'ลูกศร ธนาภรณ์' เคลียร์ข่าวเม้าท์ ไม่ได้เป็นโรคคลั่งผอม จนสามีเตรียมขอหย่า!

"ลูกศร ธนาภรณ์" คุณแม่ลูกสองที่ยังหุ่นเป๊ะหนังปัง แม้วัยจะเฉียดเลข 5 แล้วแต่ยังสวยแซ่บไม่เปลี่ยน เปิดใจไม่ได้เป็นโรคคลั่งผอมจนสามีเตรียมขอหย่า สยบประเด็นลือมั่วสั่งน้ำเปล่ามานั่งจ้อง เจ้าตัวลั่น แค่อยากผอมแต่ไม่ได้เป็นโรคจิต! "สมัยก่อนพี่เคยลดด้วยวิธีอดอาหาร แต่พี่รู้ว่าการทำแบบนั้นมันผิด คือพี่เป็นคนมีวินัยมาก พี่จะกินแต่ถั่วอัลมอนด์ กินเหมือนกระต่ายอ่ะ กระต่ายกินอะไรพี่ก็กินแบบนั้น คือ กินแต่ธัญพืชและผลไม้" แต่ต้นตอข่าวลือที่ว่า ลดความอ้วนด้วยการล้วงคอให้อ้วก นั้นมาจากไหน เจ้าตัวเล่าว่า "คือตอนนั้นพี่ไปออกรายการหนึ่ง แล้วพี่ก็ให้สัมภาษณ์ คือ เวลาเราให้สัมภาษณ์อีกอย่างแล้วเอาไปพาดหัวอีกอย่าง ในรายการเราพูดว่า เราเข้าใจว่าความรู้สึกอยากผอมเป็นยังไง พี่เข้าใจคนที่อยากผอมแล้วล้วงคออ้วก แต่พี่ไม่ได้ล้วงเอง พี่แค่บอกว่า เข้าใจจิตใจคนที่ทำแบบนั้น แต่เราไม่เคยทำขนาดนั้นจริงๆ" นอกจากนี้ประเด็นเรื่อง สั่งน้ำเปล่ามานั่งจ้อง เจ้าตัวถึงกับพูดติดตลกว่า "พี่ไม่ได้เป็นโรคจิตนะคะคุณน้องงงงง" "คือ พี่เป็นโรคกระเพาะ มื้อเย็นพี่จะพยายามไม่ทาน พยายามลดอาหาร ทีนี้คุณหมอแนะนำว่า การดื่มน้ำจะช่วยจางกรดในกระเพาะ ทำให้น้ำกรดเจือจางลง คือคนเราควรดื่มน้ำเยอะๆ ยกตัวอย่าง ทานอาหารกับสามี สามีพี่กินวันละ 5 มื้อ แต่เป็นคนที่กินแล้วไม่อ้วน คือเราต้องนั่งดูเขากินวันละ 5 มื้อ ในขณะที่เราหลัง 3-4 โมงเย็นก็เริ่มไม่กินแล้ว เราก็ใช้วิธีดื่มน้ำ เพื่อเจือจางกรดในกะเพาะ แล้วยังทำให้ผิวดีด้วย ปรากฏเขาบอกว่า สั่งน้ำมานั่งจ้อง พี่ไม่ได้เป็นโรคจิตนะคะ แค่อยากผอม" สรุปว่าข่าวลือที่ "ลูกศร ธนาภรณ์" ใช้วิธีลดความอ้วนแบบผิดๆ นั้นไม่จริง ส่วนเคล็ดลับฉบับที่เจ้าตัวใช้จริงๆ คือ "หลักการณ์ของพี่นะ ความที่สมัยก่อนพี่เป็นคนที่อ้วนและมีปัญหากับเรื่องความอ้วนเยอะมาก และมันซึมมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เริ่มตั้งแต่พี่เป็นนักบัลเล่ต์ เราก็จะต้องหุ่นดีเพราะผู้ชายจะยกเราไม่ขึ้น เชื่อไหมว่าตอนเต้นบัลเล่ต์เป็นช่วงที่พี่อ้วนมากที่สุดในชีวิต เพราะมันเหนื่อย เราเลยกินเยอะ การเรียนบัลเล่ต์พี่เรียนแบบจริงจัง เรียนเพื่อเป็นครู เพราะฉะนั้นมันเหนื่อยมากค่ะ เหนื่อยมากเราก็ทานมาก ตอนเด็กๆ เราก็ไม่รู้ว่าเราจะลดยังไง ปรากฏว่าพี่ตัวใหญ่จนเวลาจะมีงานโชว์บัลเล่ต์ เชื่อไหมว่าเขาต้องอิมพอตนักบัลเล่ต์ผู้ชายมาจากเมืองนอก (หัวเราะ) เพราะคนไทยยกพี่ไม่ขึ้น ตอนนั้นหนัก 55 กิโล ด้วยความเป็นบัลเล่ต์เวลากินอะไรปุ๊บมันจะไปกองอยู่ที่ขา ต้นขาก็จะใหญ่ ซึ่งมันก็เป็นปมให้พี่รู้สึกแย่ พี่ก็เลยพยายามสรรหาวิธีการลดความอ้วนหลายๆ อย่าง" "แต่อยากบอกและแนะนำทุกคนเลยนะคะที่อยากจะดูแลรูปร่างตัวเอง หลักการณ์มันง่ายมากเลย คุณอยากจะผอม เอาออกให้มากกว่าเอาเข้า ซึ่งเรามีวินัยด้วยการเตรียมอาหารทุกมื้อไว้ก่อนวันรุ่งขึ้น คือ ตอนดึกเราก็เตรียมอาหารของวันรุ่งขึ้นไว้ เพราะพี่เป็นคนกินเก่งมาก เวลาลดน้ำหนักจะต้องเปลี่ยนความคิดเป็น ลดน้ำหนักก่อนแล้วค่อยกิน แต่คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่า กินก่อนเดี๋ยวค่อยลด คือ ให้รางวัลตัวเองก่อน แต่ต้องเปลี่ยนเป็น ลงโทษตัวเองก่อนค่ะ ลดก่อน ถ้าคุณทำได้ค่อยให้รางวัลตัวเอง แล้วถึงเวลานั้นเมื่อคุณกิน จะกินด้วยความรู้สึกว่า ฉันสวย ไม่ได้กินด้วยความรู้สึกผิดอยากจะอ้วก" เพราะว่ามีวินัยในการดูแลรูปร่างแบบเคร่งครัดจัดหนัก จึงมีข่าวเม้าท์ออกมาอีกว่า "สามีถึงกับทนไม่ได้จะขอเลิก!!??" งานนี้พี่ลูกศร จะแก้ข่าวว่าอย่างไร ไปฟังเจ้าตัวบอก แถมพยานปากเอก ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน ลูกสาวทั้ง 2 คนนั่นเองจ้า