เปิดใจ! สาวเจอเมือกปริศนาในช่องคลอด ปัดไม่ใช่แผ่นอนามัยหลุดคา - หมอชี้ไม่ใช่เชื้อยีสต์ (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "เจ้าแม่ผิวขาว เกอิชา Thailand" โพสต์ภาพพร้อมข้อความ เตือนภัยสำหรับผู้หญิง ระบุว่าตัวเองมีอาการคันในช่องคลอด และแสบเวลาปัสสาวะ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่ากระเพาะปัสสาวะอักเสบ จึงให้ยามากินรักษาอาการ แต่ไม่ดีขึ้น ทั้งยังพบเยื่อสีขาวอยู่ในช่องคลอด จนต้องทำการเบ่ง และเขี่ยออกมา พบเยื่อดังกล่าวเป็นแผ่นสีขาวขนาดใหญ่ กว้าง 3 เซนติเมตร ยาว 8 เซนติเมตร ซึ่งเจ้าตัวเมื่อเห็นเยื่อสีขาว ได้ตกใจเป็นอย่างมาก จากการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต คาดว่าตนเองน่าจะติดเชื้อจากยีสต์ในช่องคลอด ส่วนสาเหตุไม่ทราบแน่ชัด คิดว่าน่าจะเกิดจากเชื้อโรคสกปรก เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะ

ล่าสุด วันนี้(14 พ.ย.60) ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ คุณแป๋ม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้โพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าว เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนมีอาการคันบริเวณช่องคลอด จึงไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่รัฐปีนัง ทีมแพทย์ตรวจวินิจฉัยโรค ด้วยการตรวจแปปสเมียร์ อัลตร้าซาวด์ช่องคลอด พร้อมกับตรวจปัสสาวะ ซึ่งผลออกมาพบเชื้อแบคทีเรียในปัสสาวะ ทำให้ตนเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทางแพทย์ได้ให้ยามากินชงกับน้ำ และให้ยาสอดมาใช้รักษาโรค หลังกินยาอาการแสบ และคันที่บริเวณช่องคลอดดีขึ้น แต่ยังคันอยู่บ้าง จึงได้สอดยาไป 1 เม็ด วันรุ่งขึ้นรู้สึกว่าคันน้อยลง แต่อาการแสบปัสสาวะยังคงมีอยู่ ยอมรับว่าจิตตก เพราะยาทานหมดลง ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงไปหาเภสัชกรเพิ่ม ทางเภสัชบอกว่า ยาที่แพทย์ให้มาก็แรงแล้ว จึงแนะนำให้กินแครนเบอรี่เสริม เพราะจะช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซมกำแพงช่องคลอด และกำแพงท่อปัสสาวะ ภายหลังที่ตนกินแล้วอาการแสบคันก็ดีขึ้น

คุณแป๋ม เปิดใจอีกว่า หลังใช้ยาสอด เริ่มหายคัน แต่หลังจากนั้น 2-3 วัน อาการคันกลับมาอีกครั้ง แฟนจึงหาข้อมูลพบว่า อาการดังกล่าว คล้ายกับเป็นโรคยีสต์อินเฟรคชั่น การติดเชื้อจากยีสต์ จึงกลับไปหาเภสัชกร ซึ่งเภสัชกรได้แนะนำให้ซื้อตัวยาพรีไบโอติกและให้ทานนมเปรี้ยว พร้อมกับให้กลับมาสอดยาให้ครบ เนื่องจากหากสอดไม่ครบจะทำให้เชื้อดื้อยา ขณะที่ตนสอดยาเข้าไปได้ส่องกระจก พร้อมกับใช้ไฟฉายส่องบริเวณอวัยวะเพศ ไม่พบเม็ดสีขาว แต่พบว่ามีเยื่อสีขาวที่แห้งมาแทน จึงต้องใช้สำลี คัตเติ้ลบัตชุบน้ำเช็ดออก พอตนเขี่ยเยื่อสีขาวก็หายไป วันถัดมาตนส่องกระจกดูอีกครั้ง พบเยื่อสีขาวเป็นก้อนอยู่ในอวัยวะเพศ จึงลองเบ่งคล้ายกับคนคลอดลูก เพื่อให้ปากมดลูกเปิดกว้าง และใช้นิ้วดึงเยื่อสีขาวออกมา แต่เยื่อดังกล่าวขาด ทำให้ต้องเบ่งแรงกว่าเดิม ปรากฎว่าแผ่นเยื่อดันออกมา จึงใช้นิ้วหยิบแผ่นเยื่อ แล้วถ่ายคลิปส่งให้แม่ที่อยู่ประเทศไทยได้ดู คุณแป๋มกล่าวถึงอาการล่าสุดว่า ไม่มีเยื่อสีขาวตกค้างด้านในแล้ว เหลือเพียงแผลคล้ายกับแผลร้อนใน เกิดขึ้นบริเวณโดยรอบอวัยวะเพศ

ส่วนกรณีที่สังคมออนไลน์มาแสดงความเห็นว่า ลักษณะเยื่อสีขาวคล้ายกับแผ่นอนามัย ตนยืนยันว่าลักษณะอาจคล้ายกัน แต่ว่าไม่ใช่แผ่นผ้าอนามัย เพราะเยื่อที่ออกจากช่องคลอดจะมีเมือก ไม่ได้ใหญ่เท่ากับแผ่นอนามัย สำหรับเหตุผลนำคลิปมาเผยแพร่ เพราะอยากรู้ว่า มีใครเป็นแบบตนบ้างหรือไม่ เพราะหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ไม่พบข้อมูล อย่างไรก็ตามอยากเตือนผู้หญิงเวลาที่เข้าห้องน้ำ เนื่องจากตนอาศัยอยู่ที่รัฐปีนัง ห้องน้ำค่อนข้างสกปรก และสายยางไม่มีหัวฉีด ถ้าจะล้างอวัยวะเพศ ต้องนำสายยางมาจ่อใกล้อวัยวะเพศ

ทางด้าน แพทย์หญิงสุพรรณี คูณแสง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติ-นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลยันฮี เปิดเผยว่า ตกขาว คือสิ่งที่ออกมาจากช่องคลอดผู้หญิงตามปกติ ซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างกันไป ส่วนภาพที่มีการโพสต์ในสังคมออนไลน์ พบว่าเป็นแผ่นสีขาวแห้งๆ ต้องพิสูจน์เพื่อความชัดเจน ควรส่งตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ว่ามีการติดเชื้อราหรือไม่ การติดเชื้อทางเชื้อรา หรือยีสต์ ปกติจะมีลักษณะเป็นก้อนสีขาวๆ หรือเป็นคราบ แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นแผ่นแห้งเหมือนในภาพ จึงต้องสืบประวัติผู้โพสต์ว่าเคยใช้ยาสอด หรือใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหรือไม่ เพราะบางครั้งยาสอดที่ละลายไม่หมดอาจมีลักษณะคล้ายสิ่งแปลกปลอมที่เห็นในภาพได้ และผ้าอนามัยแบบสอด ที่ใช้ไปนานๆ อาจจะมีเศษบางส่วนหลงเหลืออยู่ แพทย์หญิงสุพรรณี เปิดเผยว่า ส่วนการติดเชื้อรา มีสาเหตุมาจากสภาวะอับชื้นของช่องคลอด เช่น ใช้ผ้าอนามัยมากเกินไปจนเกิดความอับชื้นเรื้อรัง หรือกลุ่มคนไข้ที่ใช้ยาฆ่าเชื้อโรคเป็นเวลานาน ทำให้แบคทีเรียในช่องคลอดถูกทำลายไปด้วย โดยเชื้อรามักจะมาจากอาการคัน มีตกขาวมากขึ้น ลักษณะสีของการตกขาวจากเชื้อรา จะมีสีขาวคล้ายโยเกิร์ต การติดเชื้อดังกล่าวจะสร้างความรำคาญ มีอาการระคายเคืองเฉพาะที่ ไม่ได้อันตรายถึงชีวิตแต่อย่างใด ส่วนการกินอาหารเสริมไม่น่าจะส่งผลให้เกิดตกขาวแบบในภาพ ปกติตกขาวทั่วไปจะลักษณะเหมือนแป้งเปียก สีขาวขุ่น บางครั้งเป็นมูกใส เวลาไข่ตก หลังมีรอบเดือนอาจสีเข้มขึ้น แต่หากตกขาวมีสีแปลก ควรเข้ารับการตรวจจากสูตินารีแพทย์เพื่อรักษาอาการต่อไป