“เวฟ สาริน” ควงภรรยาแจ้งความ หลังโดนโกงหน้ากากอนามัย

ถึงแม้ข่าวคราวเรื่องการโกงหน้ากากอนามัยจะเริ่มซาๆลงไปบ้างแล้ว จากช่วงแรกๆที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 แล้วทำให้หน้ากากขาดแคลน แต่จริงๆแล้วก็ยังคงมีคนโดนโกงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคนบันเทิงแท้ๆ อย่างนักแสดงหนุ่มเวฟ สาริน หรือชื่อใหม่ เวฟ วิภพ ก็ยังเจอกับตัวเองโดยคุณเวฟ และภรรยาสาวบุ้ง ใบหยก ได้โพสต์ประกาศตามหาบุคคลหนึ่ง ในอินสตาแกรมส่วนตัวของทั้งคู่ เนื่องจากมีการโอนเงินไปจำนวน 3,500 บาท เพื่อที่จะซื้อหน้ากากอนามัย นำไปบริจาค แต่คู่กรณีกลับบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมส่งของมาให้ จึงให้เวลาเพื่อติดต่อกลับมา ไม่งั้นก็จะเอาเรื่อง แต่สุดท้ายให้เวลาไปกว่า 2 วันก็ยังเงียบหาย ทั้งคู่จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

เมื่อเวลา 14.00 น. (4 พฤษภาคม 2563) คุณเวฟ และคุณบุ้ง ก็ได้เดินทางมาที่ สน.พญาไท เพื่อเข้าแจ้งความเอาผิดกับคู่กรณี ในข้อหาฉ้อโกง หลังจากที่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ร่วม 30 นาที ก็ได้ออกมาเปิดใจเลยว่า เป็นครั้งแรกในชีวิตของทั้งคู่ที่ถูกโกง

ทั้งสองคนเล่าว่า คุณพ่อของคุณบุ้ง ได้ให้หาแมสมาบริจาคประมาณ 1 พันชิ้น จึงได้ให้ลูกน้องไปหาในกลุ่มไลน์ แล้วก็ไปเจอบุคคลนี้ ซึ่งก็เหมือนคนขายทั่วไป ส่งเครดิตมาให้ดู ก็มีความน่าเชื่อถือมาก ตอนแรกตั้งใจจะโอนเต็มจำนวนคือ 7,000 บาท แต่ลูกน้องก็ห้ามไว้ บอกว่าให้โอนครึ่งเดียวไปก่อน คือ 3,500 บาท เนื่องจากสมัยนี้มิจฉาชีพเยอะ ซึ่งสุดท้ายก็โดนโกงจริงๆ

ถามว่ารู้ได้ยังไงว่าไม่ได้ของแล้วแน่ๆ ทั้งคู่ บอกว่า สั่งของไปตอน 4 โมงเย็น คู่กรณีบอกว่าอีกไม่เกิน 5 นาทีถึง แต่ผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่ถึง ก็เลยโทรตามด้วยตัวเอง เขาก็อ้างต่างๆนานา ตอนนั้นก็ยังคิดในแง่ดี คิดว่าคงติดปัญหา เลยให้เวลาเขา แต่สักพักคนร้ายก็บล็อคทุกช่องทาง รุ่งเช้าอีกวัน คู่กรณีติดต่อกลับมาที่ไลน์ของคุณบุ้ง แล้วถามว่าจะเอาแมสหรือเอาเงิน ก็เลยตอบกลับไปว่า เอาเงินดีกว่า ตนก็ยังให้โอกาส จะได้จบเรื่อง แต่สุดท้ายก็บล็อคไลน์ตน จึงรู้เลยว่าโดนโกงแล้ว

จากนั้นพวกตนก็ได้โพสต์เรื่องราวลงในโซเชี่ยล ก็มีคนหลังไมค์มาหาเยอะมาก ว่าบุคคลคนนนี้ทำมาหลายรอบแล้ว รวมถึงให้เบาะแสมาเป็นจำนวนมาก เลยตัดสินใจมาแจ้งความดีกว่า เพื่อที่จะตามจับคนนี้ให้กับคนอื่นด้วย เพราะที่พวกตนโดนยังแค่ไม่เท่าไหร่ แต่คนอื่นโดนเยอะ แล้วยังมีพวกคนที่โดนน้อยๆ คนละ 500 บาท แต่ถ้าโดนหลายคน รวมแล้วก็มูลค่าหลายบาท ซึ่งคนอื่นอาจจะคิดว่าเสียเวลา ไม่ได้มาแจ้งความ หรือแจ้งแล้วแต่เรื่องไม่คืบ พวกตนในฐานะที่เป็นบุคคลสาธารณะก็เลยคิดว่าหากมาแจ้งความคงช่วยอะไรได้บ้าง โดยก่อนมาก็ได้ให้เวลาเขาถึง 3 วัน แถมไม่ได้ติดต่อกลับมาหลังจากลงโซเชี่ยล

อย่างไรก็ตาม พวกตนอยากจะขอเตือนคนที่จะสั่งของออนไลน์ด้วยว่า อย่าได้โอนเงินให้กับคนที่ชื่อ เฉลิมพล และเฉลิมพร บุตรทา พวกเขาใช้เบอร์โทรศัพท์ 096 172 7349 ซึ่งทั้งคู่มีชื่ออยู่ในลิสต์ที่มีประวัติการฉ้อโกงในเว็บไซต์ blacklistseller อีกด้วย

โดยหลังจากที่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เขาก็บอกว่าคงตามตัวได้ไม่ยาก เพราะพวกตนมีข้อมูลให้ไปค่อนข้างเยอะ ซึ่งพวกตนก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หากตนโดนแค่รายเดียว ก็คงจะยอมความ แล้วก็ตักเตือนว่าอย่าทำอีก แต่นี่มีคนโดนเยอะมาก แล้วตนก็อยากจะเตือนว่า ใครที่มีส่วนกับบุคคล 2 คนนี้ ระวังจะโดนสมรู้ร่วมคิดด้วย

สุดท้าย ทั้งสองคนได้ฝากบอกไปยังคู่กรณีด้วยว่า หากไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกง ก็โอนเงินคืนทุกคนซะ เรื่องจะได้จบ หรือจะติดต่อกลับมาหา ยังไงก็คุยกันได้ พวกตนไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น ที่จะเอาเข้าคุกสถานเดียว พวกตนขอดูเจตนาที่แท้จริง