'แบม จณิสตา' เผยความเสียหายจากน้ำท่วมหลายแสนบาท สุดงงอยู่มา 40 ปี ไม่เคยท่วม!

ต้องบอกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนให้กับหลายพื้นที่หลายครอบครัวเลยทีเดียว ซึ่งคนในวงการบันเทิงเองก็เจอกับผลกระทบนี้ด้วยเช่นกัน นั่นก็คืออดีตพิธีกร "แบม จณิสตา" เธอได้โพสต์ภาพความเสียหายจากน้ำท่วมพร้อมแคปชั่นว่า "น้ำท่วมออฟฟิศ HQ Audrey Group Inc. เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีตั้งแต่ที่เปิดทำการมา" ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงได้เดินทางไปสอบถามความคืบหน้า โดยเธอเผยว่าความเสียหายน่าจะมูลค่าหลายแสนบาท เพราะเธอไม่ได้ป้องกันอะไรไว้เลย เนื่องจากบ้านพ่อและแม่สามีอยู่แถวนี้มานานกว่า 40 ปี ก็ไม่เคยเจอน้ำท่วมเลย "ตัวพี่ไม่รู้เรื่องเลย เพราะว่ามันเกิดขึ้นเข้าใจว่าตอนเช้ามืด แล้วบังเอิญวันเสาร์ เราก็จะนอนตื่นสาย แล้วก็ปิดเสียงสั่นตอนกลางคืน แต่ก็ตื่นมาสักประมาณ 7 โมงครึ่ง เราเห็นว่าโทรศัพท์มีสายที่ไม่ได้รับเต็มเลย ก็เอ๊ะ ทำไมมีคนโทรมาเต็มไปหมด ก็เลยเปิดไลน์ดู ก็ถึงเห็นภาพน้ำท่วม สำหรับออฟฟิศ ปกติจะมีพนักงานขนส่ง จะเข้ามาตอน 6 โมงเช้า เพื่อที่จะเอารถไปส่งของตามร้าน Audrey ในสาขาต่างๆ ทั้ง 8 สาขา แต่วันนั้นไม่สามารถเข้าได้ คือออฟฟิศของพี่เป็นบ้าน ไปเช่าบ้านมาปรับปรุงเป็นออฟฟิศอยู่มา 5 ปีแล้ว วันนั้นน้ำก็ดันประตูบ้านจนพนักงานไม่สามารถเปิดเข้าไปได้ เลยต้องเรียกทีมช่างมา แล้วก็ต้องรอจนน้ำที่ถนนทองหล่อซอย 4 ลดลงก่อน พอลดก็เปิดเข้าไป ในส่วนของสำนักงานด้านล่างก็จะเป็นฝ่ายบุคคล,บัญชี,การเงิน,สโตร์ ก็มีน้ำขังเยอะมาก ช่างเลยจำเป็นต้องตัดไฟก่อน ไม่งั้นจะอันตรายมาก แถมจุดตัดไฟก็ยังมีความเสี่ยงมากเพราะใกล้กับบริเวณที่น้ำท่วม หลังจากตัดไฟได้ก็นำเครื่องมาสูบน้ำออก ต้องบอกก่อนว่าพื้นที่ทำงานตรงนี้มันอยู่ต่ำกว่าปกติ เราก็เป็นแผนกที่มีเอกสารเยอะ เราก็ไม่มีที่จัดเก็บ เอกสารก็จะวางเป็นลังๆ ตามพื้น มีเครื่องถ่ายเอกสาร ที่สำคัญโต๊ะทำงานก็จะมีคอมพิวเตอร์ซึ่งมีซีพียูวางอยู่ในระดับพื้น แล้วก็มีเครื่องถ่ายเอกสาร ก็ไปกับน้ำหมดเลย 10 กว่าเครื่อง ก็แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือเรื่องของเอกสารก็ต้องทยอยเอาออกมากองที่พื้นเพื่อตากก่อน ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ต้องนำไปให้ทางไอทีดูว่าจะใช้การได้มากหรือน้อยแค่ไหน ระดับน้ำก็ค่อนข้างสูงประมาณครึ่งล้อรถ 30-40 เซนติเมตร" ตกใจไหมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น? "ตกใจ อันนี้พูดตามตรงว่าไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะว่าเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ พื้นที่ตรงนี้ไม่ท่วม แล้วก็ในซอยเดียวกันมีคุณพ่อคุณแม่สามีอยู่ซึ่งท่านอยู่มา 30-40 ปี ก็ไม่เคยท่วม เราก็เลยไม่ได้คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ได้ เพราะเมื่อตอนที่ท่วมหนักๆ เราเตรียมการกว่านี้มาก เราเตรียมกระสอบทรายมากั้นทุกอย่าง แต่ว่าไม่ท่วม ซึ่งครั้งนี้ก็ตกแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ก็ไม่คิดว่าจะเกิดแบบนี้ได้ ครั้งนี้ก็เลยค่อนข้างประมาท บอกตามตรงเลย เพราะไม่คิดว่าจะท่วม " ในส่วนของความเสียหายแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า ตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าจะใช้ได้หรือไม่ได้ ซึ่งคอมพิวเตอร์ 10 กว่าเครื่อง บวกกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ก็น่าจะหลักแสนเหมือนกัน ตัวของพื้นที่เราปูเป็นลามิเนตมันก็พองบวม ก็คงต้องทำใหม่ แต่ความเสียหายที่ค่อนข้างจะหนักใจกว่านั้นก็คือ เอกสารสำคัญต่างๆ ของบริษัท มันก็โดนน้ำท่วมไป รวมถึงในฮาร์ดดิสคอมพิวเตอร์ด้วย โอกาสที่ได้รับผลกระทบมันมีสูงมาก ตรงนี้แหละที่เราหนักใจ ส่วนในวันจันทร์นี้ก็ต้องกลับมาทำงานตามปกติ เพราะฉะนั้นเมื่อวันเสาร์ช่วงบ่ายจนถึงค่ำก็ช่วยกันทำความสะอาด ซึ่งก็ยังคงมีกลิ่นที่มันรุนแรงเพราะน้ำส่วนหนึ่งถูกดันมาจากห้องน้ำด้วย ก็เรียกว่าหนักกว่าที่เราคิดเหมือนกัน ตอนนี้ความสะอาดก็โอเคแล้ว แต่ในเรื่องความอับความชื้นจากน้ำ ไม่รู้ว่าจะเป็นราตรงไหนหรือเปล่า เราเข้าใจความรู้สึกเลยอ่ะ เพราะไม่เคยเจอน้ำท่วมหนักขนาดนี้" มีผลกระทบอะไรตามอีกไหมจากน้ำท่วมครั้งนี้? "ก็คงจะเป็นความขลุกขลักในการให้บริการในแต่ละสาขาเมื่อวันเสาร์ ของหลายๆ อย่างที่เรากองไว้เพื่อจะส่งสาขาก็โดนน้ำไปด้วย แต่ทั้ง 8 สาขาก็ต้องเปิดให้บริการตามปกติ เบื้องหลังเราจึงลำบากเหมือนกัน บางอย่างที่มันหมดไปแล้วก็จะไม่มีของขาย ก็มีการแก้ปัญหาโดยการหยิบยืมกันบ้างแต่ละสาขา" จากนี้จะมีการป้องกันยังไงบ้าง? "เรามีการคุยกันเลยว่าจะเน้นความปลอดภัยในสำนักงานก่อน เพราะปกติปลั๊กจะอยู่สูงจากพื้นแค่ 10-15 เซนติเมตร อันนี้ก็สั่งแล้วว่าจะให้เดินสายใหม่อย่างน้อยที่สุดก็ระดับโต๊ะเลย พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ก็คงต้องตั้งให้ลอยขึ้น แล้วก็การจัดเก็บพวกเอกสารสำคัญ ก็คงจะมีหลายๆ ส่วนเหมือนกัน " สุดท้ายทีมข่าวถามว่าต้องการรับการเยียวยาจากภาครัฐไหม? "ไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะคิดว่าคนที่เดือดร้อนกว่าเราต้องมีกว่าเยอะมากๆ เราก็ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้ แล้วก็เรามีข้อดีอย่างหนึ่งคือทำประกันภัยไว้ซึ่งครอบคลุมน้ำท่วม แต่ก็ยังต้องดูรายละเอียดว่าสามารถช่วยอะไรได้บ้าง แต่พวกข้อมูลเอกสารก็คงไม่มีใครช่วยเราได้" ภาพ : IG Janista Charoonsmith