บขส.คลายล็อก! เปิดเดินรถ 19 เส้นทาง "เหนือ-อีสาน-ใต้" เริ่ม 18 พ.ค. นี้

15 พ.ค. 63

บขส. เตรียมเปิดเดินรถ 19 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก รวม 16 เส้นทาง เริ่ม 18 พ.ค. 63 และภาคใต้ 3 เส้นทาง เริ่ม 1 มิ.ย. 63 พร้อมมาตรการคุมเข้มโควิด-19

วันนี้(15 พ.ค.) มีรายงานข่าวว่า บขส. เตรียมเปิดเดินรถรวม 19 เส้นทาง แบ่งเป็น เส้นทางภาคเหนือ 7 เส้นทาง และเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก 9 เส้นทาง เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 63 เป็นต้นไป และภาคใต้ 3 เส้นทาง เริ่ม 1 มิ.ย. 63 หลัง บขส. หยุดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 สำหรับตารางเดินรถ ได้แก่

ภาคเหนือ มี 7 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ , กรุงเทพฯ - เชียงราย, กรุงเทพฯ - อุตรดิตถ์, กรุงเทพฯ - สารจิตร, กรุงเทพฯ - แม่สอด, กรุงเทพฯ - หล่มเก่า, กรุงเทพฯ - คลองลาน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จำนวน 9 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ - หนองบัวลำภู, กรุงเทพฯ- สกลนคร, กรุงเทพฯ - เชียงคาน, กรุงเทพฯ - สุรินทร์, กรุงเทพฯ - บุรีรัมย์, กรุงเทพฯ - กันทรลักษ์, กรุงเทพฯ - ศรีสะเกษ, กรุงเทพฯ - รัตนบุรี, กรุงเทพฯ - จันทบุรี

ภาคใต้ จำนวน 3 เส้นทาง (เริ่ม 1 มิ.ย. 63)
กรุงเทพฯ - เกาะสมุย, กรุงเทพฯ - ภูเก็ต, กรุงเทพฯ - ตรัง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

บขส.ระบุผู้ขอคืนตั๋ว โปรดส่งข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อรับเงินได้รวดเร็ว
บขส. งดขายตั๋วทุกเส้นทางทั่วประเทศ ขานรับนโยบายสกัดการแพร่เชื้อโควิด
 
โดยจะมีมาตรการในการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด สำหรับพนักงานประจำรถ พนักงานจำหน่ายตั๋ว และพนักงานชานชาลา ต้องดูแลสุขภาพ และรักษาความสะอาดอย่างเคร่งครัด ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนปฏิบัติงาน และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ด้านรถโดยสารและสิ่งอำนวยความสะดวก จะจัดที่นั่งภายในรถโดยสารเว้นระยะนั่ง อย่างน้อย 1 เมตร ทำความสะอาดรถโดยสาร ห้องน้ำ และจุดที่สัมผัสบ่อย ก่อนและหลังให้บริการ มีการเปิดระบายอากาศภายในรถ
 
นอกจากนี้ ได้นำรถโดยสารจอดตากแดด หลังให้บริการทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1-2 ชั่วโมง ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย จัดพื้นที่นั่งคอยภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดสม่ำเสมอ เว้นระยะห่างนั่ง หรือยืนอย่างน้อย 1 เมตร พร้อมทั้งได้ประสานงานกับขนส่งจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด
 
ขณะที่ผู้โดยสาร ต้องได้รับการตรวจอุณหภูมิ หากพบเกิน 37.5 องศาเซลเซียล ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด และต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา พร้อมต้องกรอกข้อมูลสุขภาพตามแบบ ต.8-คค ระบุจุดเดินทางที่ออกและจุดหมายปลายทางที่เป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคติดต่อ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ