อีกหนึ่งสาวที่ถึงกลับยอมพลิกบทบาทมารับเล่นภาพยนตร์แนวใหม่ที่ชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะพูดคำหยาบเยอะขนาดนี้ สำหรับ “แพนเค้ก เขมนิจ” เจ้าตัวบอกว่าถือเป็นการปลดปล่อย ได้ทำอะไรใหม่ ยอมรับว่าการทำงานกับพี่พชร์เรียกว่าเครียดเลยทีเดียว เพราะเป็นหนังที่ไม่มีบท ทุกอย่างสดใหม่ไปหมด แต่ก็พยายามศึกษาวิธีการใช้คำหยาบให้สนุกจากพี่ๆในกองมาปรับใช้จนรู้สึกสนุกไปกับมัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สุดมากกก...ก!! “แพนเค้ก” รู้สึกท้าทายได้ร่วมงาน "แน็ก ชาลี" หนัง "พชร์ อานนท์"
“แพนเค้ก เขมนิจ” เปลี่ยนสวนผักเป็นรันเวย์ เปิดโชว์พิเศษสับขาเดินแบบ!!
จริตบังแดดสุดแซ่บกลางเมืองมิลานของ “แพนเค้ก-เขมนิจ”
“แพนเค้ก เขมนิจ”ทำข้าวเหนียวหมู ส่งให้คุณหมอและพยาบาล!!
“พชร์ อานนท์” เผยพร้อมสแตนบายนับวันรอรัฐปลดล็อกโรงหนัง 3 มิถุนายนนี้มาแน่...... เชื่อ "พจมานสว่างคาตา" ฮากว่าที่คิด
เมื่อถามถึงโมเมนต์หวานๆในช่วงวันเกิดครบ 32 ปีบริบูรณ์เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา สาวแพนเค้กก็บอกว่าเป็นมื้อเรียบๆฉบับครอบครัว ยังไม่ถึงขั้นมีการขอแต่งงานตามที่หลายคนลุ้นแน่นอน แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาคอมเมนท์เชียร์ทั้งคู่ ทั้งนี้ที่ยังไม่ตกลงปลงใจแต่งกันก็เพราะตนยังโฟกัสที่เรื่องเรียนอยู่ อยากให้ผ่านไปเป็นเรื่องๆ
พร้อมกันนี้ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสำเร็จอีกขั้นของน้องชาย “พัตเตอร์” ที่เพิ่งจะได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการฝึกอบรม หลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (หลักสูตร กอส.) โดยจะเข้ารับการฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-1 ตุลาคม 2563 นี้ว่าเป็นเรื่องราวดีๆที่ทั้งตนและครอบครัวล้วนภูมิใจมากๆ เพราะน้องชายเองก็ตั้งใจสุดๆแถมยังได้คำแนะนำดีๆจาก “สารวัตรหมี” แฟนหนุ่มของเธอแบบจัดเต็มตลอดอีกด้วบและยืนยันว่าไม่มีการใช้สิทธิพิเศษจากใครแต่อย่างใด
เรียกว่าเป็นหนังเรื่องแรกของตัวเองที่พูดคำหยาบ?
“ดีค่ะ มันเป็นการปลดปล่อยดี จริงๆ ต้องขอบคุณพี่พชร์(อานนท์)ด้วยที่ให้โอกาสเราได้ทำอะไรใหม่ๆ โดยที่เขาก็ไม่คิดว่าเราจะทำได้หรือทำไม่ได้ เขาจะบอกว่าเอาอย่างงี้ พูดอย่างงี้ ช่วยกันคิดช่วยกันดูว่าควรจะเป็นในรูปแบบไหน หรือแม้กระทั่งมุขต่างๆ แพนอาจจะไม่ได้เล่นเยอะเท่าพี่รงค์ พี่โก๊ะ แต่ว่าเราก็มาเป็นพาร์ตหนึ่งตรงนั้น ซึ่งแพนรู้สึกว่าเราไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน”
รู้ก่อนไหมว่าต้องพูดคำหยาบ หรือว่าไปรู้ที่หน้ากองเลย?
“พอเป็นพี่พชร์แล้วก็สไตล์ของเรื่อง เรารู้สึกว่ามันคงเป็นแนวแบบคอมเมดี้สนุกๆ แบบนี้อยู่แล้ว เลยไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเป็นอะไรยังไง คือเหมือนกับไปเรียนรู้กันในกองเลย”
เครียดไหมที่ต้องพูดคำหยาบ?
“มันเครียดตรงที่ว่าแต่ละวันที่เราถ่ายเราไม่รู้ว่าเราต้องทำอะไรบ้าง(หัวเราะ) ไม่มีบท วันนี้พี่พชร์จะทำอะไรคะ จะถ่ายซีนอะไร แล้วซีนนี้ ให้ทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ อย่างวันแรกที่ไปถ่ายก็คือต้องขึ้นโต๊ะเลย แล้วก็ต้องปลดเสื้อปลดผม เราก็แบบโห! พี่พชร์เอาอย่างนี้เลยเหรอ แกก็บอกว่าเอาเลย แพนเค้กเต็มที่ เอาแบบสุดๆ ไปเลย เราก็รู้สึกว่าคำของพี่พชร์มันกว้างมาก มันยากตรงการปรับตัวก็มีงงๆ ไปเหมือนกัน”
ต้องฝึกให้คล่องปากยังไงบ้างสำหรับคำหยาบที่ตัวเราไม่คุ้นเคย?
“ดูเวลาที่พี่ๆ เขาพูดกัน ดูวิธีการใช้คำ พอเราไม่ได้พูดเราก็จะรู้สึกว่าเราไม่กล้าพูดคำนั้นคำนี้ แต่พอเราฟังเขาพูดมันก็สะใจดีเหมือนกัน(หัวเราะ)”
เคยมีแบบต่อรองว่าฉากนี้ไม่เอาแบบนี้ได้ไหมบ้างหรือเปล่า?
“ไม่ได้บอกเขาอ่ะค่ะ คิดว่าก็ตามสมควร แกก็คงดูผ่านหน้าจอว่าเราได้ประมาณไหนโอเคหรือไม่โอเค ทุกอย่างอยู่ในการดูแลของพี่พชร์อยู่แล้ว”
พอได้เห็นตัวเองในลุกส์นี้แล้วเป็นยังไงบ้าง?
“เอาจริงๆ ยังไม่ได้เห็นในเรื่องเลย ตอนนี้คือทำหน้าไม่ถูกว่าเดี๋ยวพอออกมาในเรื่องแล้วแบบจะเป็นยังไงบ้าง”
ปกติเป็นคนไม่พูดคำหยาบเลยใช่ไหม?
“เรียกว่าไม่ได้พูดบ่อยอย่างนั้นดีกว่า”
หวั่นใจไหมว่าเดี๋ยวหนังมันจะเข้าฉายในวันพรุ่งนี้(3มิ.ย.)แล้ว แต่คนอาจจะยังไม่กลเาออกมาดู?
“จริงๆ ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าเป็นช่วงเวลาที่คนอาจจะต้องการเสียงหัวเราะ ต้องการความสุข ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้เต็ม 100% เหมือนอย่างเดิมที่คนสามารถมาโรงหนังกันได้เยอะแยะ แต่แพนก็คิดว่าถ้าอยากมาดูแบบจอใหญ่ๆ ก็อยากให้มาที่โรงภาพยนต์กัน แล้วที่นี่เขาก็เตรียมการในการป้องกันทุกอย่างอย่างเต็มที่ คิดว่ายังไงก็โอเคแน่นอน”
ถามถึงวันเกิดที่ผ่านมาช็อตมุ้งมิ้งเหมือนอยู่ใต้แสงเทียนกันสองคนกับพี่หมี?
“ค่ะ กินข้าวค่ะ ก่อนหน้านั้นกินกับครอบครัวก่อน แล้วก็มาทานกันสองคน เลยได้พูดคุยได้อะไรกันไปเรื่อยเปื่อย เป็นอีกมุมนึงเรียบๆ ที่เราจะชอบกันแบบนี้”
หลายคนก็ลุ้นว่าจะมีโมเมนต์มากกว่านั้นหรือเปล่า?
“ยังค่ะ ตอนนี้เราก็รอเรื่องเรียนก่อน หมายถึงว่ารอโฟกัสไปทีละเรื่องดีกว่า เพราะยังไงเหมือนเราก็ได้ดูแลกันตลอดเรื่อยๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นเราก็อยากให้เรื่องที่เราทำผ่านไปเป็นเรื่องๆ ก่อนดีกว่า”
เห็นกระแสในคอมเมนต์ไหมเพราะว่ามีคนลุ้นเยอะเลย?
“ขอบคุณมากเลยค่ะ เวลาคนเข้ามาคอมเมนต์เราก็จะแบบขอบคุณค่ะ ให้มันเป็นไปตามเรื่องราวตามเวลาของมันค่ะ”
เจตนารมณ์เดิมคือตั้งใจอยากจะให้เรียนจบปริญญาเอกก่อนหรือเปล่า?
“เอ่อ...(หัวเราะ) เอาเป็นว่าไม่ได้กะเกณฑ์แล้วกัน ไม่ได้กำหนดอะไร เดี๋ยวค่อยเป็นค่อยไป”
อีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ “พัตเตอร์” น้องชายเตรียมเข้าฝึกอบรมเป็นตำรวจ?
“ตอนนี้เป็นหมวดค่ะ เป็นเรื่องราวดีๆ ในครอบครัว จริงๆ เป็นความภูมิใจของทุกคนในบ้านมากๆ ที่น้องมีโอกาสได้รับราชการ เราก็รู้สึกว่าเขาอยู่ในวัยที่เหมือนกับมีความรับผิดชอบ เขามีครอบครัว เราซึ่งเป็นพี่ยังไงก็ต้องซัพพอร์ตเขาอยู่แล้ว อย่างที่บอกว่าเป็นความภูมิใจจริงๆ เหมือนเขาได้ก้าวไปอีกสเต็ปในชีวิตการทำงานของเขา”
เขาตั้งใจกับการไปตรงนั้นยังไงบ้าง?
“เขาเตรียมตัว ตั้งใจ และเต็มที่มาก เขารู้สึกว่ามันเป็นอีกสเต็ปหนึ่งในชีวิตของเขา เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีลูกสองคนด้วย แพนคิดว่ามันก็เป็นความภูมิใจของผู้ชายคนหนึ่งที่จะได้ทำหน้าที่ในการรับราชการด้วย”
พี่หมีมีช่วยเทรนอะไรบ้างไหม?
“เยอะมากเลยค่ะ จริงๆ เรียกว่าเป็นเดอะเทรนเนอร์ได้เลย เป็นคนที่ให้คำแนะนำกับพัตเตอร์ในเรื่องของการเตรียมตัว ความพร้อมต่างๆ ซึ่งก็เหมือนเป็นพี่เลี้ยงกลายๆ มีอะไรพัตเตอร์ก็จะขอคำแนะนำตลอด”
หลายคนโฟกัสว่าความที่พี่หมีก็เป็นตำรวจด้วย จะมีเรื่องเส้นสายอะไรอย่างนี้หรือเปล่า?
“อ๋อ...ไม่ๆ เลยค่ะ กระบวนการปกติ คือด้วยตัวของเขาเองด้วยค่ะ”