"ศรีสุวรรณ" นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เผยแแพร่แถลงการณ์ คัดค้านการยกพื้นที่ป่าสงวนฯ 4,600 ไร่ จ.ระยอง ให้กองทัพเรือ ชี้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งทรัพยากรพื้นถิ่น ประชาชนจะได้รับผลกระทบ จี้ กรมป่าไม้ –ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ปกป้องป่า
10 พฤษภาคม 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เผยแพร่แถลงการณ์สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เรื่อง คัดค้านการยกพื้นที่ป่าสงวนฯ 4,600 ไร่ไปเอื้อประโยชน์ให้กองทัพเรือ มีใจความว่า ตามที่กองทัพเรือทำหนังสือถึงกรมป่าไม้ เพื่อขอใช้ประโยชน์ในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาห้วยมะหาด, ป่าเขานั่งยอง และป่าเขาครอก บริเวณพื้นที่เขาโกรกตะแบกและเขาเนินกระปรอก ในท้องที่ ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง และ ต.สำนักกะท้อน ต.บ้านฉาง ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อจัดทำโครงการป้องกันภัยทางอากาศในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และบริเวณใกล้เคียง และเป็นที่ต้องหน่วยป้องกันภายทางอากาศของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รวมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 4,600 ไร่นั้น
พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งทรัพยากรป่าไม้พื้นถิ่นที่ประชาชนโดยรอบพื้นที่ได้ร่วมกันอนุรักษ์และใช้ประโยชน์เสมือนเป็นป่าชุมชน ในการเก็บเห็ด เก็บสมุนไพร ฯลฯ รวมทั้งใช้เป็นแหล่งสันทนาการที่เป็นกำแพงกรองมลพิษในวิถีชนบทของคนระยองเสมอมา
การที่กองทัพเรือจะชุบมือเปิบขอใช้พื้นที่ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นจาก 2,558 ไร่เป็น 4,600 ไร่ โดยอ้างการป้องกันอีอีซีและนิคมมาบตาพุดนั้น กองทัพเรือเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า เพราะพื้นที่เหล่านี้อยู่บนบก ไม่ใช่พื้นที่ชายแดนหรือชายทะเล และไม่เคยมีปัญหาด้านความมั่นคง เป็นพื้นที่เศรษฐกิจไม่ใช่พื้นที่สงครามความขัดแย้ง ที่จะมีข้าศึกที่ไหนบุกมายึดอีอีซีหรือนิคมมาบตาพุด
จนต้องมีค่ายทหารมาคอยปกป้อง หากจะมีปัญหาก็มีแต่ปัญหาอาชญากรรมธรรมดาเท่านั้น ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ไม่ใช่ทหาร และที่สำคัญกองทัพเรือก็มีฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมากมายเกินพออยู่แล้ว และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากองทัพเรือก็มีปัญหาความขัดแย้งกับชุมชนหลายพื้นที่มาโดยตลอด ทั้งที่ชุมชนแสมสาร หรือที่ ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว การรุกคืบเข้ามาขอใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จ.ระยองดังกล่าว หรือเพียงแค่ต้องการขยายฐานอำนาจ ขยายตำแหน่งของเหล่าทหารเรือ หรือต้องการขอเพิ่มงบประมาณจากภาษีของประชาชนให้เพิ่มมากขึ้นกันแน่
ทั้งนี้ กรมป่าไม้ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้องมีจุดยืนในการปกป้องป่าไม้ตามแนวนโยบายป่าไม้แห่งชาติที่ ครม.มีมติเห็นชอบเมื่อ 6 พ.ย.62 ซึ่งเน้นการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ปกป้องดูแลป่าแต่ถ้ายกพื้นที่ป่าดังกล่าวให้กองทัพเรือไปใช้ประโยชน์ได้ตามคำขอ แนวนโยบายป่าไม้แห่งชาติก็จะไร้ความหมายและควรฉีกทิ้งไปเสีย แล้วให้กองทัพเรือไปยกร่างเขียนใหม่ แล้วนำไปบังคับใช้กันเองตามสะดวก แต่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและชาวระยองจะไม่ยอมศิโรราบกับกรณีดังกล่าวโดยจะขอพึ่งอำนาจศาลปกครองเป็นประการต่อไป
แถลงมา ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2563
นายศรีสุวรรณ จรรยา
นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน