จากกรณี เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.63) น.ส.เล็ก อายุ 19 ปี ชาวสปป.ลาว ถูกกระแสไฟฟ้าดูดเสียชีวิต ภายในบ้านพัก ซอยบัวคล้าย ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี สภาพศพมือกำปลั๊กไฟความยาว 2 เมตร วางไว้ที่หน้าอก ที่บริเวณต้นขาขวามีมือถือที่เสียบกับสายชาร์จทิ้งไว้ ใกล้เคียงผู้ตายมีกองเสื้อผ้าวางไว้บนกระเป๋าใบใหญ่
เบื้องต้น คาดว่าผู้ตายหยิบปลั๊กไฟจะชาร์จมือถือ แต่ถูกไฟช็อตเสียก่อน จากนั้นได้มอบหมายให้มูลนิธิปอเต็กตึ้งนำศพส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบการเสียชีวิตอีกครั้ง
วันที่ 27 พ.ค.63 น.ส.นางสาวภูวัน พิมทอง เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่า ได้เดินไปเรียกผู้ตายที่ห้องแต่เจ้าตัวไม่ตอบตั้งแต่ช่วงเที่ยงจนเย็น และไม่เดินออกมาจาห้องเลย จึงแจ้งเจ้าของบ้านบอกว่าให้พังประตูเข้าไป พอพังประตูเข้าไปเจอผู้ตายอยู่ในสภาพนอนหงายโดนไฟช็อตจึงรีบไปถอดปลั๊ก ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบว่าที่ตัวผมของผู้ตายยังเปียกอยู่ จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นสาเหตุของการโดนไฟดูด
ด้าน นางเปี้ยว พรหมมาสิง อายุ 32 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า ก่อนเกิดเหตุน้องสาวอยู่ที่ห้อง เพราะไม่ได้ทำงานเนื่องจากโควิด-19ระบาด ไม่เคยคิดว่าน้องสาวจะเสียชีวิตแบบนี้ และเมื่อคิดย้อนกลับไปมีหลายเรื่องที่คล้ายเป็นลางร้าย โดยเมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา น้องสาวมีใบหน้าที่หมองคล้ำมากเหมือนคนมีเคราะห์
และในคืนวันที่ 25 พ.ค. คืนก่อนเกิดเหตุ น้องสาวดื่มเหล้าจนเมา และเดินมาโอบกอดพร้อมกับพูดว่า "รักพี่นะ ๆ" ซึ่งได้ตอบกลับไปว่า "กูก็รักมึงเหมือนกัน" ซึ่งเป็นเรื่องแปลกเพราะน้องสาวไม่ค่อยจะพูดคำนี้ และที่ผ่านมาเคยเตือนน้องสาวว่าอย่าใช้ปลั๊กที่ชำรุดเพราะอันตราย
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเสียชีวิตน้องไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุมากกว่า คาดว่าตอนเกิดเหตุนั้นน้องสาวเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และออกจากห้องน้ำด้วยร่างกายที่เปียก และมาจับปลั๊กไฟจนถูกไฟช็อต