จากกรณีนักโทษชาย 5 คน แหกคุกหลบหนีจากเรือนจำสว่างแดนดิน จ.สกลนคร พฤติการณ์ในการหลบหนีอาศัยช่วงกลางดึก ใช้โต๊ะวางซ้อนกันหลายชั้น เพื่อปีนฝ้าแล้วข้ามกำแพง จากนั้นใช้ป้ายไวนิลปิดลวดหนามเพื่อป้องกันกระแสไฟแรงสูงทำงาน โดยในขณะนี้ทางเรือนจำและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สว่างแดนดินกำลังติดตามตัว พบว่าภูมิลำเนาของนักโทษเป็นคนในพื้นที่ อ.คำตากล้า 2 คน อ.บ้านม่วง 2 คน และอ.สีชม จ.ขอนแก่น 1 คน โดยเจ้าหน้าที่ 200 คนเร่งปูพรมค้นหาตัว
โดยนักโทษที่หลบหนี ได้แก่ นายสุริยันต์ สุพรรณ์ประเสริฐ อายุ 33 ปี, นายวัฒนชัย พันภักดี อายุ 40 ปี, นายภานุพงษ์ โคตรชมภู อายุ 23 ปี, นายพัฒพงษ์ เกษ์คำใส อายุ 32 ปี, นายอนนท์ หลักคำ อายุ 42 ปี
(อ่านเพิ่มเติม : ล่า 5 นักโทษแหกคุก แสบปีนฝ้าฝ่ากำแพงไฟฟ้า เผยหนึ่งในนั้นส่งจดหมายรักนัดเมียหนีไปลาว)
วันที่ 2 พ.ค. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านคำบอน ต.บ้านใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร บ้านของ น.ส.ลำพูล เที่ยงอ่อน หรือ อุ้ม แฟนสาวของ นช.สุริยันต์ สุพรรณประเสริฐ นักโทษแหกเรือนจำ
น.ส.แอน (นามสมมติ) อายุ 20 ปี น้องสาวของแฟนนักโทษชายสุริยันต์ เปิดเผยว่า พี่สาวรู้จักกันนายสุริยันต์ เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งรู้จักได้ไม่ถึงสัปดาห์ พี่สาวได้ไปเจอไปเที่ยวกับนายสุริยันต์ 2 ครั้ง ตนก็ทราบว่าเขาน่าจะคบหากันกัน แต่ตนไม่เคยเห็นหน้าของนายสุริยันต์มาก่อน กระทั่งเมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา นายสุริยันต์ถูกจับคดียาบ้าและติดคุก
คืนเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเช้ามืด เวลาเกือบตี 5 ขณะที่ตนกำลังนอนหลับกับพี่สาวและหลาน ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้ชายมายืนเรียกชื่อ "อุ้ม ๆ" อยู่ที่หน้ากระท่อม เรียกอยู่ประมาณ 3-5 นาที หลังจากนั้นพี่สาวก็เดินขึ้นรถกระบะไป โดยที่ตนไม่ทันได้ห้ามปราม เพราะตนกำลังนอนอยู่ ตนก็ไม่รู้ว่าพี่สาวคิดอะไรถึงยอมขึ้นรถไปกับเขา และพี่สาวไปตัวเปล่า ไม่ได้พกเงินหรือโทรศัพท์ไปด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ นายสุริยันต์บอกกับป้าแย้มไว้ว่าจะหนีไปที่ประเทศลาว
ซึ่งก่อนหน้านี้นายสุริยันต์เคยส่งจดหมายมาหาพี่สาวตนบอกว่าคิดถึง กระทั่งช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ ขณะที่ตนอยู่กับตำรวจ พี่สาวได้ใช้เบอร์แปลกโทรกลับมา และบอกกับตนว่าไม่ต้องเป็นห่วง สบายดี และได้ยินเสียงนายสุริยันต์ พูดผ่านโทรศัพท์ว่า "ไม่ต้องเป็นห่วง จะดูแลอุ้มให้ดี" ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าพี่สาวและนายสุริยันต์รักกันแบบไหน ทั้งที่คบกันไม่นาน ที่ผ่านมาพี่สาวก็ไม่เคยพูดหรือบอกอะไรให้ฟัง ซึ่งถ้าพี่สาวฟังอยู่ ตนก็อยากให้เขากลับมาอยู่กับครอบครัว เพราะตนก็กลัวว่าเขาจะได้รับอันตราย
อย่างไรก็ตาม สำหรับกระแสข่าวที่บอกว่าครอบครัวตนช่วยนักโทษหลบหนีนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะบ้านของตนไม่มีรถกระบะจะใช้ ทุกวันนี้ยังต้องเดิน
ด.ญ.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกสาวของแฟนนักโทษชายสุริยันต์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยได้ยินแม่บ่นว่าคิดถึงแฟน ซึ่งตนก็ยังรู้สึกสงสัยว่าผู้ชายที่แม่พูดถึงเป็นใคร เพราะเมื่อถามถึงแม่ก็ไม่เคยบอก อ้างว่าไม่ใช่เรื่องของเด็ก และชอบแอบเดินไปคุยโทรศัพท์คนเดียว ตนเคยเห็นแม่หายไปจากบ้าน 2 วัน คาดว่าคงไปเที่ยวกับนายสุริยันต์ กระทั่งตนไปเห็นรูปของนายสุริยันต์ในเฟซบุ๊กแม่ ก็ยังนึกสงสัย แต่ก็ไม่คิดอะไร ซึ่งแม่คบกับเขายังไม่ถึงเดือนเขาก็ถูกจับติดคุก และตนก็เห็นแม่เขียนจดหมายรักส่งไปให้นายสุริยันต์ในเรือนจำ แต่ตนก็ไม่ได้เปิดอ่าน จึงไม่รู้เนื้อความข้างใน กระทั่งล่าสุดที่นายสุริยันต์แหกคุกแล้วมารับแม่ไป ตนก็เพิ่งรู้ว่าเป็นคน ๆ เดียวกันกับที่แม่เคยติดต่อด้วย คืนเกิดเหตุ ตนก็เห็นแม่เดินออกจากกระท่อมไป แต่ก็คิดว่าแม่แค่จะออกไปทำกับข้าว ไม่เคยคิดมาก่อนว่าแม่จะทอดทิ้งตนไป
ด.ญ.ก้อย พูดทั้งร้องไห้ว่า "ตนรู้สึกใจหายและกลัวนายสุริยันต์จะทำร้ายแม่ ถ้าแม่ดูข่าวอยู่ อยากบอกให้แม่กลับมาหาตนไว ๆ"
ซึ่งพฤติการณ์ในการหลบหนีของกลุ่มนักโทษ อาศัยช่วงกลางดึกเวลาเคอร์ฟิว ใช้โต๊ะวางซ้อนกันหลายชั้นเพื่อปีนขึ้นไปเปิดฝ้าเพดาน ก่อนจะปีนออกไป แล้วใช้ป้ายไวนิลวางทับลวดหนามของรั่ว เพื่อป้องกันกระแสไฟแรงสูงช็อต แล้วกระโดดลงข้ามกำแพงมาได้ จกานั้นมีคนขับรถมารับเพื่อหลบหนีไป
พ.ต.อ.พยุงศักดิ์ นามวรรณ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พร้อมเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ตำรวจตระเวณชายแดน 23 ชุดสืบสวนจังหวัดสกลนคร รวมกว่า 30 นาย พร้อมสุนัขตำรวจ 1 ตัว เดินปูพรมป่ารกร้างบ้านดงป่าแดง อ.คำตากล้า จ.สกลนคร ซึ่งอยู่ห่างจากเรือนจำสว่างแดนดินประมาณ 66 กิโลเมตร
จุดแรกภายในป่ารกร้าง พบขวดน้ำอัดลมขวดใหญ่ ขวดเปล่า 3-4 ขวด และฐานตั้งยากันยุง เศษผ้าพันแผล 1-2 ชิ้น ห่างออกมาประมาณ 50 เมตร เจอถ้วยบะหมี่สำเร็จรูป ที่ยังกินไม่หมดตกอยู่ ถัดมาประมาณ 3 เมตร เจอขนม 2 ชิ้น ตั้งกับน้ำดื่มคล้ายเป็นการไหว้เจ้าที่เพื่อขอนอน และห่างออกมาอีกประมาณ 30 เมตร พบถ้วยบะหมี่สำเร็จรูป และหลอดยาสีฟันหลอดใหญ่
ซึ่งตำรวจคาดว่าจุดดังกล่าวเป็นจุดที่คนร้ายจำนวน 3 คน ใช้นอนพักผ่อนเมื่อคืนที่ผ่านมา คาดว่าหนึ่งในนั้นมีคนบาดเจ็บ เนื่องจากพบผ้าพันแผล และยาสีฟันที่ใช้ทาลดอาการบาดเจ็บ แผลพุพอง จากการสอบสวนพบว่านักโทษที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟช็อตคือ นช.สุริยันต์ สุพรรณ์ประเสริฐ หรือ ต้น จากข้อมูลพบว่าถูกสายไฟช็อตเลือดเต็มอก และแขนขวาหักจากการตกจากกำแพง
ล่าสุด เวลา 17.00 น. ตำรวจสามารถจับกุม นช.ภานุพงศ์ โคตรชมภู หรือ ทัศ ได้ในพื้นที่ อ.คำตากล้า ขณะที่ไปร่ำลาแฟนสาว
พ.ต.อ.พยุงศักดิ์ นามวรรณ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ให้ข้อมูลว่า นช.อนนท์ หลักคำ หรือ นน เป็นคนต้นคิดเรื่องทั้งหมด โดยคนร้าย 5 คนใช้เวลาวางแผน 3 วัน วางแผนด้วยการเขียนใส่กระดาษเพื่อสื่อสาร หลังอ่านเสร็จจะฉีกกระดาษแล้วกลืนทันที
นางพยอม (นามสมมติ) อายุ 43 ปี แม่ของ นช.ภานุพงศ์ เปิดเผยว่า หลังจากลูกชายถูกจับ ตนก็ยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับลูก แต่ตนคาดว่าสิ่งที่ทำให้ลูกชายร่วมกันแหกคุกในครั้งนี้ คงเกิดจากความเครียด และกดดัน เพราะตอนที่เขาถูกจับ ได้อ้างกับญาติว่าเขาครอบครองยาบ้าแค่ 80 เม็ด แต่ตนไม่รู้ว่าทำไม่ถึงโดนคดียา 1,593 เม็ด ซึ่งเป็นโทษที่หนักมาก ครอบครัวตนเป็นแค่ชาวบ้านตัวเล็ก ๆ จึงไม่มีแรงพอที่จะไปสู้คดี
ทั้งนี้ ตนและครอบครัวรู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมลูกชายได้โดยที่ไม่มีการวิสามัญ จับเป็นดีกว่าจับตาย เพราะถ้าเขาติดคุก ตนยังมีโอกาสที่จะได้พูดคุย ไม่ว่าลูกจะถูกเคลื่อนย้ายไปเรือนจำไหน ตนก็จะตามไปเยี่ยม แต่ก็ยอมรับว่าการกระทำของลูก ทำให้หัวใจตนสลาย ซึ่งถ้าตนมีโอกาสได้พูดคุยก็อยากจะบอกว่า ตนรักลูกมาก ๆ ที่ผ่านมาตนได้แต่ภาวนาให้เขาถูกจับและรอดชีวิต แม้ว่าตัวเขาจะต้องการหนีก็ตาม เพราะตนก็ไม่เห็นด้วยที่ลูกชายหนี แล้วต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เป็น 10-20 ปี
หากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เรือนจำอำเภอสว่างแดนดิน หมายเลขโทรศัพท์ 095-223-9535 ได้ตลอด 24 ชม.