วันที่ 7 พ.ค. 63 พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ปฏิบัติราชการรองผบช.ภ.4 แถลงข่าวการจับกุมนายพิส จันดาประดิษฐ์ อายุ 53 ปี ชาวอ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม หลังก่อเหตุฆาตกรรม นางบุญเลิศ จันดาประดิษฐ์ อายุ 49 ปี ภรรยา จนเสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 6 พ.ค.63 ยัดบ่อเกรอะลึก 1.5 เมตร หลังบ้านไม่มีเลขที่หลังหนึ่ง
โดยนายพิส ให้การว่า แต่งงานอยู่กินกับนางบุญเลิศ มาตั้งแต่ปี 2528 มีลูกด้วยกัน 3 คน หญิง 1 คน และชาย 2 คน กระทั่งได้เดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ประเทศสิงคโปร์ และส่งเงินมาให้ภรรยาเป็นประจำทุกเดือน แต่เมื่อกลับมาพักที่บ้านก็มีญาติมากระซิบบอกว่าให้ทำใจรับสภาพ เพราะนางบุญเลิศกำลังคบชู้
ตนได้สอบถามภรรยาว่าจริงหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นความจริง ตนจึงขอร้องให้เลิกนิสัยดังกล่าว จากนั้นตนก็ไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย และบรูไน ส่งเงินกลับบ้านไม่เคยขาด ขณะที่ภรรยาก็ยังมีพฤติการณ์เดิม ได้รับเงินที่ส่งมาก็นำไปซื้อเหล้าและเบียร์เลี้ยงผู้ชายอื่น แล้วไปจบด้วยการหลับนอนกัน
เมื่อตนกลับมาอยู่บ้านอย่างถาวร ตนก็ทำงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยไม่เคยให้เมียทำงานหนัก ครั้งหนึ่งเคยแกล้งนอนหลับ เห็นเมียกดโทรศัพท์ไปหาผู้ชาย บอกว่าพรุ่งนี้จะโกหกสามีว่าไปธุระในเมืองแล้วไปเจอกันที่รีสอร์ต ตนได้ฟังถึงกับนอนน้ำตาไหล ด้วยความรักเมียจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้ไปหลับนอนกับชายชู้ บางครั้งก็หาเรื่องทะเลาะเพื่อจะไปนอนกัน หายหน้าไป 5-10 วัน ก็กลับเข้าบ้าน ไม่เคยสะทกสะท้านต่อการกระทำใด ๆ ตนเก็บความเจ็บช้ำน้ำใจมานานถึง 20 ปี อภัยให้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนทนไม่ไหว
ก่อนเกิดเหตุ วันที่ 5 พ.ค. 63 นางบุญเลิศ ก็หาเรื่องทะเลาะแล้วหนีไปนอนบ้านพี่สาว กลับมาในเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 6 พ.ค. ตนลุกขึ้นมาก่อไฟนึ่งข้าวอยู่บ้าน ภรรยาเอ่ยปากขอกุญแจรถจักรยานยนต์จะขับไปหาชายชู้ ตนจึงบอกว่าถ้าไปจะฆ่าให้ตาย นางบุญเลิศท้าทาย ชี้หน้าด่าว่า "คนอย่างมึงกล้าฆ่ากูเหรอ" แล้วยิ้มเย้ย ตนห็นก้อนอิฐบล็อกวางอยู่ใกล้ห้องน้ำ จึงหยิบมาแกล้งเคาะหัวภรรยา แต่ภรรยาพูดหยามศักดิ์ศรีว่า "เดี๋ยวกูจะเอาชายชู้มานอนในบ้าน" ตนจึงหน้ามืด คว้าก้อนอิฐทุบศีรษะอย่างแรง 3 ครั้ง จนภภรยาล้มลงเลือดนองพื้น ตนเอาหูแนบที่อกซ้ายพบว่าหัวใจหยุดเต้น จึงอุ้มศพเมียมาวางไว้ที่แคร่ ก่อนจะถอดผ้าถุงมาเช็ดเลือดแล้วโยนเผาไฟทิ้ง นำผ้าห่มคลุมร่างไว้
จากนั้น ตนตั้งใจว่าจะไปฆ่าชายชู้อีกคน แต่ไปที่บ้านแล้วไม่พบ จึงกลับมานำร่างภรรยาโยนบ่อเกรอะที่ฝังท่อปูนไว้ ในสภาพเปลือยแล้วผสมปูนโบกปิดอย่างสนิท
ล่าสุด วันที่ 7 พ.ค. 63 น.ส.นิตยา อายุ 29 ปี ลูกสาว แวะมาหาแม่ จนกระทั่งไปฝาปิดบ่อเกรอะพบร่างของแม่นอนเสียชีวิตอยู่ก้นบ่อ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ด่อนที่ตำรวจไปตามนายพิสมาสอบสวน เจ้าตัวบอกว่ารู้อยู่แล้วว่าตำรวจจะต้องมาจับกุม จึงรับสารภาพ และถูกแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังอำพรางศพ
น.ส.นิตยา ลูกสาวของผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนทราบมาตลอดว่าแม่สวมเขาให้พ่อ ตนเคยขอร้องให้เลิก แต่แม่ตอบว่าไม่เลิก จะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งชาวบ้านต่างรู้ดีว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกันเป็นประจำเรื่องคบชู้สู่ชาย แต่ไม่คิดว่าพ่อจะรุนแรงถึงขั้นฆ่าแม่ ตอนนี้ครอบครัวต้องสูญเสียทั้งแม่ ส่วนพ่อก็ต้องติดคุก
จากนั้น น.ส.นิตยา โผเข้ากอดร่ำไห้บอกให้พ่อเข้มแข็ง และจะไปเยี่ยมในเรือนจำจนกว่าจะได้อิสรภาพ