ครูอานุภาพ เครียดถูกแฉขืนใจ 2 นร.จะผูกคอตาย เพื่อนป้องไม่แคร์ถูกด่าวิปลาส (คลิป)

จากกรณีที่เทรนด์ทวิตเตอร์ มีกระแสการติดแฮชแท็กครูข่มขืนเด็ก ซึ่งมีที่มาจากครู 5 คน และศิษย์เก่าอีก 2 คนของโรงเรียนในพื้นที่ จ.มุกดาหาร ย่ำยีเด็กนักเรียนหญิงภายในโรงเรียน โดยเหตุสลดใจดังกล่าว ญาติของเด็กนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ผึ่งแดด ว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) หลานสาว อายุ 14 ปี ถูกครู 5 คน และผู้ช่วยครู รุ่นพี่ที่เป็นศิษย์เก่าอีก 2 คนข่มขืน

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ค.63 นายวิพจน์ แสนสุข กับพวกรวม 7 คน ผู้ต้องหา ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานสอบสวน แต่ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งในชั้นแจ้งข้อหา และในชั้นสอบสวน จึงนำตัวไปยื่นคำร้องขอหมายขังต่อศาลจังหวัดมุกดาหารต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "5 ครูข่มขืนนักเรียนหญิง"
- เพื่อน ม.4 เหยื่อ 5 ครูหื่นขยี้กาม แฉพฤติกรรมครูนัดมีเซ็กส์กับเพื่อนแลกเงินเป็นประจำ
- เปิดหลักฐานแชตลับ ก๊วนครูให้ชวนเด็กมาขยี้กาม ย่าเหยื่อโต้นอนแลกเงิน (คลิป)
- "ทนายเกิดผล" ชี้ คดี 5 ครู 2 ศิษย์เก่า โทรมนักเรียนหญิง อาจโทษหนักถึงประหารชีวิต
- เปิด 4 จุดห้องลับครูใช้ขยี้กามลูกศิษย์ อึ้งเจอหลักฐานถุงยาง และคลิปมัดตัวยกก๊วน
- เปิดข้อมูล 5 ครูโทรมนักเรียน พบ 2 รายระดับชำนาญการ เงินเดือน 2 หมื่นอัพ!
- เปิดไทม์ไลน์แก๊ง 5 ครู 2 ศิษย์เก่า กระทำชำเรานักเรียนหญิง

- สุดอุบาทว์! แก๊งครูลวงศิษย์ขยี้กามยังพาเด็กเข้ารีสอร์ต อึ้งแชตลับระบุพิกัดชัด

- แฉแชตลับชุดใหม่ 3 ครูพาเด็กขยี้กามพร่ำรักสั่งห้ามบอกเมีย ย่ายัวะไม่อภัย 

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำชำเราเด็กอายุ ไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็ก และเป็นการกระทำแก่ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง เพื่อการอนาจาร

ล่าสุดวันที่ 13 พ.ค.63 พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า ขณะนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งอัยการสั่งฟ้องในคดีกระทำชำเราฯ โดยจากพยานหลักฐานยังไม่เข้าสู่ประเด็นอื่น โดยได้สั่งการให้พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ติดตามคดีให้รัดกุมที่สุด เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 7 คนให้การปฏิเสธและจำเป็นต้องทำสำนวนคดีอย่างรอบครอบ

ส่วนเด็กหญิงผู้เสียหายทั้ง 2 คน อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร รวมทั้งส่งตำรวจตระเวนดูแลความปลอดภัยให้กับญาติผู้เสียหาย

ขณะที่กรณีที่กระทรวงยุติธรรมจะขอสืบพยานล่วงหน้า อยู่ระหว่างการประสานกับพนักงานสอบสวนว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ส่วนกรณีปรากฎชื่อตำรวจสังกัด สภ.ผึ่งแดด ที่นามสกุลเดียวกันกับ 1 ในผู้ต้องหานั้น จากการตรวจสอบพบว่าไม่มีเกี่ยวข้องกัน แต่นามสกุลเหมือนกันเท่านั้น

ทีมข่าวเดินกลับมาที่โรงเรียนที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งได้พบกับ ครูอัญญากร (สงวนนามสกุล) ครูชำนาญการ และเป็นครูที่ออกมาโพสต์ให้กำลังใจผู้ต้องหาทั้ง 7 คน โดยระบุข้อความทำนองว่า โรงเรียนต้องสูญเสียกำลังหลักไป

ครูอัญญากร วันนี้เข้าเวรที่โรงเรียน ซึ่งออกมาพบกับทีมข่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส่ ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุผลที่ตนออกมาโพสต์นั้น เนื่องจากตนเพียงแค่อยากเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ให้กำลังใจเพื่อนร่วมอาชีพ เนื่องจากตอนนั้นทราบว่าครูทุกคนที่ตกเป็นผู้ต้องหาเครียดกันหมด เพราะส่วนใหญ่กำลังมีลูกเล็ก และมีครอบครัวที่ต้องดูแล

ครูอัญญากร ระบุว่า อีกหนึ่งเหตุผลที่ตนตัดสินใจแบบนั้น ตนไม่ได้เข้าข้าง แต่เพราะหลังจากมีเหตุการณ์ครอบครัวผู้เสียหายพาเด็กไปแจ้งความราว 2 วัน ปรากฎว่ามีครูท่านหนึ่ง ซึ่งเพิ่งมีลูกที่ยังเล็กอยู่ เกิดความเครียดหนักเกี่ยวกับคดี และตัดสินใจจะจะผูกคอตาย แต่ครั้งนั้นครูท่านนี้ได้ยินเสียงลูกร้องไห้ จึงมีสติและเปลี่ยนใจไม่ทำร้ายตัวเอง เมื่อตนทราบเรื่องจึงออกมาโพสต์ให้กำลังใจ 

ทั้งนี้ไม่ใช่ตนไม่ห่วงเด็กผู้เสียหาย เพราะตนเข้าไปพบเด็กผู้เสียหายทั้ง 2 คนแล้ว ไปพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้น ไปให้กำลังใจแล้ว จึงได้โพสต์ ตนไม่เสียใจที่ได้ทำลงไป ส่วนตัวยืนยันว่าตนออกมาพูด ออกมาโพสต์ เพราะต้องการรักษาชีวิตมนุษย์ ไม่ได้ต้องการอะไร ทั้งนี้ตนทำหน้าที่ตนเสร็จสิ้นแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เข้าข้างใคร แต่ตนมองว่าส่วนที่ดีของครูกลุ่มนี้ก็มี ครูกลุ่มนี้ที่ตนบอกว่าเป็นกำลังหลักของโรงเรียนก็เป็นแบบนั้น ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น หากครูกระทำกับเด็กจริงก็ย่อมมีความผิด สมควรที่ต้องรับกัน ต้องติดคุก เพียงแต่ไม่อยากให้คนเหมารวมทั้งหมด

อย่างไรก็ตามที่ นายธวัชชัย ไทยเขียว อดีตรองปลัดยุติธรรมออกมาระบุว่าตนเป็นครูวิปลาส ตนก็น้องรับ แต่ยืนยันว่าสิ่งที่ตนทำไป โพสต์ไป ตนคิดดีแล้ว ตนมีสติดี ส่วนเรื่องของตนหลังจากเป็นข่าวก็มีคำสั่งจากผู้ใหญ่ห้ามให้ตนให้ข่าว ส่วนตัวก็น้อมรับ ลึก ๆ ยอมรับว่าเครียด เพราะครอบครัวตนที่ไม่รู้เรื่อง ก็ถูกโจมตี แต่ก็ยังถือว่าดีที่คนในสังคมมาด่าตน จะได้ลดกระแสที่จะไปสร้างแรงกดดันให้กับครูทั้ง 5 คน ส่วนหลังเกิดเรื่องก็ไม่ได้คุยอะไรกับครูที่เกิดขึ้น

ส่วนเรื่องแชตตนไม่ได้เห็น ไม่ทราบว่าเรื่องเป็นอย่างไร และตนขออย่าให้คนในสังคมรีบตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้น

ขณะที่นายธวัชชัย ไทยเขียว อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) และอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "ต้องไม่มีคำว่าพรรคพวกในหมู่อธรรม #บุคลากรทางการศึกษาต้องออกมาปกป้องเด็กมิใช่หรือ นี่มันเป็นกระสวนพฤติกรรมประหลาดวิปลาสไปในวงการของคนทำงานด้านเด็ก ไม่อยากจะเชื่อว่านี่หรือจิตสำนึกที่เป็นส่วนลึกของบุคลากรทางการศึกษา เพราะมันไม่ผ่านมาตรฐานตัวชี้วัดขั้นต่ำของคนที่จะเป็นครู ทำไมครูหรือบุคลากรทางการศึกษาฝ่ายดีไม่กล้าออกมาถล่มคนไม่ดี เพื่อปกป้องเด็ก"

ทีมข่าวยังได้พบกับ ครูไพวรรณ (สงวนนามสกุล) ซึ่งห้องพักครูอยู่ที่ตึกคณิตศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า ส่วนตัวอยู่ห้องเรียนมาก็ไม่เคยได้ยินเสียงอะไรผิดแปลกออกมาจากห้องคณิตศาสตร์ แต่ก็รับรองไม่ได้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะตนก็ไม่ได้เดินไปที่ห้องนั้น หรือบางครั้งนั่งอยู่ที่ห้องก็อาจจะไม่ได้ยินเสียงก็ได้ แต่ส่วนตัวไม่เคยเห็น 

ครูไพวรรณ ระบุว่า ห้องเรียนที่โรงเรียน ส่วนใหญ่ก็จะมีการเรียนการสอนตลอด อาจจะมีห้องว่างบ้าง แต่ยืนยันว่าหากเป็นช่วงเรียน ห้องจะว่างบ้างบางห้อง แต่กรณีว่างทุกห้องไม่มีแน่นอน ยกเว้นช่วงที่เป็นงานกิจกรรมของโรงเรียน ซึ่งช่วงนั้นจะไม่มีการใช้ห้องเรียน เช่น งานกีฬาสี

ครูไพวรรณ ระบุต่อว่าที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินเรื่องราวทำนองนี้มาก่อน ไม่คิดว่าเรื่องจะเกิดขึ้น ยอมรับว่าตกใจ ส่วนตัวเป็นครูมานาน ก็คิดในมุมคนเป็นครู”หากไม่คิดเกินเลยกับนักเรียน เรื่ออวมันก็ไม่เกิด” ในส่วนของตนก็มีนั่งเรียนเข้ามาเกาะแข้งเกาะขา ซึ่งตนไม่ได้คิดอะไรกับเด็ก มองเด็กเป็นลูกหลานมันก็ไม่มีเรื่องชู้สาว

ทีมข่าวยังได้เข้าไปที่ห้องคณิตศาสตร์ พบว่าด้านในเต็มไปด้วยอุปกรณ์การเรียนที่รก พบเอกสารของครูวิพจน์วางอยู่บนโต๊ะ ห้องมีความโปร่ง ยากที่จะก่อเหตุอะไรได้