ขสมก. ยอมถอยแล้ว ขึ้นรถเมล์ไม่ต้องสแกนไทยชนะ หากไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่มีอินเตอร์เน็ต แต่ขอความร่วมมือประชาชนใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
ดีเดย์วันแรก มาตรการ "ขึ้นรถเมล์ สแกนไทยชนะ" ของ ขสมก. ที่เข็นออกมาเพื่อควบคุมโรคโควิด-19
โดยให้ผู้โดยสารทุกคน สแกนคิวอาร์โค้ด "ไทยชนะ" ภายในรถโดยสารขสมก.ทุกคัน รวมถึงที่ทำการขสมก.
โดยขอความร่วมมือจากประชาชนสแกนเช็กอินเข้า-ออก ทุกครั้งที่ใช้บริการ
ทั้งนี้ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยได้ลองขึ้นรถเมล์ของ ขสมก. สายหนึ่ง พบว่า คนขับรถเมล์จะเปิดประตูด้านหน้าให้ประชาชนมาใช้บริการขึ้น-ลง เพียงประตูเดียวเท่านั้น ส่วนเบาะที่นั่งจะนำเชือกฟางสีแดงกั้นตรงที่นั่งติดกับทางเดิน จะให้ประชาชนนั่งติดบริเวณหน้าต่างเท่านั้น และข้างหลังเบาะที่นั่งที่มีคนนั่งอยู่ จะมีคิวอาร์โค้ด ไทยชนะติดไว้ให้ทุกเบาะ นอกจากนี้ยังมีจุดเส้นสีแดงให้กับคนที่ยืน โดยมีคิวอาร์โค้ดให้สแกนเหมือนกัน ซึ่งติดตรงภายในบริเวณด้านข้างของตัวรถ และประตูก็มีคิวอาร์โค้ดให้
เมื่อสอบถามผู้โดยสารบางส่วน ได้รับคำตอบว่า ตนให้ความร่วมมือกับมาตรการ แต่เท่าที่สังเกตเห็น บางคนไม่ได้สแกน เพราะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน และบางคนที่ยืนก็ไม่สะดวกที่จะสแกนสักเท่าไหร่ สอดคล้องกับอีกหลายคนที่ให้คำตอบเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ด้านความคิดเห็นผู้คนในสังคมออนไลน์ เรียกได้ว่า ยับ! ปัดตกมาตรการนี้ใช้ไม่ได้จริง เพราะแค่ยืนทรงตัวบนรถเมล์เฉย ๆ ยังยาก ยิ่งในเวลาเร่งด่วน ยิ่งเป็นไปไม่ได้
ล่าสุด มีการรายงานจากเพจ "ข่าวนวัตกรรมขนส่ง เดลินิวส์" ระบุว่า นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ ขสมก. ให้สัมภาษณ์ว่า หากผู้โดยสารไม่โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรืออินเตอร์เน็ต สามารถใช้บริการได้ตามปกติ ไม่ต้องสแกนคิวอาร์โค้ดแอปฯ ไทยชนะ
แต่จะขอให้เคร่งครัดปฏิบัติตามมาตรการ เช่น สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ขสมก.ไม่มีแนวโน้มให้ผู้โดยสารลงชื่อเข้าใช้บริการแบบเดียวกับ ห้างสรรพสินค้าแน่นอน เนื่องจากในแง่ปฏิบัติคงกระทำได้ยาก