จากกรณีคดีของน.ส.นรีกานต์ หรือ น้องหญิง อายุ 19 ปี เสียชีวิตอย่างปริศนา เมื่อกลางดึกวันที่ 19 ก.ค.61 ที่ผ่านมา หลังกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายสุรพล ดาราคำ หรือ อ๊อฟ อายุ 23 ปี เป็นผู้ขับรถเทรลเลอร์พาไปส่งบ้าน แต่ระหว่างทางอ้างว่าน้องหญิงกระโดดลงจากรถจนเสียชีวิต ซึ่งญาติของฝ่ายหญิงไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ และสงสัยเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากไม่พบกางเกงชั้นในของผู้เสียชีวิต
โดยคำตัดสินจากศาลชั้นต้น มีคำพิพากษายกฟ้องนายสุรพล จำเลยที่ 1 กับพวก เนื่องจากผลชันสูตรศพของฝ่ายโจทก์และจำเลย มีความขัดแย้งกัน โดยฝ่ายโจทก์ชี้ว่าที่ศีรษะถูกตีด้วยของแข็ง แต่ฝ่ายจำเลยชี้ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ และฝ่ายโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้คลายความสงสัยได้ว่า ของแข็งที่ใช้ตีที่ศีรษะผู้เสียชีวิตคืออะไร แต่ให้ขังจำเลยที่ 1 ไว้ในระหว่างอุทธรณ์
ล่าสุดวันที่ 15 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์ มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาแก้เป็นจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสุบิน ยาวิราช อายุ 43 ปี พ่อของน้องหญิง กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปร่วมฟังคำพิพากษา เพราะไม่รู้ว่ามีการนัดอ่านคำพิพากษาในวันนี้ แต่ก็ดีใจที่ศาลคืนความยุติธรรมให้น้องหญิง โดยทันทีที่รู้ข่าวก็คิดถึงหน้าลูกสาวเป็นอันดับแรก
ส่วนตัวมั่นใจว่าจะชนะคดีเพราะกางเกงชั้นในของน้องหายไป แม้ว่าอีกฝ่ายจะยื่นฎีกาอ้างว่าพยาบาลถอดกางเกงชั้นในทิ้งก็ตาม เพราะตนเชื่อมาตลอดว่าลูกสาวถูกฆ่า ไม่ได้ตกลงมาจากรถเทรลเลอร์จนเสียชีวิตตามที่คู่กรณีกล่าวอ้างอย่างแน่นอน
ส่วนเหตุที่มีการแก้คำพิพากษาในชั้นอุธรณ์ ตนคาดว่าอาจจะเป็นเพราะการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงคลิปเสียงที่ลูกสาวของตนโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ซึ่งก็น่าจะเป็นหลักฐานสำคัญ ทั้งนี้ช่วงที่จะขึ้นศาลอุธรณ์ตนก็มั่นใจ และสู้อย่างเต็มที่
โดยที่ผ่านมาเวลาทำบุญตักบาตร ก็จะบอกน้องหญิงตลอดให้ช่วยตามหาความจริง หากมีหลักฐานเพิ่มเติมก็ขอให้บอก ซึ่งตนก็ฝันเห็นน้องหญิงบ่อยครั้ง โดยในฝันลูกสาวใส่ชุดขาว อยู่กับแม่ชี และยิ้มให้ตน ลักษณะคล้ายจะบอกอะไรบางอย่าง แต่พูดไม่ได้ ทั้งนี้ผลคำพิพากษาออกมาตนก็โล่งใจที่ลูกสาวได้รับความยุติธรรม ยอมรับและเคารพคำตัดสินของศาล แต่ในความเป็นจริงอยากให้ลงโทษหนักกว่านี้ถึงขั้นประหารชีวิต เพราะคิดว่าจำคุกตลอดชีวิตไม่กี่ปีก็อาจจะได้ออกมา