อีกหนึ่งนักแสดงที่มาร่วมงานสวดพระอภิธรรมคุณตั้ว ศรัณยูในคืนที่ 2 อย่างกอล์ฟ อนุวัฒน์ ก็มีสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะคุณกอล์ฟ ถือว่าเป็นพระเอกคนสุดท้ายในการกำกับละครของคุณตั้ว อีกทั้งละครเรื่องดังกล่าวก็ถ่ายทำยังไม่เสร็จ จึงยังเจอกันอยู่ตลอดก่อนคุณตั้วจะเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยคุณกอล์ฟ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทั้งน้ำตา จนปล่อยโฮในช่วงสุดท้ายของการสัมภาษณ์ เพราะ คุณกอล์ฟ ยังทำใจไม่ได้ โดยบอกว่า ตั้งแต่ออกมาเป็นฟรีแลนซ์ ก็ทำงานกับคุณตั้วมาตลอดเป็นเวลากว่า 3 ปี เล่นละครด้วยกัน 3 เรื่อง จึงทำให้สนิทสนมกันมาก เพราะถูกชะตากัน จนสามารถยกคุณตั้วให้เป็นพ่อในวงการของตนได้เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ครอบครัวซาบซึ้งพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานเพลิงศพ "ตั้ว ศรัณยู" กรณีพิเศษ
- น้องลูกหนุน-ลูกหนัง ลูกแฝด ตั้ว ศรัณยู เศร้าหมอง ร้องไห้หนัก
- "เปิ้ล หัทยา" เผยมะเร็งตับคร่าชีวิต "ตั้ว ศรัณยู" ยังห่วงงาน-ครอบครัวจนนาทีสุดท้าย
- “รถเมล์ ” เปิดใจถึง “ตั้ว ศรัณยู” ยกให้เป็นครู เผย "ขอบคุณที่เลือกรถเมล์ เป็นนางเอกในละครพี่"
- “ตั๊ก มยุรา” โพสต์อาลัย “ตั้ว ศรัณยู” #...ส่งดาวกลับฟ้า!!
เมื่อถามว่าทราบอาการป่วยไหม คุณกอล์ฟ เผยว่าตนพยายามถามทุกคนมาตลอด แต่ไม่มีใครบอกเลย เนื่องจากหลังๆตนผิดสังเกต คุณตั้วผอมลงมากอย่างเห็นได้ชัด ตนยังเข้าไปแซวเลยว่า ลดความอ้วนหรอ เขาก็ตอบกลับมาแบบขำๆว่า กลัวจะสู้มึงไม่ได้ ซึ่งพอเขาเสียชีวิตไป ก็มานั่งคิดว่า เขาจะปิดบังตนทำไม นอกจากร่างกายที่ซูบผอมแล้ว หลังๆคุณตั้วยังมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จากที่เคยเดินไปเดินมา อยู่ไม่เคยนิ่ง ก็กลับนั่งเฉยๆอยู่ที่มอนิเตอร์
สิ่งสุดท้ายที่ตนอยากจะบอกกับคุณตั้วก็คือ จะแสดงละครเรื่องสุดท้าย ที่คุณตั้วที่เขียนบทเอง และกำกับเอง ให้ดีที่สุด อยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง แล้วตนก็จะเก็บวิชาความรู้การแสดงที่ได้จากคุณตั้ว มาปรับใช้อีกด้วย
ทราบว่าสะเทือนใจมากจนไม่สามารถพูดคุยกับใครได้เลย?
“ใช่ครับ อย่างที่เห็นเลย เมื่อกี้ขับรถมาถึงที่วัดผมยังนั่งอยู่ในรถประมาณชั่วโมงหนึ่ง ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่กล้าโทรหาใคร แต่มีคนโทรหาผมเยอะมาก ผมรู้ข่าวเรื่องพี่ตั้วจากรถเมล์ ซึ่งผมไม่รู้อะไรเลย ยังบอกรถเมล์เลยว่า อย่ามาแกล้งแบบนี้ได้มั้ย รถเมล์ก็บอกกลับมาว่าไม่ได้แกล้ง พูดจริงๆ
สำหรับตัวเรามันกะทันหันเหมือนกระชากหัวใจขนาดไหน?
“ผมกับพี่ตั้วอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ผมออกมาเป็นฟรีแลนซ์ ไม่ได้เซ็นกับพี่ตั้ว แต่ด้วยอะไรก็ไม่รู้พี่ตัวเอาผมมาเล่นละครเรื่อง สัมผัสรัตติกาล ทางช่องจีเอ็มเอ็ม25 แล้วผมก็เล่นคลับฟรายเดย์ฯ แล้วก็มาเรื่องล่าสุด ปาฏิหาริย์กาลเวลา ที่ยังถ่ายไม่เสร็จอีกประมาณ 10 คิว”
สนิทกันนานแค่ไหนแล้ว ?
“ถ้าพูดถึงความใกล้ชิดกับพี่ตั้วก็ประมาณ 3 ปีได้ เวลาไปที่กองเขาก็จะชอบแกล้งผม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน ผมก็รู้สึกว่าถูกชะตากับเขา ถ้าคนอื่นพูดคำว่าพ่อ เขาก็อาจจะเป็นพ่อในวงการบันเทิงของทุกคนก็ได้”
พอจะทราบอาการป่วยของพี่ตั้วมาก่อนหน้าบ้างไหม?
“ผมโทร.ถามตลอด แต่ก็ไม่มีใครพูด ผมพยายามสังเกตเพราะล่าสุดที่ถ่ายคิวสุดท้ายคือเห็นว่าเขาผอมไปมาก ผมไปเยี่ยมตลอดเพราะเขาจะชอบกินกับข้าวฝีมือแม่ผม ชอบกินกล้วยบวดชี อาหารไทยอะไรก็ได้ที่แม่ผมทำ ตอนนั้นเขาอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ วันที่ล้มวันแรกในกอง ผมก็ไปหาและได้เอากับข้าวไปให้กิน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เดี๋ยวก็คงหาย จนมาเจออีกทีตอนออกกองอีกครั้ง ตอนที่ผมเห็นก็คือนี่เหรอพี่ตั้ว แต่ก็ไม่ได้เอะใจว่าเป็นอะไร ผมยังเดินเข้าไปแซวเลยว่าเดี๋ยวนี้ลดความอ้วนเหรอพี่ เขาก็บอกว่า “เดี๋ยวหล่อสู้มึงไม่ได้” แล้วพอผมได้ยินข่าว มันเหมือนในละครที่แบบทำไมเขาต้องปิดเรา”
หรือว่าเขาไม่อยากให้เราเป็นห่วง ?
“ คือจริงๆเขาไม่อยากบอก แต่เข้าใจคนที่รักไหม อย่างเราก็จะคอยโทรถาม เขาเป็นยังไง เขาโอเคไหม ทีมงานบางคนยังไม่รู้เลย บอกว่า ก็ไม่ได้เป็นอะไรหนิ แต่เรารู้สึกเริ่มเอะใจ ว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า มันเหมือนในละครจริงๆนะ “
มีลางสังหรณ์อะไรไหม ?
“ ไม่มีเลยครับ แกไม่ค่อยพูดอะไร ตอนหลังแกจะนั่งเก้าอี้ ปกติแกจะเดินเยอะ บางครั้งผมจะชอบแกล้งแก ถามว่าจะเดินไปไหนนัก พักบ้างเหอะ แรงเหลือเนอะ หลังๆแกก็จะนั่งเก้าอี้แล้วแซวเรา “
มีพฤติกรรมแปลกไป ?
“ แปลกไป แต่เราไม่ได้เอะใจจริงๆ มารู้ข่าวอีกทีก็แบบ (ปล่อยโฮเลยไหม) ไม่ปล่อยโฮ แต่ไม่รู้ตัวเอง คือผมไปเตะบอล พอรู้ข่าวก็วางโทรศัพท์ หลังจากนั้นผมก็นั่งจนทุกคนหายไปหมดแล้ว แล้วก็คิดว่านี่ฝันหรือเปล่า อยากให้เป็นฝันจังเลย ผมไม่รู้จะพูดยังไง “
ได้เข้าไปบอกอะไรพี่ตั้วหรือยัง ?
“ ยังไม่อยากไป ขอผมนั่งก่อน เขาคงรู้แหละว่าผมมา ทีมงานก็โทรหาว่าเมื่อไหร่ผมจะมา ผมก็บอกไปว่า คนเยอะ ยังไม่อยากไป แต่จริงๆ คือผมไม่กล้ามา “
เพราะเรายังทำใจไม่ได้ ?
“ ใช่ๆครับ มันเร็วจนผมตกใจ ผมก็ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้สึกแบบนี้ได้ยังไง ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของพี่ตั้ว เขาเป็นไอดอลผมด้วย “
ผูกพันด้วยไหม ?
“ เขามีลักษณะคล้ายผมเหมือนกัน เขาเคยพูดว่า มึงเป็นแบบนี้ดีแล้วนะ เขาจะชอบผม แล้วผมก็ไปหาเขาที่บ้านบ่อยๆ ไม่มีถ่ายละครก็ไป แล้วก็ไปขอให้เขาสอนการแสดง ตอนหลังๆเขาก็สอน ผมไปที่บ้านเขา ผมบอกพี่ ผมขอเครื่องมือทำกินได้ไหม เขาถามว่าต้องการอะไร ผมก็บอกว่าผมเพิ่งออกมาเป็นฟรีแลนซ์ ปมได้ร่วมงานกับพี่แล้วผมรู้สึกแฮปปี้ พี่ช่วยสอนผมหน่อย เขาก็บอกเดี๋ยวมาเลย เขาก็สอนผมตัวต่อตัวเลย ให้ทำแบบฝึกหัดซึ่ง...”
พี่ตั้วทิ้งวิชาการแสดงไว้ให้เรา?
“ใช่ครับ”
อยากบอกอะไรกับพี่ตั้วบ้าง?
“ขอบคุณทุกๆอย่าง(เสียงสั่น) ขอบคุณที่ให้โอกาสผมจริงๆขอบคุณที่ผมได้อยู่ในช่วงสุดท้าย ช่วงเวลาที่มันมีอยู่ ผมไม่รู้จะพูดยังไง ขอบคุณทุกๆอย่างจริงๆ อยากบอกพี่ตั้วว่าไม่ต้องห่วง ปาฎิหาริย์กาลเวลายังไงผม รถเมล์ และทีมงานทุกคน จะทำให้มันดีที่สุด มันเป็นบทประพันธ์ที่พี่ตั้วเขียนเองโดยที่ไม่มีพล็อตเรื่องหรือเอามาจากนิยายอะไร ก็ไม่ต้องห่วง เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด จะเอาสิ่งที่พี่ตั้วสอนมาใช้ในวงการบันเทิงนี้ครับ”
เป็นพระเอกคนสุดท้ายของพี่ตั้ว?
“ผมไม่ได้ภูมิใจเลยที่ได้เป็นพระเอกคนสุดท้ายของพี่ตั้ว แต่ผมภูมิใจที่ผมได้ร่วมงานกับพี่ตั้ว ผมไม่อยากเป็นพระเอกคนสุดท้ายของพี่ตั้ว ผมไม่ภูมิใจครับ อย่ามีอันดับเลย”
อยากให้อยู่ต่อ?“เขาควรจะอยู่ต่อครับ วงการบันเทิงต้องการคนแบบนี้(เสียงสั่น)”