จากกรณีที่มีภาพคลิปเหตุการณ์ ผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงในทะเล พื้นที่หมู่ 2 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ขับเจ็ตสกีพร้อมถืออาวุธปืน เพื่อออกไปขับไล่ชาวประมงพื้นบ้านที่เข้ามาตักลูกหอยแครง
โดยตะโกนด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือว่า "ลูกหอยแครงที่เข้ามาตักเป็นลูกหอยแครงที่ได้ซื้อมาเลี้ยง และขอความเห็นใจว่าอย่ามาตักออกไป" แต่ไม่มีใครฟัง จึงได้ใช้อาวุธปืนสั้นยิงขึ้นฟ้า เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้านออกจากพื้นที่ และบางรายกระโดดน้ำเพื่อหลบหนีเป็นชั่วโมงนั้น
ล่าสุด วันที่ 10 มิ.ย. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกนายสันติ นวลแสน หรือ อาร์ม อายุ 29 ปี บุคคลที่ยิงปืนและอยู่ในคลิปได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นเกิดเหตุ ต.ลีเล็ต อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี นายสันติ เล่าว่า ก่อนที่ตนเองจะขับเจ็ตสกี และไลฟ์สดเข้าไปขับไล่ชาวประมงพื้นบ้านให้ออกจากพื้นที่ แต่ไม่มีใครฟัง ด้วยความคับแค้นใจเพราะลูกหอยแครงที่ชาวประมงพื้นบ้านเข้ามาตักเป็นลูกหอยที่ตนเองเพิ่งซื้อจากชาวบ้านเป็นจำนวนเงินกว่า 2.2 ล้านบาท และมีหนี้ที่ทำธุรกิจมา 18 ปี กว่า 20 ล้านบาท ตนจึงได้นำอาวุธปืนขึ้นมาพร้อมกับตะโกนบอกพร้อมกับขอร้องด้วยน้ำตาว่าให้เห็นใจกันบ้าง ก่อนใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อขับไล่ไป แล้วเดินทางมามอบตัว
ตนขอฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอความเห็นใจ ขอให้ทบทวนจากทางหน่วยงานทุกหน่วย ทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง ให้เข้ามาดูแลในเรื่องนี้บ้าง ไม่ใช่จะเอาแต่เรื่องการทำกินของชาวประมงพื้นบ้านแค่มุมเดียว เพราะตนเองเป็นผู้เลี้ยง ต้องลงทุนซื้อลูกหอยมาเลี้ยง แต่ชาวบ้านไม่มีการลงทุน ส่วนทางคดีเจ้าหน้าที่ได้ตั้งขอหาการกระทำผิดไว้ คือพกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ด้านนายจิโรช เผือกเกลี้ยง อายุ 48 ปี ประธานชมรมประมงพื้นบ้าน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้จัดตั้งกลุ่มผู้เลี้ยงหอยแครงขึ้น และก็จะออกไปทำแนวเขตเลี้ยงหอยแครงนอกเหนือแนวเขต 1,000 เมตร เพื่อเป็นการกันพื้นที่ไว้ให้ชาวประมงพื้นบ้านได้ออกหาหอย และช่วงระยะหลังจากที่ทางการได้เข้ามาทำการรื้อถอนในเขต ทำให้มีชาวประมงลุกล้ำเข้ามาในเขตที่มีผู้เลี้ยงไว้ ซึ่งถ้าเป็นชาวประมงในพื้นที่ก็จะรับทราบและเข้าใจกันดี
แต่กลุ่มชาวประมงที่มาจากต่างพื้นที่ ใช้โอกาสที่ทางเจ้าหน้าที่ประกาศและรื้อถอนเข้ามาตักลูกหอยที่เลี้ยงไว้ ซึ่งกลุ่มผู้เลี้ยงแต่ละคอกจะต้องซื้อลูกหอยมาเพื่อเพราะเลี้ยง บางคนต้องกู้ยืม บางคนต้องจำนองบ้าน ขายรถ เพื่อลงทุน จึงอยากวิงวอนในเห็นใจกับผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงบ้าง
กลุ่มผู้เลี้ยงหอยในอ่าวบ้านดอนกว่า 70 คน เข้าประชุมที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายเผด็จ แซ่ลิ้ม ผู้เลี้ยงหอยรายหนึ่ง บอกว่า ชาวประมงที่จับหอยอยู่ปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นชาวประมงจากท้องที่อื่น เช่น นครศรีธรรมราช ชุมพร เพชรบุรี สุมทรสาคร ที่เข้ามาจับหอยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และล้ำเข้าไปในเขตที่มีผู้เลี้ยงหอยลงทุนซื้อลูกหอยมาเลี้ยงเพื้อเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว
โดยในกลุ่มของตนเองที่เป็นชาวท่าฉาง เตรียมตั้งท่าฉางโมเดลเพื่อปกป้องทรัพย์สินของตนเอง โดยที่ไม่ลุกล้ำเขต 1,000 เมตร แต่ก็ไม่ขอให้ใครลุกล้ำพื้นที่เลี้ยงหอยเช่นกัน ทางด้านกลุ่มผู้เลี้ยงหอยในตำบลบางชนะพื้นที่ติดต่อกัน ก็ยอมรื้อขนำ รื้อเขต 1,000 เมตร แต่ขอมีพื้นที่เลี้ยงหอยในช่วง 1,000-2,000 เมตรด้วย
ซึ่งก็สอดคล้องกับการลงพื้นที่ ของนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจากการประชุมจะได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น ร่วมกันลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจากนอกพื้นที่ และกลุ่มผู้เลี้ยงหอย และขอความร่วมมือหยุดซื้อหอย ลดความขัดแย้ง อยากให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้
Advertisement