จากกรณีเหตุยิงกันในวันที่ 24 พ.ค.63 ที่ผ่านมา นายเสรี มุสตอฟาดี อายุ 45 ปี พี่ชายคนโต ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงน้องชายเเท้ ๆ เสียชีวิต 2 ศพ ปมขัดเเย้งเรื่องที่ดินมรดก ภายในบ้านซอยสุวินทวงศ์ 28 เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
โดยผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายศรายุทธ มุสตอฟาดี อายุ 39 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด เเละนายวีระชัย มุสตอฟาดี อายุ 37 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ชายโครงขวาและซ้ายอย่างละ 1 นัด ซึ่งหลังจากที่นายเสรี ลงมือก่อเหตุ จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนตามที่นำเสนอไปเเล้วนั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มรดกเลือด! ล่าตัวพี่ชายคนโตปืนดุ ยิงน้องชายดับ 2 ศพ เหตุแบ่งที่ดินไม่ลงตัว
ล่าสุดวันที่ 25 พ.ค.63 พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กำลังกระจายกำลังค้นหาตัวผู้ก่อเหตุ โดยวันนี้จะขอศาลอาญามีนบุรี ออกหมายจับ 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ เเละครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต คาดว่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากคนร้ายไม่ได้วางเเผนล่วงหน้า กระทำความผิดเพียงผู้เดียว เมื่อก่อเหตุก็หลบหนีทันทีตามสัญชาตญาณ และเชื่อว่ายังหลบหนีในพื้นที่
ทั้งนี้ตนขอฝากไปถึงผู้ที่กำลังให้ที่หลบซ่อนตัวเเก่ผู้ร้าย หากศาลอนุมัติหมายจับเเล้ว จะมีความผิดฐานให้ที่พักพิง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า คนร้ายหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องใช้ความระมัดระวัง ในการจับกุมตัว ถ้าหากคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ ทางตำรวจก็มีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัวตามกฎหมาย
นายธนากร มุสตอฟาดี อายุ 40 ปี น้องชายคนรองของผู้ก่อเหตุ เเละเป็นพี่ชายของผู้ตายทั้งสองคน เปิดใจกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ที่ผ่านมาน้องชายทั้ง 2 คนกับพี่ชายคนโต มักจะมีปัญหาเรื่องที่ดินมรดกซึ่งตกลงกันไม่ลงตัว เเละมักจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง กลายเป็นปัญหาที่สั่งสมกันมานาน ซึ่งปมเหตุในการฆาตกรรมนอกจากเรื่องที่ดินก็คือเรื่องรถ โดยน้องชายคนที่ 4 คือนายวีระชัย ได้รับรถกระบะจากพ่อ 1 คัน เเล้วขายต่อให้พี่ชายคนโต ในราคา 70,000 บาท แต่พี่ชายจ่ายเพียง 7,000 บาท และขอผ่อนเดือนละ 500 บาท เเต่ก็ไม่ได้ผ่อนต่อ ทำให้บาดหมางกันเรื่องรถดังกล่าว
ส่วนลักษณะนิสัยของนายวีระชัย เป็นคนเงียบ ๆ ส่วนน้องชายคนที่สาม เเละพี่ชายคนโตคนก่อเหตุ เป็นคนใจร้อน โดยที่ผ่านมาน้องชายคนที่สาม กับพี่ชายคนโต เคยมีปากเสียงถึงขั้นชกต่อยกันมาเเล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะที่ผ่านมาตนก็เหมือนกับคนกลาง คอยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง ก็เข้าใจทั้งสองฝ่าย เพราะทุกคนก็ต่างมีเหตุผลของตัวเอง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ให้ตนติดต่อไปหาพี่ชาย ตนก็ยังติดต่อไม่ได้ เพราะพี่ชายไม่ได้นำโทรศัพท์ไปด้วย ทั้งนี้หากพี่ชายดูข่าวนี้ ก็ขอให้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เพราะอย่างน้อย "เราก็พี่น้องกัน จะได้เห็นหน้ากันอีก"
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ยังได้พูดคุยกับลูกชายของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน คือ น้องฟารุก อายุ 18 ปี เป็นลูกชายของนายศรายุทธ เเละน้องล็อก อายุ 16 ปี เป็นลูกชายของนายวีระชัย ทั้งสองคนได้ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ได้ขับรถจักรยานยนต์ไปส่งพ่อที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อเคลียร์กันเรื่องค่ารถ เมื่อไปถึงพบว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในบ้าน พ่อของตนจึงตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้าน ในทำนองว่า "ออกมาเคลียร์กัน จะได้จบ ๆ" เเต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมเเละตะโกนด่ากลับออกมาจากบ้านเสียงดังมาก
จากนั้นน้องฟาริก กับน้องล็อก ก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน เเต่ระหว่างทางที่กำลังขี่กลับ น้องล็อก ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด ตอนนั้นคิดว่าคงเกิดเหตุร้ายเเล้วเเน่ จึงรีบเลี้ยวรถกลับ เเต่จังหวะที่กำลังเลี้ยว เห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์สวนออกมาด้วยความเร็ว จึงรีบไปยังจุดเกิดเหตุ
เมื่อไปถึงก็พบว่าพ่อกับลุง ถูกยิงนอนอยู่ที่พื้นเเล้ว ตอนนั้นพ่อยังหายใจอยู่ เเต่ไม่สามารถพูดอะไรได้เเล้ว น้องล็อกจึงได้ตะโกนเรียกชาวบ้านในละเเวกนั้นให้ช่วยกันโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล ซึ่งตนรู้สึกโกรธมาก "ผมไม่กล้าพูดว่าพี่น้อง เพราะพี่น้องเขาไม่ทำกันเเบบนี้ ขอตัดขาดไม่นับญาติ ซึ่งพ่อผมถูกฆ่า หากผู้ก่อเหตุเป็นคนอื่น ก็คงจะไม่สียใจขนาดนี้ เเต่นี่เป็นพี่น้องเเท้ ๆ ที่คลานตามกันมา ผมให้อภัยไม่ได้"