กรณีชาวบ้านพรหมพิรามร้องศูนย์ดำรงธรรมขอผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกช่วยไกล่เกลี่ย ในการซื้อที่ดินมรดกครอบครัวคืนจากบุคคลที่ 3 เนื่องจากซื้อมือถือแล้วขาดส่งในราคา 27,000 บาท แต่สุดท้ายถูกกรมบังคับคดีฟ้องบังคับคดีให้ขายที่ดินมรดกของครอบครัว 4 ไร่ เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ แต่สุดท้ายบุคคลที่ 3 ซื้อไปขายในราคาที่แพงเกินที่ชาวบ้านจะซื้อคืน จึงร้องขอความช่วยเหลือในการเจราซื้อคืนในราคายุติธรรม
ล่าสุดวันที่ 5 มิ.ย.63 จ.ส.อ.พัฒณปกรณ์ ดอนตุ้มไพร เจ้าหน้าที่ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายทรงธรรม เกิดคุณธรรม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม พาลูกบ้านนำโดยนายประเสริฐ ศรีทอง อายุ 76 ปี พร้อมนางสุรีพรศรีทอง อายุ 38 ปี เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกช่วยไกล่เกลี่ยเจรากับคู่กรณีที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ทำการซื้อขายในราคาที่ถูก เนื่องจากทีดินดังกล่าวเป็นมรดกของครอบครัว
นางสุรีพร ศรีทอง ผู้ร้องเรียน บอกว่า ปี 2559 ได้ไปซื้อโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท โดยผ่อนส่งได้ 2 เดือน จากนั้นไม่ได้ส่งต่อเนื่องจากไม่มีเงินส่ง จนระยะเวลาผ่านไปร้านมือถือดังกล่าวได้ฟ้องร้องและมีหนังสือมาที่บ้านพ่อ ที่อ.พรหมพิรามหลายรอบ แต่พ่อก็ไม่รู้ว่าหนังสืออะไร จนกระทั่งเรื่องถึงกรมบังคับคดีและขายที่ดินที่ชื่อมีพ่อ พี่ชาย และตนเอง จำนวน 4 ไร่ ในราคา 5 แสนกว่าบาท เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้ในการซื้อมือถือ รวมดอกเบี้ยด้วยประมาณ 37,000 บาท
ส่วนที่ดินนั้นทางกรมบังคับคดีได้ขายไปให้บุคคลที่ 3 โดยที่ดินดังกล่าวเป็นที่มรดกอยากจะซื้อคืน แต่บุคคลที่ 3 คิดราคาไร่ละ 4 แสนบาท จำนวน 4 ไร่ เป็นเงิน 1.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่สูงตนเองก็ไม่มีรายได้อะไร อยากให้ขายในราคาที่เป็นธรรม เพื่อจะได้มีกำลังซื้อคืนกลับมา
เบื้องต้น นายอธิปไตย ไกรราช ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พร้อมกับจะนำไปรายงานให้กับนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้ช่วยเหลือเจรจาต่อรองกับบุคคลที่ 3 ในการซื้อที่ดินของครอบครัวนายประเสริฐต่อไป