เฮี้ยนจัด! "น้องน้ำ" โผล่นั่งห้อยขาบนกำแพงใกล้จุดฝัง คนเฝ้าที่ผวาหนีบวชหลังมาให้เห็นทุกวัน (คลิป)

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และ นางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดาของ น.ส.จริยา ศรีศักดิ์ หรือ "น้ำ" ซึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับ ก่อนพบว่าเป็นศพถูกฝังดินอยู่ภายในพื้นที่ไร่ ในซอยศาลาลอย 4 บ้านนามอญ หมู่ 7 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี

ล่าสุด วันนี้ (6 พ.ย. 60) ที่กองบังคับการปราบปราม พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ควบคุมตัวน.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือ "โมนา" ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดา ในฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ภายหลังได้เข้าสอบปากคำเพิ่มเติมเสร็จ จากนั้นได้นำตัวไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญารัชดา น.ส.กฤษณาระบุกับทีมข่าวอมรินทร์ถึงสาเหตุการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้เพียงสั้นๆว่า "เดี๋ยวจะไปแถลงที่ศาลนะคะ" หลังจากนั้นทางญาติของน.ส.กฤษณา ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 250,000 บาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลจึงได้พิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ น.ส.กฤษณา ประกันตัวไปด้วยวงเงินประกัน 250,000 บาท และกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลเท่านั้น

ส่วนทางด้านนายจตุรงค์  อุ่มละออ อายุ 24 ปี พี่ชายของน.ส.จริยา เปิดเผยว่า ตั้งแต่น.ส.จริยาหายตัวไป ตนก็ช่วยแม่ออกติดตามหาน.ส.จริยาในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ตามสถานที่ที่น.ส.จริยาเคยไป และอีกหลายๆแห่ง แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น

ส่วนบ้านนายจ้างที่กรุงเทพ ไม่มีใครรู้จักว่าอยู่แถวไหน จึงได้แต่ติดตามหาในพื้นที่จ.เพชรบุรี พอผ่านไปหลายปีก็เชื่อว่าน้องสาวตนคงเสียชีวิตแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ น.ส.กฤษณา เคยโทรศัพท์มาบอกแม่ตนว่า พาน.ส.จริยากลับมาที่บ้านของคุณโดโร แม่ของน.ส.กฤษณา ที่ จ.เพชรบุรี แล้วน.ส.จริยาหนีออกจากบ้านไป ซึ่งตนไม่เชื่อ เพราะเมื่อกลับมาถึงจ.เพชรบุรีแล้ว น้องสาวตนก็ไม่จำเป็นต้องหนีไปไหน ควรต้องกลับมาบ้าน จึงไม่เชื่อในคำพูดของน.ส.กฤษณา แต่ตนไม่รู้ว่าการหายตัวไปของน้องสาวตนหายไปเพราะอะไร และไม่คิดว่าจะถูกฆาตกรรมและนำมาฝังที่นี่ ส่วนการทำพิธีทางศาสนาตนปรึกษากับแม่แล้วว่า หากผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาตรงกับน.ส.กฤษณาแล้ว ถ้าตำรวจอนุญาตก็จะนำกระดูกมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบางขุนไทร ซึ่งเป็นบ้านเดิมของแม่ต่อไป ขณะที่ นางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดาผู้เสียชีวิต ได้ให้สัมภาษณ์ใน รายการต่างคนต่างคิด ออกอากาศเวลา 18.50 น. ว่า ตนจะไม่มีวันให้อภัย หรืออโหสิกรรมในกับ น.ส.กฤษณา นายจ้างของน้องน้ำ ถึงแม้ว่าผู้ก่อเหตุจะเข้ามาขอขมาก็ตาม ทั้งนี้ นางจันทิรายอมรับว่ารู้สึกเครียดและกดดันมาก หลังจากที่ทราบว่าศาลอนุญาตให้โมนา ผู้ต้องหาได้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 250,000 บาท อย่างไรก็ตาม นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยในรายการด้วยว่า หลังจากนี้จะช่วยเหลือ นางจันทิมา ในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาดูแลความปลอดภัย ขณะที่ รายการทุบโต๊ะข่าว ออกอากาศเวลา 20.30 น. ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของ นางจันทิรา ที่ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบรายการต่างคนต่างคิด ว่าคนที่ฆ่าน้องน้ำได้มีการนำศพจากกรุงเทพ มาไว้ที่ จ.เพชรบุรี โดยมีการนำศพไปเผาที่วัดแห่งหนึ่ง แต่พระขอดูใบมรณบัตร ซึ่งกลุ่มที่ฆ่าลูกสาวไม่มีใบดังกล่าว ทางวัดจึงไม่ได้มีการเผาศพ คนกลุ่มนี้จึงเปลี่ยนแผนนำศพมาฝังดิน ซึ่งตนคิดว่าหากวันนั้นมีการเผาน้องน้ำก็คงหาลูกสาวไม่เจอ สำหรับผู้ที่โทรศัพท์มาแจ้งเบาะแสเรื่องนี้ ตนคิดว่าคงกลัวว่าจะเกิดอันตราย เพราะรู้เห็นถึงเรื่องที่เกิดขึ้น การที่นำเบาะแสมาบอกตน เชื่อว่าต้องการให้ตำรวจไปจับกุมน.ส.กฤษณา ไม่เช่นนั้น คนที่ให้เบาะแสอาจจะถูกเก็บ เป็นรายต่อไป

ด้าน นางจิ๋ว(นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้ที่เช่าบ้านอยู่ติดกับทางเข้าพื้นที่ จุดที่ฝังศพน้องน้ำ เล่าว่า ตนเช่าบ้านหลังนี้อยู่กับสามี มานานประมาณ 3 เดือน วันหนึ่งประมาณ 04.00 น. ตนปวดท้องหนัก จึงตื่นมาเข้าห้องน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้จุดฝังร่างน้องน้ำ เมื่อเดินออกไปก็ได้ยินหมาเห่าหอนเสียงดังมาก เมื่อเดินถึงหน้าห้องน้ำได้เหลือบไปเห็นเงาผู้หญิง นั่งห้อยขาอยู่บนสันกำแพงรั้ว เงานั้น มีลักษณะเหมือนเด็กกำลังนั่งเล่น ด้วยความตกใจกลัวจึงวิ่งกลับเข้าบ้านทันที และเล่าเรื่องนี้ให้สามีฟัง แต่สามีก็หาว่าตนเป็นบ้า ทั้งที่ตนยืนยันว่าไม่ได้ตาฝาด หรือคิดไปเอง