แม่ค้าห้าว รับฟันเทศกิจแขนเหวอะอ้างแค้นโดนไถ ภาพชัดผิดเต็มๆ ขายอยู่เจ้าเดียว (คลิป)

จากกรณีแม่ค้าขายผลไม้ มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่เทศกิจ เทศบาลนครนนทบุรี โดยแม่ค้าได้ใช้อาวุธมีด ฟันเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้รับบาดเจ็บที่แขน เย็บ 7 เข็ม และโทรศัพท์ได้รับความเสียหาย ภายหลังเกิดเหตุ มีการนำคลิปวิดีโอเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊กมีผู้เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ล่าสุด วันนี้(6 ต.ค.) ทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.ทองคำ โยนะพันธ์ อายุ 37 ปี แม่ค้าขายผลไม้ ที่ปรากฏในคลิปเปิดเผยว่า ครั้งแรกที่มาขายผลไม้ บริเวณหน้าศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่บอกว่า จะเก็บเงินค่าที่ 500 บาท ตนจึงต่อรองว่า รถขายผลไม้คันเล็ก ขอลดราคาเหลือแค่ 300 บาท ทางเทศกิจยินยอม และเก็บเงินใน ราคานี้มาเป็นระยะเวลา 5-6 ปี แต่หลังจากเปลี่ยนเจ้าหน้าที่เทศกิจรายใหม่ ตนเองถูกเงินเพิ่ม และบอกให้จ่ายเงินเท่ากับผู้ค้ารายอื่น ในราคา 1,300 บาท ซึ่งตนเองยอมจ่ายไป แต่ทางเทศกิจ เขียนบิลให้แค่ 300 บาท โดยตนยอมจ่ายราคานี้ เพียงเดือนเดียว หลังจากนั้นได้จ่ายค่าราคาเดิม คือ 300 บาท

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ แม่ค้าผลไม้เปิดเผยว่า เป็นเพราะเทศกิจไม่ให้ขายผลไม้ ตนจึงบอกว่า เพิ่งขายได้เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น จะไล่อีกแล้วหรือ วินาทีนั้นยอมรับว่าโมโห จึงทุบตู้กระจกรถเข็นผลไม้ และโยนใส่ทางเจ้าหน้าที่เนื่องจากไม่ใช่ครั้งแรก ที่เทศกิจรายนี้ทำตนมาก่อน หากเป็นเทศกิจคนเก่า ยังผ่อนผันกันได้ น.ส.ทองคำ ยังเปิดเผยอีกว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (5 ต.ค.) สามีโดนเจ้าหน้าที่เทศกิจ ไม่ให้ขายของ พร้อมยึดทั้งมีด และร่ม จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าขอโทษ เพราะตนถูกกระทำเพียงรายเดียว แตกต่างจากแม่ค้ารายอื่น แม้ตนจะจ่ายเงินก็ยังมาไล่

ทางด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า นายสุรสิงห์ นรดี อายุ 31 ปี ถูกฟันที่แขนบาดเจ็บเย็บ 7 เข็ม และนายสำเนียง เนาวรัตน์ อายุ 58 ปี โทรศัพท์มือถือ ถูกฟันเสียหายเล็กน้อย โดยทั้ง 2 คน มาแจ้งความไว้แล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนสามีของแม่ค้า ได้มาแจ้งความไว้แล้วเช่นกัน เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า แม่ค้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บ หลังจากนี้จะเรียกเทศกิจสอบปากคำว่า การไปปฏิบัติหน้าที่ เป็นไปตามคำสั่งของผู้ใด ส่วนแม่ค้า จะเชิญตัวมาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหา โดยในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวทั้ง 2 ฝ่าย มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป