จากกรณีต้นไม้ล้มทับคนเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 1 ราย ที่บ้านใหม่เขาน้อย หมู่ 13 ต.แก่งโสภา จ.พิษรุโลก ตำรวจไปตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บคือนายเพลิน จันทะคีลี อายุ 73 ปี ผู้เป็นพ่อ จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน นำส่งให้แพทย์รักษาที่ รพ.วังทอง และในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายสมคิด จันทะคีลี อายุ 53 ปี ลูกชายของนายเพลิน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสมคิด ตัดโค่นต้นตะกูจนเอนล้มไปทางนายเพลิน ทำให้นายสมคิด กระโดดเข้าไปเพื่อผลักพ่อให้พ้นต้นไม้ แต่ตนเองกลับต้องถูกทับจนเสียชีวิต ส่วนผู้เป็นพ่อได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุดวันที่ 3 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายเพลิน ผู้บาดเจ็บ พบว่าขาข้างขวายังบวมช่วงบริเวณหัวเข่าและหน้าแข้ง โดยนายเพลิน กล่าวว่า นายสมคิด ไปตัดต้นตะกูในที่ดินของตนเองพอต้นตะกูที่ลูกชายตัดเอนลง ปรากฏว่ามีกิ่งขนาดใหญ่ค้ำอยู่ ทำให้โคนต้นดีดมาทางด้านที่นายสมคิดกับตนยืนอยู่ ซึ่งตนพยายามวิ่งหนี แต่ปรากฏว่าขาข้างซ้ายยกไม่ขึ้นเหมือนมีคนเป็นร้อยคนดึงไว้ ลูกชายจึงกระโจนเข้ามาเพื่อผลักตนให้พ้นต้นไม้ แต่ต้นไม้ได้ฟาดและทับร่างของลูกชายล้มลงจนศีรษะของลูกชายทับอยู่ที่ขาข้างขวาของตน ทำให้ตนลุกขึ้นยืนไม่ได้
เมื่อเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยเหลือ ก็ทำอะไรไม่ได้ ก่อนจะไปเรียกชาวบ้านในหมู่บ้าน นำแม่แรงจระเข้มายกและใช้ไม้งัดต้นไม้ออกก่อน จึงได้ทราบว่าลูกชายเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งนี้ตนคิดว่าหากลูกชายไม่กระโดดพุ่งเข้ามาผลักตนออกไป ตนก็คงถูกต้นไม้ทับเสียชีวิตแทนลูกชายไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 4 ต.แก่งโสภา ซึ่งเป็นบ้านของนายสมคิด ที่ภรรยาและญาตินำศพนายสมคิด มาตั้งบำเพ็ญกุศล ได้พบนายแหลม ขันตรมิตร อายุ 55 ปี ส.อบต.แก่งโสภา พี่ชายของนายสมคิด ได้เล่าให้ฟังว่า ต้นตะกูที่นายสมคิดไปตัดนั้น จะนำมาแปรรูปสำหรับต่อเติมห้องครัวที่บ้านพัก ส่วนกำหนดการฌาปนกิจศพของนายสมคิด ได้ฤกษ์วันที่ 5 พ.ค.63 ที่วัดเขาน้อยศรีรัตนาราม ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้าน
ด้านนางบัวเรียน บัวสี อายุ 55 ปี ส.อบต.แก่งโสภา เปิดเผยว่า นายสมคิดเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เป็นคนขยัน นิสัยร่าเริง มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำนาและทำไร่ข้าวโพด ส่งเสียลูกสาวจนเรียนจบปริญญาตรี โดยล่าสุดขณะกำลังตั้งด่านตรวจในหมู่บ้านด้วยกัน นายมคิด ยังพูดทีเล่นทีจริงเรื่องตายในวันที่ 30 เม.ย.63 ว่า ถ้าตายก็ตายในหน้าที่