย์ จุดที่มีชาวบ้านพบตัวนายน้อย

482405

457553

ส่วนกล้องวงจรปิดคลิปที่สอง สามารถบันทึกเหตุการณ์เมื่อเวลา 16.54 น. สามารถบันทึกรถต้องสงสัยคันที่ 2 ซึ่งเป็นรถเก๋งสีแดง ขับเข้าไปในซอยข้างอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น โดยคันนี้จะตรงกับคำให้การของนายน้อยพูดกับชาวบ้าน ซึ่งระหว่างที่รถคันนี้ขับเข้าไปในซอยนั้น รถกระบะคันสีแดงเลือดหมู ก็ยังจอดแน่นิ่งอยู่ที่ข้างทาง

442114

ส่วนภาพวงจรปิดคลิปที่ 3 เวลา 16.55 น. จะเห็นภาพนายน้อยสวมเสื้อแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ และถือเสื้อคลุมที่มือด้านขวา ผมยาวถักเปีย เดินมากับพ่อค้าขายผัดไทย และเดินเข้าไปยังอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น จากนั้นนายน้อยก็ได้พูดคุยกับนางเย็นและนางแหวว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะโกจะนำตัวนายน้อยไปสอบสวนต่อไป

สำหรับความคืบหน้าทางคดีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ได้สอบสวนนายน้อยอย่างละเอียด และยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน เจอตัวหรือพูดคุยกับนายน้อยแต่อย่างใด

147104

ไทม์ไลน์ของลุงน้อยมีดังนี้ วันที่ 17 มี.ค.63 ลุงน้อยกดเงิน 30,000 บาท บอกเพื่อนบ้านจะไปทะเลกับนายแซม และน.ส.ส้ม ถัดมาวันที่ 20 มี.ค.63 ชาวบ้านพบลุงน้อยกดเงินที่ตู้ ATM อีกจุด จากนั้นลุงน้อยหายตัวปริศนา และในวันที่ 29 เม.ย.63 ลุงน้อยปรากฏตัว

462719

นางเย็น และนางแหวว ซึ่งเป็นผู้ที่ได้พูดคุยกับลุงน้อย ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า เวลาประมาณ 17.00 น. ตนทั้งสองคนเห็นชายคนหนึ่ง ลักษณะคล้ายลุงน้อย แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ และมือขวาถือเสื้อคลุม ผมถักเปียยาว ยืนอยู่ข้างอาคารพาณิชย์คนเดียว ทีแรกตนก็ยังนึกว่าเป็นวิญญาณของลุงน้อยหรือไม่ กระทั่งตนและพ่อค้าขายผัดไทยที่อยู่แถวนั้น ได้เจอตัวชายคนดังกล่าวใกล้ ๆ ก็พบว่าเป็นลุงน้อยจริง ๆ จึงพาลุงน้อยมานั่งพูดตุยสอบถามข้อมูลที่ใต้อาคารพาณิชย์ดังกล่าว

นางเย็น และนางแหวว เล่าต่อว่า พวกตนได้สอบถามลุงน้อยว่า “ลุงน้อย แกยังไม่ตายเหรอ ข่าวออกว่าแกตายเมื่อคืนนี้” จากนั้นลุงน้อยก็ตอบพวกตนว่า “ใครว่ะไปแจ้งว่ากูตาย ข้ายังไม่ตาย ญาติที่กรุงเทพฯ พาข้าไปเที่ยวที่เชียงใหม่ และเที่ยวฝั่งลาวมา” ซึ่งพวกตนก็ยังแซวลุงน้อยว่า ติดเคอร์ฟิว ข้ามไปลาวได้ด้วยเหรอ จากนั้นลุงน้อยก็เงียบไม่ตอบพวกตน

736414

ทั้งนี้พวกตนก็ถามว่า แล้วใครมาส่ง ลุงน้อยก็ตอบว่า หลานขับรถเก๋งสีแดงมาส่ง ในรถมีหลานสาว 1 คน และหลานชาย 1 คน มาส่งเสร็จเขาก็กลับ จากนั้นตนจึงถามลุงน้อยต่อว่า แล้วใครเป็นคนไปส่งลุงน้อยไปหาหลานที่กรุงเทพฯ ลุงน้อยก็ตอบตนว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 นายแซมกับน.ส.ส้ม ขับรถเก๋งสีดำ มารับที่บ้าน แล้วนายแซมก็ไปส่งที่ท่ารถตู้ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์

โดยตนทั้งสองคิดว่า คนที่มาส่งลุงน้อยกลับบ้าน น่าจะเห็นข่าวของลุงน้อย เขาถึงมาส่งลุงน้อยกลับบ้าน โดยตนได้สอบถามเรื่องเงินและบัตรเอทีเอ็มของลุงน้อย ลุงน้อยก็ตอบพวกคนว่าไม่ได้เอาบัตรเอทีเอ็มไป แต่เก็บไว้บ้าน และในกระเป๋ากางเกงลุงน้อยก็มีเงินติดตัวอยู่ 2,000 บาท ซึ่งตนพูดคุยกับนายน้อยประมาณ 10 นาที ตำรวจ สภ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ก็ได้นำตัวนายน้อยไปสอบปากคำที่โรงพัก 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะโก ยังคงสอบปากคำนายน้อยอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เผยกับทีมข่าวว่า ต้องสอบปากคำนายน้อยอย่างละเอียด ทั้งปมการหายตัวปริศนา 1 เดือน ปมเรื่องทรัพย์สินของนายน้อยว่ามีการหายไปจริงหรือไม่ และจากการพูดคุยกับนายน้อยเบื้องต้น นายน้อยยังให้การวกไปวนมา ส่วนข้อมูลรถต้องสงสัย ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นรถคันไหน ซึ่งต้องรอตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม