นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ผู้ต้องหาคดีคลองด่าน ซึ่งขณะนี้กำลังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ได้ส่งหนังสือถึงสื่อมวลชน ขอกลับไทยสู้คดี พร้อมวอน "บิ๊กตู่" เปิดโอกาสให้เข้าสู้ตามกระบนการยุติธรรม
16 พ.ค. 63 นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้หลบหนีอยู่ต่างประเทศในคดีทุจริตคลองด่าน ได้ส่งหนังสือถึงสื่อมวลชนความยาว 32 หน้า ชื่อ "เปิดหัวใจ ลูกผู้ชายที่ชื่อ วัฒนา อัศวเหม" ชี้แจงรายคดีฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดิน อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เนื้อที่รวม 1,900 ไร่ เพื่อก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
ตอนหนึ่งในหนังสือของนายวัฒนา ระบุว่า พยายามชี้แจงความจริงหลายครั้งแล้ว แต่ด้วยกระแสสังคมทำให้ไม่มีใครเชื่อ ขณะนั้นคงไปสร้างความไม่พอใจให้ผู้มีอำนาจจึงโดนเล่นงาน ขณะนี้อยากจะขอรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ และเอาผิดผู้ที่ใส่ร้าย โดยระบุว่า ตนไม่เคยนำที่ดินไปขายให้กรมควบคุมมลพิษ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ร่วมถึง “ค่าโง่” ที่รัฐบาลจ่ายให้กับโครงการนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ "ทุจริต"
- "ถาวร" ตั้งคณะทำงานสอบทุจริต "การบินไทย" หลังขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี
- บิ๊กโจ๊กให้ข้อมูล ป.ป.ช. ยัน'ไบโอเมททริกซ์' มีพิรุธหลายอย่าง มั่นใจเอาผิดได้
นายวัฒนาระบุว่า "ในวันนี้ผมมีอายุ 85 ปีเศษแล้ว ไม่อยากจากโลกนี้ไปและยังคงทิ้งตราบาปไว้ให้กับลูกหลานและวงศ์ตระกูล ดังนั้นเมื่อปัจจุบันมีข้อมูลใหม่ ๆ เปิดเผยออกมามากมาย ไม่เหมือนในช่วงที่มีการสอบสวนและตัดสินคดีผม ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ถูกปิดบังถูกบิดเบือน ถูกชี้นำจากอำนาจการเมือง ทำให้บิดเบี้ยวไปจากความเป็นจริง ทำให้ผมถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ผมจึงอยากขอโอกาสกลับไปแสดงความบริสุทธิ์ ขอให้ผมได้ประกันตัวผมจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง เอาข้อมูลข้อเท็จจริงมาว่ากัน ถ้าผมผิด ผมพร้อมให้ถูกดำเนินคดี ผมจะไม่หนีอีกต่อไป"
ในตอนท้ายของหนังสือ นายวัฒนาได้ขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐฯ ระบุว่า “ผมหวังเพียงว่านายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประชาชนรัก และเชื่อมั่นในตัวท่านว่าท่านเป็นลูกผู้ชาย เป็นคนเที่ยงตรง และมีความยุติธรรมจะเปิดโอกาสให้คนแก่อย่างผมได้กลับบ้านและเข้าต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง”
ทั้งนี้นายวัฒนา ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 10 ปี คดีทุจริตคลองด่าน ซึ่งเป็นโครงการจัดซื้อที่ดินและโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย 2 ระบบ ริเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 โดยมีการระบุว่า นายวัฒนาได้กว้านซื้อดินจากชาวบ้านในราคาถูก และออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบรุกล้ำที่ดินสาธารณะประโยชน์ แล้วนำไปขายต่อให้กรมควบคุมมลพิษ โดยปั่นราคาขึ้นจาก 1 แสนบาท/ไร่ เป็น 1.1 ล้านบาท/ไร่
ซึ่งทำให้ต่อมาในปี 2546 กรมควบคุมมลพิษ (ค.พ.) สั่งให้ผู้รับเหมา NVPSKG ยุติการดำเนินโครงการ และระงับการจ่ายเงิน หลังก่อสร้างไปแล้วกว่า 95% และจ่ายเงินไปแล้ว 54 งวดจาก 58 งวด รวม 2 หมื่นกว่าล้านบาท ทำให้ทาง NVPSKG ฟ้องร้องให้จ่ายเงินที่เหลืออยู่ อนุญาตโตตุลาการตัดสินให้ ค.พ.แพ้ ต้องจ่ายส่วนที่เหลือกว่า 9.6 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันโครงการแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง รวมไทยสูญเสียไปกว่า 3 หมื่นล้านบาท เรียก "ค่าโง่คลองด่าน"