เปิดนาทีผัวฆ่าเพื่อน 2 คนให้เมียถูกรุมโทรมทืบศพ สุดโหดก่อนเผาตีซ้ำดันฟื้น (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายวิรัตน์ ผู้ต้องหาฆ่าเผา 2 ศพ ริมบ่อขยะเทศบาลนครหาดใหญ่ หมู่ 3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื่องจากแค้นเพื่อนที่ลวงภรรยาไปข่มขืนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง จนภรรยาเสียสติ หลังนายวิรัตน์ วางแผนนัดแนะเพื่อนออกมาดื่มสุรา กระทั่งลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเพื่อน 2 คนจนเสียชีวิต ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 27 พ.ค.63 พ.ต.อ.เอนก ศรีคำอ้าย รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา และพ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.หาดใหญ่ พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนและฝ่ายปราบปรามทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 30 นาย ได้ควบคุมตัวนายวิรัตน์ แก้วทองพันธ์ หรือแวว อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาออกจากห้องขัง สภ.หาดใหญ่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างละเอียดรวม 4 จุด

โดยการนำตัวไปทำแผนมีการปิดเป็นความลับสูงสุด เพื่อป้องกันเหตุความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการทำแผน โดยเฉพาะญาติของผู้เสียชีวิตที่อาจจะโกรธแค้น ซึ่งเหตุการณ์ฆ่าเผาสองศพเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 24 พ.ค.63 จุดแรกได้นำตัวไปทำแผนที่บ้านพักของ นายวิรัตน์ เลขที่ 73 หมู่ 4 ต.ควนลัง ซึ่งเป็นจุดที่ใช้อาวุธปืนยิง นายอนุชา สุภานิตย์ อายุ 27 ปี หรือปุณ และนายประเสริฐ ธรรมรักษา อายุ 20 ปี หรือบอย จนเสียชีวิต

จุดที่ลงมือยิงอยู่บริเวณหลังบ้าน ขณะที่นายอนุชา และนายประเสริฐ นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อน และนายวิรัตน์ ถามเรื่องที่ทั้งสองคนไปข่มขืนเมีย ซึ่ง 2 คนก็ยอมรับ จึงไปหยิบอาวุธปืนที่ซ่อนไว้ในห้องน้ำหลังบ้าน ออกมากระหน่ำยิงทั้งสองคนพร้อม ๆ กัน จำนวน 3 นัด จนกระเด็นตกจากเก้าอี้ม้าหินอ่อน และขณะที่ยิงก็มี น.ส.โอ๋ ภรรยาของนายวิรัตน์ อยู่ในบ้านด้วย และยังเดินออกมาใช้เท้าเขี่ยร่างของทั้งสองคนเพื่อดูว่าเสียชีวิตแล้วหรือไม่

จากนั้นจึงอุ้มร่างทั้งสองคนขึ้นรถกระบะ ทะเบียน ขว 900 สงขลา โดยใช้เบาะลมห่อร่างทั้งสองคนไว้ท้ายรถกระบะ และนำโทรศัพท์มือถือไปเผาทำลายที่หน้าคอกวัวหลังบ้าน นอกจากนี้ที่บริเวณหลังบ้านยังพบจุดที่นายวิรัตน์ ซ้อมยิงปืนโดยใช้ผนังคอกสัตว์เก่าในการซ้อมยิง มีกระสุนปืนเป็นรูพรุน

ถัดมาได้ควบคุมตัว นายวิรัตน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่สอง ซึ่งเป็นจุดที่นำศพไปเผาทิ้งข้างบ่อขยะพื้นที่หมู่ 3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ อยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร

โดยนายวิรัตน์ ได้ถอยรถกระบะเข้าไปในชายป่า และลากร่างทั้งสองคนลงมากองรวมกัน และใช้ท่อนไม้สุมร่างและเบาะลมห่อหุ้มร่าง แต่ก่อนที่จะจุดไฟเผาปรากฏว่า นายอนุชา ยังไม่เสียชีวิตและสะดุ้งตัวขึ้นมา 1 ครั้ง นายวิรัตน์ จึงได้ใช้ท่อนไม้ขนาดใหญ่ตีไปที่ศีรษะซ้ำอีกหลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิต และใช้ไฟแช็กจุดไฟเผา และขับรถออกมาแต่กันชนรถได้ชนกับก้อนหินเสียหายด้วย

ส่วนจุดที่ 3 เป็นจุดที่ขับรถออกมาจากจุดที่เผา ขึ้นมาบนถนนอนุสรณ์ 200 ปี และผ่านกล้องวงจรปิดที่หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งที่จับภาพรถกระบะเอาไว้ได้ อยู่ห่างจุดที่เผาศพออกมาประมาณ 300 เมตร

ส่วนจุดที่ 4 เป็นจุดที่ขับรถยนต์กระบะไปถอดฝาครอบกระบะท้ายที่เปื้อนเลือด รวมทั้งถอดกันชนหน้าที่ชนก้อนหินเสียหาย แล้วจุดไฟเผา ซึ่งอยู่บริเวณคอกเลี้ยงหมูกลางทุ่งนาของญาติที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านหูแร่ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ ซึ่งจุดนี้อยู่ห่างจากจุดที่นำศพไปเผาประมาณ 10 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม การทำแผนผ่านไปด้วยความเรียบร้อย โดยใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง โดยไม่มีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากชาวบ้านแทบไม่มีใครรู้เรื่องว่ามีการนำตัวไปทำแผน และเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี ที่สำคัญนายวิรัตน์ ให้ความร่วมมือทุกขั้นตอนอย่างละเอียด

ทั้งนี้หลังทำแผนเสร็จผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสอบถามความรู้สึกของนายวิรัตน์ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยตอบเพียงสั้น ๆ ว่า ยังรู้สึกแค้นผู้เสียชีวิตและเพื่อนที่ข่มขืนภรรยาของตน และยังบอกไม่ได้ว่า หากตนไม่ถูกจับกุมจะมีใครเสียชีวิตเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพราะมีคนอื่นอีกที่รุมโทรมภรรยาของตน 

นอกจากนี้หลังทำแผนแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายวิรัตน์ ไปควบคุมตัวที่ สภ.หาดใหญ่ทันที เพื่อรอฝากขังที่ศาลจังหวัดสงขลา ในวันที่ 28 พ.ค.63