จากกรณีน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพักพัก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 จนไปพบศพกลางป่าบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 5 กม. กระทั่งผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ พบบาดเเผลที่อวัยวะเพศ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอแฝง ด้านทีมข่าวไปพบเสื้อลายพรางถูกเผา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบรถแบกโฮของเล่น ประมาณ 200 เมตร นอกจากนี้ยังมีหมอธรรมออกมาทำนายจุดซ่อนหลักฐานมากมาย แต่ก็ยังหาไม่พบ
อ่านข่าวน้องชมพู่เพิ่มเติม
- เจอหลักฐานอีก! ผ้าลายพรางถูกเผาใกล้ศพ “ชมพู่” เผยเส้นทางฆ่าจ่อจับฆาตกร
- ดูที่แรก! พิสูจน์ 8 ชายสวมแหวนเทียบตกข้างศพ “ชมพู่” เจอนิ้วก้อยมีปัญหาถ้าใส่ฆ่า
- เก็บ “ขนเพชร” หา DNA คนฆ่าชมพู่ วุ่นเจอเสื้อลายพรางพรึ่บ เหมือนที่ใกล้ศพ
- เจออีกถ้ำที่ 4 คาดซ่อนเสื้อชมพู่ ผู้ต้องสงสัยรับเคยมา “หมอตาทิพย์” ชี่ไหว้ขันธ์ 5
- เจออีกถ้ำลับ 2 ที่ ! ชาวบ้านงงเพิ่งเห็น แม่ชมพู่ท้าหมอตาทิพย์ชี้พิกัดซ่อนเสื้อให้ชัด
ล่าสุดวันที่ 29 พ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังที่ถ้ำ 3 เพื่อทำพิธีตามขั้นตอนของหมอธรรม ปรากฏทีมข่าวไปพบถ้ำที่ 7 อยู่ที่ระหว่างของชั้นที่ 4 และ 5 ห่างจุดพบศพราว 200 เมตร
ลักษณะปากทางเข้าถ้ำ ความสูงไต่ระดับจาก 1 เมตร ลดลงไปจนถึง 60 ซม. จากนั้นต้องย่อตัวลงเดิน และคลานเข้าไปในถ้ำลึกราว 20 เมตร ช่วงปลายถ้ำมืดไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะถ้ำแคบลงเรื่อย ๆ แต่เมื่อส่องไฟเข้าไปก็ไม่พบร่องรอยอะไร ส่วนหน้าถ้ำมีกอไผ่ป่า 2 กอ ไม่พบต้นงิ้ว ที่หน้าถ้ำมีหินจำนวนมาก
สำหรับหลักฐานทั้งหมดที่พบเจอมีดังต่อไปนี้
วันที่ 14 พ.ค.63 พบรองเท้า ห่างจากศพ 4 เมตร และกางเกงขาสั้น ห่างจากศพ 8 เมตร
วันที่ 15 พ.ค.63 พบแหวนสแตนเลส ห่างจากศพ 3 กม. และสายเปลสีฟ้า ห่างจากศพ 3 กม.
วันที่ 23 พ.ค.63 พบรถของเล่น ห่างจากศพ 300 เมตร
วันที่ 24 พ.ค.63 พบเศษผ้าลายพรางถูกเผาทิ้ง ห่างจากศพ 500 เมตร
วันที่ 29 พ.ค.63 พบกุญแจรถจักรยานยนต์ ห่างจากศพ 200 เมตร
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอนามัย-นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อแม่น้องชมพู่ ซึ่งวันนี้โชว์พระปิดตาเนื้อว่าน จากเซียนพระที่เดินทางมาจากเมืองมุกดาหาร อีกทั้งทีมข่าวนำภาพพวกกุญแจให้พ่อแม่ดู เปิดเผยว่า ภาพกุญแจรถตนไม่คุ้นเลย เพราะส่วนใหญ่คนที่ขับรถมาก็จะถอดกุญแจเก็บเข้าใส่กระเป๋า จึงไม่แน่ใจว่าของใคร
ส่วนวันนี้มีเซียนพระที่ระบุว่า เป็นลูกศิษย์ของพระที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น นำพระปิดตามามอบให้ครอบครัว และบอกว่า ให้คนที่ไปป่าถือพระองค์นี้ไปด้วย และไปทำพิธี โดยไปที่จุดพบศพน้อง จุดธูปเปิดตาฟ้าดิน บอกแม่ธรณี จากนั้นให้นำด้านที่จุดธูปปักลงดิน โดยบอกว่า 15.00 น. ของวันที่ 30 พ.ค.63 จะเจอข่าวดี
ทั้งนี้ข่าวดีที่ว่าไม่ได้บอกว่าเป็นอะไร จะเป็นการจับคนร้าย หรือเจอเสื้อ พ่อแม่ก็ดีใจ สบายใจมากขึ้น ซึ่งตอนแรกเซียนคนนี้ก็บอกให้พ่อขึ้นไป แต่ตนขึ้นไปไม่ไหว เซียนพระจึงบอกว่า ให้คนอื่นไปทำก็ได้ แต่ต้องนำพระองค์นี้ไปด้วย
ส่วนตัวไม่รู้หากทำแล้วจะเจออะไรหรือไม่ แต่คือกำลังใจให้กับตน ส่วนเรื่องคดีตอนนี้ตนยังไม่มีอะไรทราบเพิ่มเติม พวกตนก็ได้ไปสอบปากคำหลายครั้งแล้ว ตนก็ยังไม่ได้ถามตำรวจ ส่วนตัวมีความกังวลบ้าง เรื่องเกี่ยวกับการจับแพะ เพราะตอนนี้ไม่รู้คนร้ายเป็นใคร ส่วนตัวลึก ๆ ก็ไม่อยากให้เจอเสื้อน้อง ตนอยากให้จับคนร้ายให้ได้ก่อน เมื่อจับคนร้ายแล้ว เชื่อว่าคนร้ายจะพาไปชี้จุดได้ว่าเสื้อซ้อนอยู่ไหน และจะได้พิสูจน์ว่าไม่ใช่การจับแพะ
นอกจากนี้เมื่อคืนนี้ฝนที่บ้านตกช่วง 02.00-03.00 น. ตนนอนหลับไปแล้วก็ได้ยินเสียงเด็กคล้ายเสียงน้องชมพู่ มาร้องเรียน "แม่ แม่ แม่" เสียงดังมาจากป่ามันสำปะหลัง ตนก็สะดุ้งตื่นมานั่งคิด ตอนนั้นคิดว่าลูกคงมาหา มาบอกว่ากำลังโดนอุ้ม และตกใจ เพราะหากน้องชมพู่ถูกอุ้มไป คงต้องพยายามร้องเรียกแม่ให้ช่วย ซึ่งปกติน้องจะไม่ร้องไห้ จะเรียกให้แม่ช่วยอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนตนออกมาหน้าบ้าน เพื่อมาดูตามเสียง ตนไม่เห็นอะไรเลย ไม่มีเสียงเด็กร้องจากบ้านอื่น และก็นั่งเศร้า เป็นห่วงลูกขึ้นมา จนเช้าตนเพิ่งมานึกได้ว่าวันนี้คือวันพระ เนื่องจากวันเจอศพน้องเป็นวันพระ อาจจะเป็นไปได้ที่น้องมาเรียกหาแม่ ส่วนตัวเชื่อว่าลูกคงมาใกล้บ้านแล้ว อยากบอกกับลูกว่า ขอให้ไปสบาย ไม่ต้องห่วง ขอให้ไปสวรรค์ไม่ต้องรอให้จับคนร้ายให้ได้ น้องจะได้ไปเกิดใหม่